คดีฆ่าหมกคอนโดฯ หนุ่มวัย 54 พ่อค้าเสื้อผ้ามือสอง ถูกคนร้ายใช้มีดปาดคอ และกระหน่ำแทง 10 กว่าแผล เสียชีวิตคาคอนโดฯ หรู ย่านงามวงศ์วาน คาดว่า 4-5 วัน จนศพเน่าส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเหตุไปพบศพเมื่อคืนวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา นำไปสู่การไล่ล่าติดตามตัวชายอายุประมาณ 30 ปี ใส่แว่นตา สวมเสื้อฮู้ด มีการซื้อมีดเตรียมก่อเหตุไว้ล่วงหน้า และยังนำโทรศัพท์มือถือคนตายไปสแกนจ่ายซื้อทองแท่ง 25 บาท และใช้บัตรเครดิตรูดซื้อทองอีก 3 บาท 

ล่าสุดวันที่ 31 พ.ค. ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้ที่บ้านลุงใน จ.ชุมพร หลังหลบหนีไปพัทยา แล้วเหมาแท็กซี่ให้ไปส่ง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนจนมุมจากการแกะรอยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าฆาตกรโหดฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็นรายนี้ เป็นชายอายุ 27 ปี ชาวกรุงเทพฯ อ้างว่าเป็นอดีตนักศึกษา คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดัง รู้จักผู้ตายมาประมาณ 1 ปี และถูกผู้ตายโกง จนมีปัญหาเรื่องเงิน 5 ล้านบาท ในการทำธุรกิจนำเข้าสินค้าจากจีน ซึ่งก่อนหน้านั้นพี่ชายคนตายเชื่อว่าปมขัดแย้งอาจเกิดจากการทำธุรกิจร่วมกัน เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 

...

สนิทสนมมากเลยไว้ใจ สุดท้ายกลายเป็นเหยื่อถูกฆ่าตาย

จากพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุในมุมมองของ “ศ.พล.ต.ท.ดร.พิศาล มุขแจ้ง” อดีตหัวหน้าภาควิชาอาชญาวิทยา โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน ชี้ว่า อันดับแรกต้องดูเรื่องความสัมพันธ์ของผู้ก่อเหตุกับผู้ตายว่าเป็นอย่างไร รู้จักกันในฐานะอะไร แต่ที่แน่ๆ ผู้ก่อเหตุรู้ความเคลื่อนไหวของผู้ตายเป็นอย่างดี แสดงว่าเป็นคนใกล้ชิด ทำให้การก่ออาชญากรรมทำได้ง่ายต่อการก่อเหตุ ถ้ารู้ความเคลื่อนไหว รู้กิจกรรมของผู้ตายเป็นอย่างดี

“การก่อเหตุตามที่ปรากฏในข่าว พบว่าผู้ตายและผู้ก่อเหตุขึ้นลิฟต์ไปด้วยกัน ก็สนิทสนมกันพอสมควร ถึงขั้นไปอยู่ด้วยกันในคอนโดฯ อาจมีความสัมพันธ์ลักษณะใกล้ชิด เพราะปกติคนทั่วไป มักจะไว้เนื้อเชื่อใจคนใกล้ชิดอยู่แล้ว ทำให้ขาดความระมัดระวัง ง่ายต่อการตกเป็นเหยื่อ เพราะไม่คิดว่าคนใกล้ชิดจะมาทำร้าย”

อีกทั้งผู้ก่อเหตุเตรียมอาวุธมีด มีการเตรียมตัวมาก่อน มีเจตนาที่จะฆ่าจะทำร้าย มีการไตร่ตรองไว้ก่อน ส่วนปัจจัยหรือเงื่อนไขอื่นที่เป็นแรงจูงใจในการก่อเหตุ ยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจน อาจประสงค์ต่อทรัพย์ หรือต้องการแก้แค้น แต่ไม่ใช่ก่อเหตุโดยบันดาลโทสะ เพราะมีการเตรียมตัวมาก่อน และหากผู้ก่อเหตุมีฐานะร่ำรวย ไม่ได้อยู่ในสภาวะต้องการเงิน การเอาโทรศัพท์มือถือของผู้ตายไปขาย อาจพยายามทำลายหลักฐาน แต่ไม่ถึงกับเบี่ยงเบนประเด็นหรือไม่

