เหยื่อเหล้าเถื่อนซุ้มยาดอง 18 ซุ้ม ในเขตมีนบุรี และเขตคลองสามวา เนื่องจากได้รับพิษเมทานอลที่ไม่ควรนำมาบริโภคผสมในเหล้าในปริมาณสูง จนเลือดเป็นกรด ล่าสุดเสียชีวิตแล้ว 4 ศพ มีอาการวิกฤติ 1 ราย ส่วนที่เหลือต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 15 ราย ฟอกไต 22 ราย และตาพร่ามัว 21 ราย 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ต.ค. 2562 มีการขายยาดองเหล้าเถื่อนที่มีคางคกเป็นส่วนผสมในพื้นที่ ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ และหามส่งโรงพยาบาล 12 ราย มีอาการอาเจียน คลื่นไส้ ลิ้นแข็ง หายใจไม่สะดวก

ศูนย์พิษวิทยาศิริราช ให้ข้อมูลว่า เมทานอล หรือ Methyl alcohol คือ แอลกอฮอล์ชนิดหนึ่งที่มักถูกนำมาใช้หลากหลาย เช่น น้ำยาล้างแปรงสี ตัวทำละลายในห้องปฏิบัติการ เป็นเชื้อเพลิงเครื่องจักรบางชนิด เป็นส่วนประกอบหนึ่งของทินเนอร์ และอาจพบในการต้มเหล้าเถื่อน ยาดองอีกด้วย มีผลต่อร่างกายทำให้เลือดเป็นกรด ความดันโลหิตต่ำ มีอาการหายใจเหนื่อยหอบ เมา ซึมได้เหมือนเหล้าทั่วไป และอาจทำให้ตาบอด

หากมีอาการหลังจากรับประทานเหล้าเถื่อน ร่วมกับอาการตามัว หายใจหอบเหนื่อย อาจเป็นภาวะพิษจากเมทานอล และหากไม่ทำการรักษาอาจเสียชีวิตได้ โดยการรักษา ยาต้านพิษเมทานอล คือ เอทานอล หรือเหล้าที่ดื่มได้ ร่วมกับการให้ยา Folinic acid หรือ Folic acid หากมีอาการรุนแรงอาจต้องทำการฟอกไตร่วมด้วย จำเป็นต้องอยู่ในการดูแลใกล้ชิดของทีมแพทย์

...

เหล้าเถื่อนผสมเมทานอล สารอันตราย ออกฤทธิ์ 1-3 ชม.

"รศ.วีรชัย พุทธวงศ์" ภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระบุว่า เมทานอลที่ผสมในเหล้ายาดอง สามารถถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจและผ่านทางผิวหนัง รวมถึงการรับประทาน ทำให้มีอาการระคายเคืองต่อตา ผิวหนัง และทางเดินหายใจ อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง อาจมีผลทำให้หมดสติ สามารถทำให้ตาบอดและเสียชีวิต

“ผู้ดื่มสารเมทานอล จะออกฤทธิ์ใน 1-3 ชั่วโมง หลังเข้าสู่ร่างกาย เป็นสารอันตราย ใช้ในอุตสาหกรรมฟอกสีและแลกเกอร์ ถ้าโดนผิวหนังจะดูดซึมเข้าผิวหนัง และถ้ารับประทานเข้าไป ระบบย่อยอาหารจะมีปัญหา เกิดอาการปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน ส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง และหากเข้าสู่ร่างกายปริมาณที่มากพอสมควร จะยิ่งเกิดอาการตาพร่ามัว มีผลต่อระบบประสาท ถึงขั้นเสียชีวิตได้”

เหล้าเถื่อนซุ้มยาดองมรณะ คนขายก็ผิด คนซื้อก็ผิด

“ดร.นิตยา โสรีกุล” รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาด้วยอาการภาวะเป็นพิษจากเมทานอล มีประวัติดื่มสุราจากซุ้มยาดอง โดยทุกรายมีอาการเวียนศีรษะ ไม่มีเรี่ยวแรง ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียนรุนแรง ตามองไม่เห็น หรือมองเห็นผิดปกติ ชักเกร็งกระตุกทั้งตัว ซึม และภาวะเลือดเป็นกรด โดยบางรายต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ

จากการตรวจวิเคราะห์สุราของกลาง พบว่าน้ำสุรามีเมทานอลและสารไอโซไพรพิล แอลกอฮอล์ เจือปน โดยผู้ต้องหาให้การว่าได้ผลิตสุราผิดกฎหมาย ก่อนนำไปขายต่อให้กับกลุ่มผู้ผลิตสุรายาดอง จึงแจ้งข้อหาร่วมกันผลิตสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมีไว้เพื่อขายซึ่งสุราที่ผลิตขึ้นตามมาตรา 153 วรรคหนึ่งของ พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 

