ภูเก็ต เกาะสวรรค์แห่งอันดามัน ชื่อนี้ไม่เกินจริง มีทั้งหาดทรายสวย น้ำใส เป็นอันดับต้นๆ ของโลก ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาปีละ 10 ล้านคน แม้จะมีหาดทรายสวยๆ ยาวตั้ง 200 กิโลเมตรรอบเกาะ แต่หาดหลายที่ก็ไม่สามารถเข้าไปเที่ยวกันง่ายๆ เป็นคนไทยแท้ๆ ต้องจ่ายเงินเพื่อลงไปเที่ยว 20-40 บาท หรือจ่ายค่าบำรุง 100 บาท บางหาดอย่างหาดยามู ก็ไม่มีทางลง ถ้าจะลงหาดต้องไปที่ถนนลาดยางแล้วเลี้ยวขึ้นไปที่โรงแรม

แบบนี้ไม่ผิดกฎหมายหรือ? ทั้งๆ ที่หาดทรายเป็นที่สาธารณะเป็นสมบัติของแผ่นดิน ทุกคนสามารถไปเที่ยวได้ไม่ต้องเสียเงิน ไม่ควรมีใครถือสิทธิครอบครองเพื่อประโยชน์ของตัวเอง จะมีวิธีจัดการอย่างไรได้บ้าง ทำไมต้องเสียเงิน ใครจะมาตั้งโต๊ะเก็บเงินค่าเข้าหาดได้หรือไม่ กับอีกหลายๆ คำถามคาใจ อะไรอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ติดตามในภารกิจ see true ให้คุณเห็นความจริง ในการเดินทางสำรวจหาดทรายหลายแห่งในจังหวัดภูเก็ต ว่าจะมีที่ไหนเข้ายาก เข้าง่าย หรือเข้าไม่ได้เลย

พื้นที่สาธารณะ ไม่ควรมีใครถือสิทธิครอบครอง หาประโยชน์

...

เริ่มจากหาดพาราไดซ์ หาดเล็กๆ เงียบสงบเสมือนหาดส่วนตัว ขึ้นชื่อเรื่องน้ำทะเลใสและหาดทรายขาว ห่างจากหาดป่าตองเพียง 4 กิโลเมตร แม้เขียนป้ายเข้าหาดฟรี แต่มีกล่องให้ใส่เงิน ทั้งในรถรับส่งและทางเข้า โดยพนักงานเก็บค่าเข้าบอกว่า แล้วแต่จะให้ 20-40 บาท เพราะตอนนี้ไม่บังคับ มีโปรโมชั่นฟรี 1 เดือนในช่วงวันเกิดบอส ขณะที่บริเวณริมหาดมีเตียงตั้งเรียงราย และนักท่องเที่ยวเข้ามาเล่นน้ำบริเวณหาด

แต่ได้ข้อมูลมาว่าในช่วงเวลาปกติ มีการเก็บค่าบริการนักท่องเที่ยวคนละ 200 บาท อ้างว่าเป็นค่าบริการรถรับส่ง ซึ่งมีระยะทางราว 400 เมตร และกั้นรั้วไม่ให้รถจากที่อื่นเข้ามา ส่วนค่าบริการอื่นๆ อย่างเตียงและร่ม ราคาตั้งแต่ 800 ถึง 1,500 บาท มีบริการอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงมีสระว่ายน้ำติดทะเล แม้ไม่ใช้บริการ แต่แค่จะลงมาเดินที่หาดแห่งนี้ เพื่อดูความสวยงาม ก็ต้องเสียเงิน 

จากนั้นไปสำรวจอีกหนึ่งหาดลับ แค่เห็นทางเข้าก็แทบจะถอดใจ กว่าจะเดินไปถึงหน้าหาดนุ้ย อยู่ระหว่างจุดชมวิวหาดกะรนและหาดในหาน เป็นหาดลับที่ไม่ลับสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็มีพนักงานออกมาต้อนรับในทันที และอธิบายว่าถ้าจะลงหาดฟรี ก็เดินลงทางนี้แล้วไปหน้าหาด แต่ให้อยู่เฉพาะบริเวณหน้าหาด หากต้องการใช้พื้นที่โดยรอบ ใช้บริการห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ พื้นที่ถ่ายรูป และใช้ไวไฟ ก็ให้ช่วยค่าบำรุงสถานที่คนละ 100 บาท

