ภารกิจช่วย 2 หญิงไทย พ้นเงื้อมมือนรกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เปิดความเชื่อมโยง “จีนเทา” กับ “ไทยเทา” จับมือค้ามนุษย์ริมชายแดน พร้อมสำรวจเพาเวอร์ “พ.อ.หม่อง ชิตตู่” สยายปีกแหล่งซุกซ่อนฝั่งเมียนมา
ทีมข่าว SEE TRUE ยังติดตามภารกิจปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แค่ข้ามแม่น้ำเมยไปอีกฟากฝั่ง จะเห็นสภาพการปกครองของพม่าในจังหวัดเมียวดี ที่เป็นเสมือนรัฐซ้อนรัฐรัฐบาลกลางเมียนมา ไม่สามารถปกครองชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยงได้อย่างเบ็ดเสร็จ เพราะที่นี่ มีสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงหรือ KNU ที่มีเป้าหมายสถาปนารัฐกะเหรี่ยง
โดยรัฐกะเหรี่ยง มีหลายกองกำลัง โดย KNLA เป็นทหารหลักของ KNU ยังมีกองกำลังกะเหรี่ยง DKBA ซึ่งนำโดย พ.อ.หม่องชิตตู่ ที่แยกออกมาจาก KNLA และต่อมาได้นำ DKBA เข้าเป็นกองกำลังพิทักษ์ชายแดน หรือ BGF ขึ้นตรงกับกองทัพพม่า ก่อนจะเปลี่ยนใจวางตัวเป็นกลาง และใช้ชื่อว่ากองกำลัง KNA
ในสภาพรัฐซ้อนรัฐ ที่ทำให้แก๊งอาชญากรชาวจีน ทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และค้ามนุษย์ เข้ามาปักหลักตั้งฐานหลอกลวงผู้คนทั่วโลก ในเขตอิทธิพลของ พ.อ.หม่องชิตตู่ ผู้นำ BGF จนกลายเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมระดับโลก
...
ไม่ว่าจะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งหลอกลวงออนไลน์หลากหลายรูปแบบ หรือสแกมเมอร์ ที่เลวร้ายที่สุด คือการค้ามนุษย์ หลอกคนจากชาติต่างๆ บังคับทำงานหลอกลวงออนไลน์ หากไม่ยอมทำ หรือทำเงินได้ไม่ถึงเป้า ก็จะถูกทำร้าย ซึ่งตอนนี้ คาดว่ามีเหยื่อค้ามนุษย์ที่ยังรอการช่วยเหลือ 6 พันกว่าคน และไทย กำลังถูกกล่าวหา ว่ามีส่วนช่วยทำให้แก๊งจีนเทาเหล่านี้สยายปีก
ทีมงาน SEE TRUE ได้รับข้อความขอความช่วยเหลือจากหญิงไทย 2 คน อายุ 16 ปี และ 24 ปี ว่าถูกหลอกไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในฝั่งจังหวัดเมียวดี ของเมียนมา พวกเธอแอบถ่ายคลิปส่งให้ โดยแก๊งนี้มีหัวหน้าชาวจีน ชื่อไมเคิล มีที่ตั้งริมแม่น้ำเมย ในสตาร์คอมเพล็กซ์ กาสิโน ตรงข้ามบ้านวังตะเคียนใต้ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ทำให้ยังสามารถโทร.ติดต่อพูดคุยได้ ทั้งสองคนถูกพาลอบข้ามแม่น้ำเมย แถวหมู่ 6 ต.แม่ตาว จากนั้นพาขึ้นรถขึ้นเหนืออีกราว 1 ชั่วโมง นำตัวไปอยู่ในตึกสีเทาริมแม่น้ำเมย
ทีม SEE TRUE เดินทางลงพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อแกะรอยรูปแบบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อยู่ในฝั่งจังหวัดเมียวดี ประเทศพม่า และเพื่อหาหนทางประสานหน่วยงานรัฐช่วยเหลือหญิงไทย 2 คน ที่กำลังอยู่ในเงื้อมมือของแก๊งคอลเซ็นเตอร์
หญิงไทยทั้งสองคน วางแผนหนีด้วยการต้องไปทำเอกสารประจำตัวเพิ่มยังที่ว่าการ อ.แม่สอด เพื่อนำไปเปิดบัญชีธนาคาร แต่การจะหนีเป็นไปได้ยาก เพราะมีคนของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ประกบไว้ตลอด เราจึงประสานปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานความมั่นคง และ อส. อำเภอแม่สอด ให้ช่วยเหลือทั้งสองคนเมื่อเดินทางมาถึงที่ว่าการอำเภอ แต่ไม่รู้ว่าจะข้ามแดนตรงจุดไหน
ทีมข่าวได้คลิปหญิงไทยทั้งสองคน กำลังถูกพาตัวออกจากจุดนี้ ซึ่งเธอบอกว่าน่าจะพาข้ามจุดเดิม จึงเดินทางลงทางใต้ไปดูตรงจุดลักลอบข้ามแม่น้ำเมย ตรงข้ามหมู่ 6 ตำบลแม่ตาว ซึ่งเป็นจุดเดิมที่พวกเธอ ถูกพาลอบข้ามตอนขาเข้าพม่า อยู่ห่างจากสตาร์คอมเพล็กซ์ประมาณ 12 กิโลเมตร ตรงนี้ เป็นร้านอาหารไทยในฝั่งพม่า พบเพียงเรือสองสามลำ จอดลอยลำอยู่ แต่ติดต่อเธอทั้งสองไม่ได้แล้ว
