พายุยางิ เตรียมขึ้นฝั่งถล่มไทย ฝนตกหนัก มวลน้ำเหนือสูง

คาด "พายุยางิ" ขึ้นฝั่งเวียดนามพรุ่งนี้ (7 ก.ย. 2567) ส่งอิทธิพลถึงไทย ทำลมกระโชกแรงบางแห่ง เหนือ-อีสานตอนบนฝนตกหนักถึงหนักมาก ผู้เชี่ยวชาญชี้ โดยเฉพาะเชียงราย น่าน พะเยา อาจได้รับความสูญเสียซ้ำจุดเดิมอีกครั้ง

"พายุยางิ" (Yagi) กลายเป็นที่จับตาของคนไทย เพราะมันชวนสร้างความกังวลว่า จะทำให้เกิดความเสียหายขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะต่อพี่น้องทางภาคเหนือของไทย เชียงราย น่าน และพะเยา

อ่านเพิ่มเติม : จับตาพายุยางิ ฝนถล่มไทย เชียงราย-น่าน-พะเยา เสี่ยงท่วมซ้ำ

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุยางิ ฉบับที่ 11 (170/2567) และรายงานหน้าเพจกรมอุตุนิยมวิทยา เผยให้เห็นภาพถ่ายดาวเทียมและทิศทางของพายุไต้ฝุ่นยางิ ช่วงคืนที่ผ่านมาถึงเช้าวันนี้ (6 ก.ย. 2567) พบว่า พายุมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีศูนย์กลางอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน (ตะวันออกของเกาะไหหลำ)

กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 20 กม./ชม. คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ อ่าวตังเกี๋ย ประเทศจีน และขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนช่วงเวลา 13.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (7 ก.ย. 2567) และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนักถึงหนักมาก และลมกระโชกแรงบางแห่ง ในช่วงวันที่ 7-8 ก.ย. 2567

เกี่ยวกับเรื่องนี้ รศ.ดร.วิษณุ อรรถวานิช อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ระบุว่า เท่าที่ติดตามพายุยางิเห็นว่าความรุนแรงเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ เมื่อดูจากแบบจำลองอยู่ที่ระดับ 4 แล้ว ตอนนี้พายุยังอยู่ในทะเลเลยเหมือนยังมีเชื้อไฟอยู่ กล่าวคือ ลองสังเกตว่าเมื่อพายุขึ้นฝั่งจะอ่อนกำลังลง แต่เวลาอยู่ในทะเลน้ำอุ่นกลายเป็นไอระเหยขึ้น ก่อนจะควบแน่นลงมาเป็นน้ำฝน ทำให้กำลังของพายุรุนแรงมากยิ่งขึ้น

ถ้าดูแบบจำลองเห็นว่าเส้นทางของพายน่าจะขึ้นฝั่งเวียดนาม ส่วนจะเข้าไทยหรือไม่ก็ยังมีแบบจำลอง 2 แบบ คือ แบบจำลอง GFS ไม่ได้คาดการณ์ว่าจะมาโดนไทยมากเท่าไร แต่แบบจำลอง ECMWF คาดการณ์ว่าเราจะโดนอิทธิพลช่วงหางพายุ ทำให้ภาคอีสานตอนบน และภาคเหนือจุดเดิมที่เคยท่วมไปแล้ว อาจจะต้องเจอกับปัญหาอีกครั้ง

หากดูแบบจำลองนอกจากจะต้องเจอกับลมแรง ยังพบว่าช่วงสัปดาห์นี้ปริมาณฝนจะเยอะกว่าค่าเฉลี่ยปกติพอสมควร อีสานตอนบน เหนือตอนบน มีความสุ่มเสี่ยงที่จะได้รับความสูญเสียจากน้ำท่วมและวาตภัย

"เชียงใหม่ เชียงราย น่าน พะเยา รวมถึงจังหวัดที่อยู่ขอบชายแดนทางเหนือ มีความเสี่ยงทั้งหมด เพราะหางพายุอาจจะเหวี่ยงไปโดน อย่างไรก็ตาม อาจจะมีสาเหตุอื่นที่ทำให้เกิดความเสียหายด้วย เนื่องจากพายุนี้จะขึ้นไปทางตอนเหนือ น้ำจากทางตอนเหนืออาจจะไหลผ่านลงมาที่ประเทศไทยก็ได้"

พายุยางิไม่ได้ถือเป็นพายุจร เพราะช่วงกันยายน ถึง พฤศจิกายนเป็นฤดูของพายุอยู่แล้ว แต่จะเข้ามากี่ลูก จะแรงหรือเบานั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง หลังจากนี้ก็เป็นไปได้ที่พายุจะเกิดขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ช่วง 10 วันจากนี้ยังไม่เห็นการฟอร์มตัวของพายุลูกอื่นเพิ่มเติม

ผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กล่าวว่า ถ้าเข้าเวียดนามแล้วยังไงเราก็คงได้รับอิทธิพลแน่ เพียงแต่ว่ามันจะอ่อนกำลังลง ไทยไม่ได้เจอแบบตรงๆ ถือว่าโชคดีที่มีประเทศอื่นกั้นไว้ก่อน สำหรับพื้นที่ภาคกลาง ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากพายุยางิมียากมาก คาดว่ามีเพียงฝนตามฤดูปกติ ไม่ได้รับอิทธิพลลมแรงหรือน้ำท่วมเหมือนทางภาคเหนือ และยังไม่เกี่ยวข้องกับมวลน้ำที่มาถึงพระนครศรีอยุธยา หรือนนทบุรี เพราะน้ำที่มาภาคกลางตอนนี้เป็นน้ำที่ระบายมาจากทางเหนือ

"ปัจจุบันนี้ความน่ากลัวเรื่องภัยธรรมชาติเพิ่มขึ้น เช่น น้ำท่วมก็ไม่ได้ท่วมซ้ำซากเหมือนอดีต แต่จะเป็นพื้นที่ใหม่ๆ ที่อาจไม่เคยเกิดมาก่อน เนื่องจากโลกเกิดความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สิ่งเหล่านี้จึงอาจกลายเป็นปัญหา เพราะคนที่ไม่เคยเจอมาก่อน เขาอาจจะยังมีระดับความตระหนักรู้ที่ไม่มากพอ อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องให้ข้อมูลความรู้และคำแนะนำ"