“ผู้ผลิตสุราเถื่อน มีการส่งขายร้านยาดองในพื้นที่ใกล้เคียงอีก 18 แห่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เร่งเข้าดำเนินการตรวจสอบ และปราบปรามผู้กระทำความผิดกฎหมายสรรพสามิตต่อไป สำหรับผู้ที่มีประวัติดื่มสุราเถื่อนในบริเวณดังกล่าวและบริเวณใกล้เคียง ขอให้สังเกตอาการ หากพบอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์โดยทันที” 

การเปิดซุ้มยาดองเพื่อจำหน่ายสุราเป็นการกระทำผิดกฎหมายใน 2 ข้อหา 1. ความผิดฐานขายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 155 มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท 2. ความผิดฐานเปลี่ยนแปลงน้ำสุรา โดยนำน้ำของเหลวหรือวัตถุอื่นใดเจือปนลงในสุราเพื่อการค้า ตามมาตรา 158 มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท

ส่วนกรณีครอบครองเครื่องกลั่นสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 153 วรรคหนึ่ง มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากขายสุราเถื่อนจะมีโทษปรับ ตามมาตรา 191 มีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท

ขณะเดียวกัน ผู้ซื้อก็มีความผิด ตามมาตรา 192 มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และในช่วงเดือน ต.ค. 2566-ก.ค. 2567 กรมสรรพสามิตเดินหน้าปราบปรามคดีซุ้มยาดองในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 284 คดี จับสุราของกลางได้ 1,231.34 ลิตร ปรับเงินกว่า 3.14 ล้านบาท

...

ซุ้มยาดอง เปิดเกลื่อนทั่วประเทศ ผิดกฎหมายทั้งนั้น

“สมบูรณ์ แก้วเกรียงไกร” นายกสมาคมสุราท้องถิ่นไทย มองว่า ปัญหาสุราเถื่อนหรือเหล้าเถื่อนแก้ไม่ได้ เพราะมีการรับส่วยซึ่งมีมานาน 30-40 ปีแล้ว และการตั้งซุ้มยาดอง ผิดกฎหมายอยู่แล้ว มีการดัดแปลงน้ำสุราและเหล้าขาวที่ผสมกับยาดองตามซุ้มยาดองทั่วประเทศ ส่วนใหญ่ก็ใช้เหล้าเถื่อน ผิดกฎหมายไปเต็มๆ เมื่อมีข่าวออกมาก็จะปิดซุ้มยาดองไประยะหนึ่ง แล้วกลับมาเปิดอีก

“ซุ้มยาดองทั่วประเทศที่เปิดๆ กัน เกือบ 99% ใช้เหล้าเถื่อน มีการแย่งพื้นที่ในการขายระหว่างพ่อค้าคนกลาง ด้วยการตัดราคาเพื่อดึงลูกค้า มีทั้งเหล้าเถื่อนและซุ้มยาดองเถื่อน ไม่มีใครเอาเหล้าถูกกฎหมายมาขาย เพราะต้นทุนสูง ก็ต้องหาเหล้าขาวที่ต้นทุนต่ำๆ อย่างที่เหล้าถูกกฎหมายจากโรงงาน ขนาดแกลลอน 5 ลิตร ราคา 300 บาท หรือตกลิตรละ 60 บาท ก็ต้องแอบเอาเหล้าไม่มีแสตมป์มาขายในราคาถูก แค่ต้นทุนอากรแสตมป์ อยู่ที่ 50-60 บาท ถ้าเหล้าเถื่อนก็จะขายถูกกว่า”

...

กรณีเหล้าเถื่อนซุ้มยาดองใช้เมทิลแอลกอฮอล์ 95% นำมาผสมกับน้ำให้เจือจางเพื่อให้ได้ปริมาณ 3 เท่า อาจเป็นเพราะไม่มีความรู้ และทำอย่างไรให้ต้นทุนการผลิตต่ำ เมื่อมีการขายถูกกว่าเจ้าอื่นก็จะมีการขายเป็นทอดๆตามซุ้มยาดอง และซุ้มยาดองทั่วประเทศผิดกฎหมายทั้งนั้น เพราะดัดแปลงน้ำสุรา ซึ่งเรื่องนี้สรรพสามิตเป็นหน่วยงานหลักในการตรวจสอบ แต่ปล่อยปละละเลยให้มีการเปิดขาย ส่วนตำรวจได้ผลพลอยได้

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเอาเมทิลแอลกอฮอล์มาผสม ส่งผลกระทบต่อสุราชุมชนในแง่ภาพลักษณ์ ทำให้คนเข้าใจผิดคิดว่าสุราชุมชนเป็นเหล้าเถื่อน มีอันตราย ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ ก็อยากให้คนเข้าใจ อยากให้สุราชุมชนสามารถโฆษณาได้ เพื่อสร้างการรับรู้ที่ถูกต้อง ไม่ใช่รับรู้แค่วงจำกัดในกลุ่มที่ชื่นชอบสุราชุมชนเท่านั้น”.