ฆ่าหมกคอนโดฯ ปาดคอ แทงซ้ำ 10 กว่าแผล เพราะแรงแค้น 

ขณะที่วิธีการฆ่าโดยใช้อาวุธมีดปาดคอ และจ้วงแทง 10 กว่าแผล ก็เป็นสิ่งที่บอกว่าผู้ก่อเหตุมีความแค้นผู้ตาย เพราะเมื่อเสียชีวิตแล้ว ยังไม่หยุดทำร้าย ทำให้ชี้ได้ว่าผู้ก่อเหตุมีอารมณ์ความรุนแรง จากความโกรธ หรือมีอะไรบั่นทอนความรู้สึก จนไม่สามารถยับยั้งชั่งใจได้ หากทำธุรกิจร่วมกันอาจมีการหักหลัง อาจเป็นเหตุให้ขุ่นเคือง จนเกิดแรงจูงใจในการก่อเหตุเป็นฟางเส้นสุดท้าย

“พฤติกรรมทำร้ายคนอื่นก็โหดแล้ว แต่ทำถึงขนาดนี้ จ้วงแทง 10 กว่าแผล ก็เกินมาตรฐานกว่าคนทั่วไป คิดว่าเหี้ยมโหดมาก และผู้ก่อเหตุอายุยังน้อยกว่าผู้ตาย ทำให้อยากรู้ว่าผู้ก่อเหตุและผู้ตายมีสัมพันธ์ในฐานะใด จะสามารถบ่งชี้ได้ชัดเจนมากขึ้น เพราะอีกคนอายุ 27 ส่วนอีกคนอายุ 54 อาจเป็นคนรู้จัก หรือทำธุรกิจด้วยกัน หรือมีความสัมพันธ์อย่างอื่นเกินกว่าคนทั่วไป”

...

พฤติกรรมของผู้ก่อเหตุกระทำด้วยอารมณ์ การก่อเหตุในลักษณะนี้ต้องมีเหตุและแรงจูงใจว่าทำไปเพื่ออะไร หรือการนำโทรศัพท์มือถือคนตายไปสแกนจ่ายซื้อทอง อาจถูกโกงก็ได้ แต่เชื่อว่ามีความแค้นมาก จนกระทำความผิดด้วยอารมณ์ และขณะขึ้นลิฟต์มาด้วยกัน ทางผู้ก่อเหตุพยายามปกปิดใบหน้า แสดงว่าวางแผนไว้แล้ว และธรรมชาติของคนทำผิด มักพยายามไม่ทิ้งร่องรอยการกระทำเอาไว้

คดีฆ่าหมกคอนโดฯ เป็นการก่อเหตุที่รุนแรง สะท้อนให้เห็นว่าคนในสังคมแก้ปัญหาด้วยวิธีรุนแรง แทนที่จะใช้ปัญญาและเหตุผลแก้ปัญหา หรือควรใช้กฎหมายบ้านเมืองมาจัดการ หากถูกโกง ไม่ควรถึงขั้นทำร้ายต้องฆ่ากันจนตาย แสดงว่าไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ และคนอายุ 27 ปี ต้องรู้จักผิดชอบชั่วดี 

“สะท้อนให้เห็นว่าการเรียนมาสูง อยู่ในครอบครัวที่ดี ไม่ได้ช่วยขัดเกลาจิตใจ หรืออาจมีความบกพร่องจากการเลี้ยงดูในวัยเด็กก็ได้ อาจเรียนรู้การใช้ความรุนแรง หรือพบเห็นการกระทำความผิดมาก่อน จนมาก่อเหตุความรุนแรงโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย”.