ช่วย 2 หญิงไทยได้สำเร็จ
การช่วยเหลือหญิงไทย 2 คน ที่ถูกหลอกไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และถูกนำข้ามกลับฝั่งไทย เพื่อเปิดบัญชีม้า ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง และ อส. อำเภอแม่สอด วางแผนช่วยเหลือทั้งคู่ ตามที่เธอทั้งสองออกอุบายให้สมาชิกแก๊งพาไปที่ว่าการอำเภอ
หลังทีมข่าวได้คลิปสุดท้ายของพวกเธอ ตอนเดินทางออกจากสตาร์คอมเพล็กซ์กาสิโน และเดินไปขึ้นรถยนต์ เพื่อไปยังจุดลอบข้ามแม่น้ำเมย แล้วติดต่อไม่ได้ จากนั้นไม่นาน เธอติดต่อกลับมาว่า ข้ามกลับมาฝั่งไทยแล้ว และสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในไทย ตกหลุมพรางนำรถยนต์มารับ เพื่อเดินทางไปที่ว่าการอำเภอแม่สอดตามแผน
และเมื่อไปถึงที่ว่าการอำเภอ ปลัดอำเภอ และ อส. เข้าให้การช่วยเหลือ และจับกุมตัวสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มาส่ง พร้อมกับส่งตัวหญิงสาวทั้งสองคน ไปศูนย์คัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์จังหวัดตาก
ทีมข่าว SEE TRUE ที่เดินทางมาเยี่ยมเธอทั้งสองคน ก่อนถูกส่งไปคุ้มครองโดยกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพราะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังส่งคนมาตามคุกคาม
...
แก๊งคอลเซ็นเตอร์ “เมียวดี” ใต้ปีก “พ.อ.หม่อง ชิตตู่”
รังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เราจะเห็นจุดร่วมของพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่อย่างหนึ่ง คือเขาชอบตั้งอยู่ชายแดนไทย ตั้งอยู่ใกล้ชายแดนไทย นั่นหมายความว่าเขาต้องได้ประโยชน์อะไรบางอย่าง จากการมาตั้งในพื้นที่แบบนี้ ทำไมเขาไม่ไปตั้งที่ย่างกุ้ง ทำไมเขาไม่ไปตั้งในเมืองที่มันเจริญกว่า ก็เพราะว่าทุกอย่างมันมาจากไทย
แหล่งที่อาจจะเป็นที่ตั้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์มันมีอยู่ประมาณ 40 แห่ง ในเมียวดี ตัวเลขผมจำไม่ผิดนะครับ ที่เจ้าของอาจจะเป็นคนไทยนี่ ผมว่าน่าจะมีเกิน 10 แห่ง แล้วก็มีคนมีสีเกี่ยวข้อง และมันไม่ใช่สถานที่ที่เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเว็บพนันออนไลน์ เป็นในเรื่องของบ่อนกาสิโน บ่อนกาสิโนค่อนข้างชัวร์ ดังนั้นการตัดไฟมันอาจกระทบธุรกิจพวกนี้
“ก็น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า บีจีเอฟอยากได้ตังค์ คอลเซ็นเตอร์อยากได้สถานที่ตั้งที่หลีกเลี่ยงกฎหมายได้ แล้วก็หลอกลวงคนมาเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงคนเพื่อเอาเงิน ทั้งสองฝ่ายก็พึ่งพาซึ่งกันและกัน ประเด็นก็คืออาจจะมีทุนไทย เป็นตัวเชื่อมด้วย อาจจะได้รับผลประโยชน์บางอย่างด้วย”
...
จากข้อมูลพบว่า ตัวเลขเหยื่อค้ามนุษย์ที่ถูกหลอกมาทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และหลอกลวงออนไลน์รูปแบบต่างๆ อาจไม่ใช่เพียงแค่ 6 พันคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่มีการขอความช่วยเหลือ แต่มีการประเมินว่าเฉพาะที่เมียวดี มีคนถูกหลอกมาบังคับทำงานให้แก๊งอาชญากรเหล่านี้ประมาณ 1 แสนคน
หลังทีม SEE TRUE ลงพื้นที่สำรวจแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นที่เมียวดี ประเทศพม่า รวมทั้งศูนย์กลางแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีกแห่งที่เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ทำให้เห็นความเป็นไป และความเป็นจริงของอาชญากรเหล่านี้ เราจึงได้มอบข้อมูลเท่าที่มีให้นายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ติดตามได้ในภารกิจ SEE TRUE ให้คุณเห็นความจริง ติดตามต่อเนื่องในวันที่ 10-13 ก.พ. 68 ทางรายการไทยรัฐนิวส์โชว์ เวลา 21.00 น.