ปรากฏการณ์งูเห่าจากพรรคฝ่ายค้านโผล่ โหวตข้ามขั้ว เห็นชอบให้ แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะ สส.พรรคไทยสร้างไทย ทั้งหมด 6 คน รวมใจเทคะแนนให้อย่างพร้อมเพรียง ราวกับว่ามีการนัดหมายกันไว้ อ้างว่าประเทศชาติต้องการคนเข้ามาบริหารประเทศ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ก่อนหน้านั้น 3 สส.พรรคไทยสร้างไทย เคยลงคะแนนเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2567 จนฐากร ตัณฑสิทธิ์ แสดงความรับผิดชอบลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย

การแหกมติพรรคฝ่ายค้านซ้ำอีก และครั้งนี้มาแบบยกแผงทั้งหมด 6 คน ทำให้ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ต้องออกมาขอโทษประชาชน และเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นการด่วน เพื่อพิจารณาการกระทำของ สส.ทั้ง 6 คน เพราะขัดต่อจุดยืนอุดมการณ์ประชาธิปไตยของพรรค และผิดมารยาทในการทำงานร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กับ 5 สส.แบ่งเขต พรรคไทยสร้างไทย
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กับ 5 สส.แบ่งเขต พรรคไทยสร้างไทย

...

เบื้องหลัง 6 งูเห่าไทยสร้างไทย การเมืองใต้ดิน เจรจาต่อรอง

งูเห่าทั้ง 6 จากพรรคไทยสร้างไทย น่าจะมีเบื้องหลัง หรือผลประโยชน์ต่างตอบแทนในทางการเมืองหรือไม่? และเรื่องนี้ “รศ.ดร.ธนภัทร ปัจฉิมม์” คณบดีโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต บอกเลยว่า การโหวตสวนข้ามขั้วแบบนี้ ก็เพราะการเมืองเป็นการเจรจาต่อรอง เป็นเรื่องของผลประโยชน์ เป็นปรากฏการณ์ปกติของนักการเมืองที่ไม่มีอุดมการณ์ และอย่าลืมว่าพรรคการเมืองของไทยต้องใช้ทุน จะให้อดอยากปากแห้งในการเป็นฝ่ายค้าน ก็อยู่ไม่ได้ ต้องทำอย่างไรให้เป็นรัฐบาล

“ถามว่างูเห่าโผล่ผิดคาดมั้ย ก็ไม่นะ การเมืองเป็นการต่อรอง อาจมีตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี หรือตำแหน่งอื่นๆ ตามสไตล์คุณทักษิณ ชินวัตร และการเมืองไทยมีทั้งบนดิน ใต้ดิน ในการให้มาสนับสนุนพวกตัวเอง ที่ผ่านมาการเมืองไทยทำมาตลอด และสะท้อนว่าพรรคนั้นจะหายไป เพราะคนที่อยู่กับพรรค อยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์ หรือมีความหวังว่าจะอยู่ต่อ แต่การทำงานในพื้นที่ต้องใช้ปัจจัย ต้องมีกระสุน ต้องพยายามเป็นมิตรกับฝ่ายรัฐบาลให้มากที่สุด ในการเชื่อมโยงงบประมาณ และดูแล้วงูเห่าทั้ง 6 คนต้องการจะให้พรรคขับออกอยู่แล้ว”

ในความเป็นจริงการทำพรรคการเมืองต้องมีต้นทุน ถ้าไม่ยึดมั่นอุดมการณ์ก็อยู่ไม่ได้ ส่วนสมาชิกที่เข้ามาเป็นการอาศัยอยู่ในพรรคในช่วงต้นๆ เท่านั้น คนเหล่านี้ไม่มีอุดมการณ์ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ เพราะแค่เงินเดือน สส. ไม่เพียงพอในการทำงานเชิงพื้นที่ เป็นต้นทุนของพรรคในการดูแลคนในพรรค หากปล่อยตามยถากรรม คนเหล่านี้ก็พร้อมจะไป จึงจำเป็นต้องการเรื่องของทุน ซึ่งพรรคการเมืองของไทยส่วนมาก ไม่ค่อยมีอดุมการณ์ แค่ทำตามกฎหมายพรรคการเมืองเท่านั้น

หากแยกพรรคการเมืองในไทย จะมีพรรคนายทุน กับพรรคนายพล ตอนปฏิวัติ และพรรคภาคประชาชนโดยแท้ อาศัยอุดมการณ์ ไม่ต้องมีทุน แต่ถ้ามีทุนเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็ไม่ใช่พรรคภาคประชาชน และการโหวตสวนของ 6 งูเห่าพรรคไทยสร้างไทยถือว่าผิดมาก ไม่ทำตามมติพรรค เป็นการฝ่าฝืนเป็นเหตุให้ขับออกจากพรรค แต่ส่วนใหญ่จะไม่ขับออก จะปล่อยไว้อย่างนั้น ทำให้ สส.เหล่านั้นไม่สนใจพรรคตัวเอง 

ฐากร ตัณฑสิทธิ์ หนึ่งในสส.โหวตสวน อ้างว่าชาติต้องการคนเข้ามาบริหารประเทศ
ฐากร ตัณฑสิทธิ์ หนึ่งในสส.โหวตสวน อ้างว่าชาติต้องการคนเข้ามาบริหารประเทศ

เป็นฝ่ายค้าน อดอยากปากแห้ง น่าจะเรื่องจริงการเมืองไทย

ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับกฎหมายพรรคการเมืองนำมาใช้ครอบงำความเป็นอิสระของนักการเมือง แต่ท้ายสุดเมื่อมีนักการเมืองไร้อุดมการณ์ ก็ต้องพยายามเอากฎหมายมาครอบให้เกิดอุดมการณ์ หากใครชักชวนให้ได้ผลประโยชน์ ท้ายสุดก็ยอมโหวตให้กับพรรคนั้น มีการเจรจาใต้ดินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยกเว้นถ้า สส.ในพรรคมีความสุข มีความลงตัว ใครชวนอย่างไรก็ไม่ทำ หรืออาจมีปัญหาบางอย่าง โดยเฉพาะเรื่องทุน ยิ่งใกล้เลือกตั้ง และยิ่งเป็น สส.เขต ก็ยิ่งหนัก เป็นอีกปัญหาที่ สส.ไม่รู้จักหน้าที่ตัวเองในการลงพื้นที่

...

“หากมองว่าเป็นเพราะจะมีการยุบสภาอีกไม่นาน หลังจาก แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ ก็ไม่น่าใช่ เพราะตอนนี้ พรรคเพื่อไทย คะแนนนิยมตกต่ำอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ยิ่งดิจิทัลวอลเล็ตอาจมีปัญหา คิดว่าการยุบสภาเกิดขึ้นได้ยาก ทางพรรคเพื่อไทยรอวันพลิกเกม พยายามประคับประคองสถานการณ์ ไม่ให้ พรรคประชาชน เข้ามามีบทบาท ขณะที่ พรรคภูมิใจไทย มีแนวโน้มที่ สส.จะเพิ่มมากขึ้นในการเลือกตั้งครั้งหน้า จากการสะสมสรรพกำลัง แต่อาจเจอปัญหาคดี ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ทำความผิดซุกหุ้น ก็อาจไม่รอดถูกยุบพรรค อะไรก็เกิดขึ้นได้”

บทสรุปที่เกิดขึ้นกับการเมืองไทยในหลายๆ เรื่องราว ถือว่าเป็นการเมืองนอกตำรา ไม่เป็นไปตามทฤษฎี ทำให้นักการเมืองหลายคนไร้ซึ่งมารยาท เอาผลประโยชน์เข้าว่า จนสามารถข้ามขั้วไปมากันได้ ส่วนกรณีงูเห่าพรรคไทยสร้างไทย มาแบบยกรังยกแผงในการโหวตสวนมติพรรคฝ่ายค้าน ในการให้คะแนน แพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี ก็น่าจะจริงเหมือนคำพูดของ บรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี เคยบอกว่า เป็นฝ่ายค้านแล้ว อดอยากปากแห้ง”.

...