เมื่อสังเกตป้ายหน้าทางเข้าหน้าหาดนุ้ย มีอยู่หลายภาษา แปลความได้ว่านักท่องเที่ยวจะต้องจ่ายค่าสถานที่ที่อ้างว่าเป็นหาดส่วนตัว 100 บาท และ 200 บาท ซึ่งนักท่องเที่ยวที่จ่ายเงินค่าเข้าจะได้ริสแบนด์ผูกข้อมือ สามารถใช้พื้นที่โดยรอบได้ สำหรับรถรับส่ง หรือถ้าขับรถมาเองคิดค่าจอด รถจักรยานยนต์ 20 บาทและรถยนต์ 50 บาท

หลายหาดภูเก็ต เก็บค่าเข้า ถูกยึดทำคาเฟ่ ปิดทางเข้าออก

แล้วมีหาดไหนในภูเก็ต ไม่เสียเงิน เริ่มที่หาดไม้ขาว ต.ไม้ขาว อ.ถลาง หาดยอดฮิตชายหาดยาวที่สุดในภูเก็ต นักท่องเที่ยวต้องเข้ามาถ่ายรูปสวยๆ กับเครื่องบิน ซึ่งคนในพื้นที่เรียกกันว่า หาดสนามบิน แต่เมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่โรงแรมก็บอกว่า ถ้าจะเข้าทางนี้ไปดูเครื่องบิน เข้าไม่ได้แล้ว เพราะตอนนี้เป็นโรงแรม ให้ออกจากซอยนี้แล้วเลี้ยวซ้ายเลยร้านเซเว่น อีเลฟเว่น จะเห็นซอยอยู่ซ้ายมือ ประมาณ 100 เมตร

...

ชาวบ้านขับวินรถสามล้อพ่วงข้างรายหนึ่ง บอกว่า โรงแรมก็ไม่ได้ปลื้มที่มาวิ่งรถสามล้อพ่วงข้างแบบนี้ แต่ทางอุทยานฯ ก็น่าจะบอกโรงแรม เพราะจับจองเป็นที่ส่วนตัวไม่ได้ เช่นเดียวกับชาวบ้านอีกคนระบุว่า ราว 10 ปีก่อนยังสามารถเข้าออกได้ตามปกติ แต่พอโรงแรมมาสร้างก็ปิดทาง ทำให้ต้องอ้อมมาไกลมากขึ้น 

จากนั้นได้ไปสำรวจหาดกะตะน้อย น้ำทะเลใส หาดทรายขาวละเอียด ยาวกว่า 700 เมตร แต่เข้าไปไม่ง่าย เพราะมีการ์ดหน้าหาด หาดยาวขนาดนี้แต่เข้าไม่ได้ เพราะว่ามีโรงแรมขวางอยู่เกือบตลอดทั้งแนวหาด ทางเข้าแต่ละที่ ก็ห่างกันหลายร้อยเมตร โดยเฉพาะทางขึ้นลงที่เป็นบันไดสูงมาก ขึ้นลงแต่ละทีต้องระวังไม่ให้ลื่นตกลงมา 

นอกจากนี้ยังตระเวนไปอีกหลายหาดรอบเกาะภูเก็ต ทั้งหาดบางเทา หาดเลพัง และหาดไตรตรัง มีปัญหาเหมือนกันเพราะโดนปิดทางลงหาด จากโรงแรม หมู่บ้าน ย่านธุรกิจ จนทำให้หาทางลงหาดได้ยากมากๆ ทั้งเก็บเงินค่าเข้า ทั้งยึดหาดทำคาเฟ่ ทั้งปิดทางเข้าออก

...

บุกรุกสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ไม่ใช่แค่ภูเก็ต ระวังเจอคดีอาญา

นำไปสู่คำถาม ทำแบบนี้ผิดกฎหมายหรือไม่? และได้คำตอบจาก “มงคล ศรีสว่าง” ผู้อำนวยการสำนักไต่สวนคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุชัด ที่ผ่านมาสำนักงาน ป.ป.ช. ประกาศหวงห้ามของกระทรวงมหาดไทย ว่า ที่หินที่กรวดที่ทรายถือเป็นที่หวงห้าม จะไปใช้ประโยชน์ไม่ได้ อันนี้ต้องไปดูลักษณะหวงกัน และการหวงกันถือเป็นการรบกวนการใช้ที่ดินสาธารณะประโยชน์ หากใช้สิทธิหวงกันพื้นที่สาธารณประโยชน์สำหรับตัวเอง เป็นการบุกรุกสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ซึ่งเป็นคดีอาญา

ปัญหาการบุกรุกชายหาดสาธารณะ ไม่ใช่แค่ในจังหวัดภูเก็ตเท่านั้น แต่เกิดขึ้นทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยว แล้วเราจะแก้ปัญหานี้กันอย่างไร? “นิวัติไชย เกษมมงคล” เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.  กล่าวว่า ต้องมาไล่ดูว่ามีการออกเอกสารสิทธิที่ไม่ถูกต้องในแปลงใดบ้าง อะไรที่ยังอยู่ในอายุความ ก็ดำเนินคดีอาญา แต่หากเกินอายุความ 20 ปีไปแล้ว จะแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการตามหน้าที่ตามอำนาจ เพิ่มดำเนินการเพิกถอน ในสิ่งที่มีการอนุมัติ และอนุญาตที่ไม่ชอบ หรือมีการออกเอกสารสิทธิที่ไม่ชอบ

...

เพราะพื้นที่สาธารณะเป็นของเราทุกคน ไม่ควรมีใครถือสิทธิครอบครองเพื่อประโยชน์ของตัวเอง และไม่ใช่แค่หาดทรายเท่านั้น ยังรวมถึงการทวงคืนพื้นที่สาธารณะอื่นๆ ที่มีการครอบครอง หรือออกเอกสารสิทธิที่ไม่ถูกกฎหมาย เพื่อให้กลับมาเป็นสมบัติของชาติอีกครั้ง จากนี้ก็จะเป็นการดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งเพิกถอนสิทธิการครอบครอง ยึดพื้นที่คืน รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำพื้นที่ทั้งหมด เพื่อเอาพื้นที่ส่วนรวมคืน ซึ่งก็ยึดคืนมาได้หลายที่แล้ว

ตั้งแต่ต้นปี มีกรณีเกี่ยวกับพื้นที่สาธารณะ และทรัพยากรธรรมชาติ ตามที่ ป.ป.ช ชี้มูลความผิดไปแล้วหลายคดี เฉพาะจังหวัดภูเก็ต ขณะนี้มีคดีที่กำลังไต่สวนมากกว่า 20 คดี และกำลังจะมีการชี้มูลความผิดเร็วๆ นี้ ซึ่งคนที่เกี่ยวข้องมีตั้งแต่อดีตผู้ว่าราชการจังหวัด อดีตรองผู้ว่าฯ เจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงผู้บริหารองค์กรส่วนท้องถิ่น บางคดีมีการตัดสินจำคุกไปแล้ว และจ.เชียงใหม่หนักสุด ศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิตไปแล้ว ก็ต้องรอผลการสอบสวนและเอาผิดกันต่อไป ติดตาม #ข่าวแสบเฉพาะกิจ รายการวาไรตี้ข่าวสุดแสบ จะพิสูจน์ ตรวจสอบ พร้อมลงทุกพื้นที่ ขยี้ทุกความจริง ทุกวันเสาร์ 6 โมงเย็น ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32.