คดีน้ำเขียวมรณะ ยังเป็นปริศนาว่าใครนำยาฆ่าหญ้ามาหยอดใส่ในขวดน้ำเขียว แล้ววางไว้หน้าบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่บ้านโคกผักหอม หมู่ 2 ต.อูบมุง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี จนหญิงวัย 54 ปี น้ำลายฟูมปากเสียชีวิต หลังหยิบมาดื่มพรวดๆ เกือบครึ่งขวด เพราะกระหายน้ำ ส่วนลูกชายวัย 37 ปี ดื่มเพียงเล็กน้อย รอดตายหวุดหวิด ขณะที่สามีวัย 53 ปี บังเอิญทำงานอยู่หลังบ้านเลยไม่ได้ดื่ม เมื่อเดินออกมา ก็เห็นเมียนั่งอยู่บนโซฟามีน้ำลายฟูมปาก คาดว่าคนลงมือต้องการให้ครอบครัวนี้ตายยกครัว แต่ด้วยสาเหตุใด? 

ท่ามกลางความสงสัยของชาวบ้านในละแวกนั้น หรือถ้าหากครอบครัวนี้ชอบลักเล็กขโมยน้อย ใครวางถ้วย ถัง กะละมัง เอาไว้ก็หยิบเอาไป สร้างความเอือมระอาให้กับเพื่อนบ้าน จึงถูกสั่งตายด้วยอารมณ์โกรธชั่ววูบ แล้วใครมีจิตใจอำมหิตเยี่ยงนี้ ถึงกับจะฆ่าจะแกงเอากันให้ตาย อยู่ระหว่างสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มุ่งประเด็นไปที่ปัญหาภายในครอบครัว ปัญหากับเพื่อนบ้าน และประเด็นอื่นๆ เพราะนอกจากครอบครัวนี้ลักเล็กขโมยน้อยแล้ว ยังพบว่าเสพยากันทั้งบ้าน ส่วนข้อสงสัยว่าอดีตลูกสะใภ้ เป็นคนลงมือ ทางเจ้าตัวได้ออกมาปฏิเสธ แต่ตรวจพบฉี่ม่วง

...

แนวทางการสืบสวนนั้น พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ระบุว่า ช่วงระหว่างรอผลตรวจสารพิษในกระเพาะอาหาร และในเลือด ทางชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่หาที่มาของขวดน้ำอัดลม เพราะขวดน้ำอัดลมเพิ่งเปิดใหม่ๆ แล้วปิดเอาไว้ และถุงที่ใส่มาก็ใหม่ แสดงว่าเพิ่งซื้อแล้วเอามาวางไว้ จะมีการตรวจสอบหมายเลขบาร์โค้ดข้างขวดน้ำอัดลมจากร้านค้าในพื้นที่ ในการติดตามตัวคนซื้อ เพื่อเชื่อมโยงตัวคนร้าย และตรวจขวดน้ำอัดลมทั้ง 2 ขวด ว่ามีลายนิ้วมือและดีเอ็นเอ ตรงกับใครหรือไม่ 

น้ำเขียวมรณะ 2 ขวด ต้องการฆ่าใคร ไม่น่าใช่ฆ่ายกครัว

ระหว่างการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และรอผลตรวจต่างๆ เพื่อหาข้อเท็จจริงในการคลี่คลายคดีน้ำเขียวมรณะ “รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล” รองอธิการบดี และประธานกรรมการ คณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต ระบุว่า อันดับแรกต้องรอผลการชันสูตรศพถึงสาเหตุการเสียชีวิต เพราะเสียชีวิตผิดธรรมชาติว่ามีสารพิษหรือไม่ ซึ่งแพทย์นิติเวช สามารถบอกได้ว่าเป็นสารพิษอะไร เช่น มีส่วนประกอบของยาฆ่าแมลง จะบอกได้ว่าใส่สารนี้เข้าไปในขวดน้ำเขียว และตำรวจจะสืบสวน นำไปสู่การสันนิษฐานว่าใครลงมือ

อีกประเด็นสำคัญพ่อหรือแม่ในครอบครัวนี้ มีสาเหตุมีเรื่องโกรธเคืองกับใคร หรือใครในละแวกบ้าน และมีประเด็นใดบ้าง เพราะการวางแผนในลักษณะนี้เหมือนเจตนาใช้สารพิษ มีเจตนาฆ่าให้เสียชีวิต ส่วนจะฆ่ายกครัวหรือไม่นั้น ต้องดูตำแหน่งของขวดน้ำเขียวที่วางบริเวณบ้าน และเมื่อวางไว้ 2 ขวด ต้องดูเจตนาว่าต้องการให้ใครในบ้านดื่ม มีเจตนาจะฆ่าใครในครอบครัวนี้

...

“สงสัยทำไมวาง 2 ขวด เพราะถ้าจะเจตนาฆ่ายกครัว ก็ต้องวางขวดน้ำเขียวให้ครบตามจำนวนสมาชิกครอบครัว หรือวางมากกว่า 2 ขวด คิดว่าตำรวจน่าจะลำดับไทม์ไลน์ได้ว่าใครซื้อ ซื้อมาจากที่ไหน และคดีนี้ดูที่เจตนาในการฆ่า มาจากความขัดแย้ง หรือเรื่องผลประโยชน์ หรือไปรู้เห็นอะไรมา และจากวัตถุพยายานของกลาง เช่น ขวดน้ำ รวมถึงพยานบุคคลในละแวกชุมชน หลักฐานอย่างอื่นจากโทรศัพท์มือถือ และกล้องวงจรปิด หากมีปัญหาเรื่องกล้องวงจรปิด อาจใช้พยานบุคคล”

วางยาไปทำไม ถ้าไม่โกรธเคืองกัน แล้วใครเป็นคนลงมือ

หรือถ้าหากครอบครัวนี้ชอบลักทรัพย์ ต้องไปสืบสวนในประเด็นที่ทำให้เจ้าทรัพย์โกรธเคือง และการลงมือกระทำต้องโกรธเคืองกันมาก่อนอยู่แล้ว ซึ่งต้องรอผลการชันสูตรศพว่าโดนสารพิษชนิดใด หรือผู้เสียชีวิตไปโดนสารพิษจากที่อื่น ก็จะบอกได้ และเชื่อว่าคนในหมู่บ้านน่าจะรู้ว่าครอบครัวนี้ขัดแย้งกับใคร ส่วนที่มีการระบุว่าสุนัขในบ้านไม่เห่า ขณะมีคนนำขวดน้ำเขียวมาวาง ก็น่าคิด อาจเกิดจากคนในบ้าน หรือคนนอกบ้านลงมือ หากเป็นคนในบ้าน มีความโกรธแค้นอะไร เช่นกันกับคนนอกบ้าน เพราะอยู่ดีๆ จะวางยาไปทำไม ถ้าไม่โกรธเคืองกัน

...

กรณีนี้เจอศพไม่มีการซุกซ่อนศพ ทำให้ไม่ยุ่งยากในการสืบสวน จะต้องรอผลชันสูตรศพ หากดื่มสารปนเปื้อนยาพิษ ก็แสดงว่าเจตนา และใครเจตนาวางยาพิษ แม้ว่าคดีนี้ดูเหมือนไม่ใหญ่โต แต่ประเด็นสำคัญทางตำรวจต้องทำให้กฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ์ ในการจับกุมตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ เพื่อให้คนที่จะกระทำในลักษณะอย่างนี้ เกิดความเกรงกลัว ไม่ก่อเหตุซ้ำอีก.