แก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลายเป็นปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ที่อยู่ใกล้เพียงแค่ปลายจมูก แต่ไทยจัดการไม่หมดสิ้น อดีตนายตำรวจมองเป็นปัญหาระดับประเทศ ไทยต้องตัดท่อน้ำเลี้ยงที่ส่งไปยังเครือข่ายในประเทศเพื่อนบ้าน มองพื้นที่ริมชายแดนกลายเป็นแหล่งกบดานอาชญากร
แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงินเข้าบัญชีม้าระบาดหนักในไทย ช่วงหลังซับซ้อนมากขึ้นในการใช้เอไอเข้ามาปลอมเสียงและภาพในการวิดีโอคอลเพื่อหลอกเหยื่อ โดยเครือข่ายเหล่านี้กระจายอยู่ตามพื้นที่แนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ล่าสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาตินำข้อมูลเชิงลึกจากทั้งสองฝ่ายมาวิเคราะห์หาช่องจับมิจฉาชีพ ทลายเครือข่ายที่ใช้อุปกรณ์ซิมบ็อกซ์ (Simbox) สกัดจับพฤติกรรมการโทรหรือส่ง SMS ที่ผิดปกติเพื่อหยุดยั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทลายแหล่งมิจฉาชีพในการสร้างความเสียหายการสูญเสียทรัพย์สินจากการหลอกลวงประชาชน

ไทยและพื้นที่ริมชายแดนกลายเป็นแหล่งกบดานสำคัญของแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ อดีตผู้บังคับการกองปราบปราม มองว่า ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กำลังสร้างความเดือดร้อนและเสียหายให้กับผู้คนในประเทศไทย และยังมีการขยายตัวไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่า โดยเฉพาะการหลอกลวงคนจีนให้มาทำงานในลักษณะของคอลเซ็นเตอร์ที่ผิดกฎหมาย ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้เกิดการฉ้อโกงในระดับประเทศ แต่ยังเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
...

แก๊งคอลเซ็นเตอร์: ปัญหาที่ไม่หยุดขยายตัว
แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้กลายเป็นภัยร้ายที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และสร้างความเสียหายให้กับประชาชนในหลายประเทศ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีการใช้เทคโนโลยีในการหลอกลวงผู้คนเป็นจำนวนมาก
พล.ต.ต.สุพิศาล ได้กล่าวว่า แก๊งเหล่านี้มักใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การปลอมแปลงเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือเจ้าหน้าที่ธนาคาร เพื่อหลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินให้กับพวกเขา บางครั้งยังมีการทำงานร่วมกับองค์กรต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งการจับกุมและดำเนินคดีเหล่านี้กลายเป็นภารกิจที่ยากลำบากเนื่องจากมีการหลบหนีและหลีกเลี่ยงการจับกุมอย่างมีระเบียบ
จีนเทา: กลุ่มคนจีนที่ตกเป็นเหยื่อ
พล.ต.ต.สุพิศาล ยังได้พูดถึงปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "จีนเทา" ซึ่งหมายถึงกลุ่มคนจีนที่ถูกหลอกให้มาทำงานในคอลเซ็นเตอร์ผิดกฎหมายที่ประเทศพม่า การหลอกลวงนี้มักใช้วิธีการโปรโมตงานที่ดูเหมือนจะเป็นการทำงานในบริษัทต่างชาติที่มีชื่อเสียง แต่เมื่อผู้ตกเป็นเหยื่อเดินทางมาถึงพม่าแล้ว พวกเขากลับพบว่าเป็นการหลอกลวงให้มาทำงานในระบบที่ผิดกฎหมาย โดยไม่สามารถออกจากสถานที่ได้และต้องทำงานในสภาพที่เลวร้าย
การหลอกลวงในลักษณะนี้ไม่เพียงแต่ทำให้คนจีนตกเป็นเหยื่อ แต่ยังทำให้เกิดปัญหาทางด้านสังคมและเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคอีกด้วย เนื่องจากเป็นการสร้างเครือข่ายการฉ้อโกงข้ามประเทศที่ยากต่อการติดตามและควบคุม

แนวทางการแก้ไขของรัฐบาลไทย
เพื่อลดปัญหาการขยายตัวของแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการหลอกลวงในลักษณะจีนเทา พล.ต.ต.สุพิศาล ได้เสนอแนวทางการแก้ไขที่สำคัญ ซึ่งรวมถึงการทำงานร่วมกับหน่วยงานในต่างประเทศ เช่น การประสานงานกับตำรวจพม่า และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในประเทศจีน เพื่อจับกุมและดำเนินคดีผู้กระทำผิด รวมไปถึงการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐในประเทศไทยเพื่อขยายการตรวจสอบและจับกุมผู้กระทำผิดทั้งในและนอกประเทศ
นอกจากนี้ยังต้องมีการเพิ่มการรณรงค์ให้ประชาชนระมัดระวังการหลอกลวงจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้คนเกี่ยวกับวิธีการตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบ ก่อนที่จะให้ข้อมูลส่วนตัวหรือโอนเงินไปยังบุคคลที่ไม่รู้จัก
อีกหนึ่งแนวทางที่สำคัญคือ การเสริมสร้างกฎหมายและการดำเนินการด้านการฟอกเงินที่มีประสิทธิภาพ เพื่อปิดช่องโหว่ที่ทำให้แก๊งเหล่านี้สามารถหลบหนีจากการจับกุมได้ ซึ่งต้องใช้ทั้งเทคโนโลยีที่ทันสมัยและการทำงานร่วมกันกับองค์กรระหว่างประเทศในการติดตามตัวผู้กระทำผิด
...
ปัญหาการหลอกลวงจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์และจีนเทาที่มีขยายตัวไปยังพม่านั้น ถือเป็นภัยร้ายที่ไม่เพียงแต่กระทบต่อความมั่นคงทางการเงินของประชาชน แต่ยังเป็นปัญหาที่ท้าทายการบังคับใช้กฎหมายของทั้งไทยและประเทศเพื่อนบ้าน การแก้ไขปัญหานี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย
ทั้งในระดับประเทศและระดับระหว่างประเทศ การให้ความรู้แก่ประชาชนและการเสริมสร้างระบบป้องกันที่มีประสิทธิภาพจะเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันและลดความเสี่ยงจากการตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในอนาคต