ยาเสพติดทะลักไทย ทำไมปราบไม่สิ้น เปิดเส้นทางลำเลียงแนวชายแดน สุดอันตราย

ยาบ้าราคาถูก หาซื้อง่าย กำลังระบาดหนักในหลายพื้นที่ทั่วประเทศของไทย เพราะอะไร ปราบเท่าไร ก็ไม่หมดสิ้น รายงานจากสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ UNODC ระบุปี 2563 นอกจากอเมริกา และเม็กซิโก ยังมีภูมิภาคอาเซียน เป็นแหล่งผลิตยาบ้าใหญ่ที่สุดในโลก คาดการณ์ว่ามีการผลิตยาบ้ามากกว่า 190 ตันต่อปี โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถตรวจยึดยาบ้าได้เกือบ 170 ตัน เพิ่มขึ้น 84.8% จากปี 2562 และปี 2566 ทำสถิติใหม่ 190 ตัน

ที่น่าตกตะลึงพบว่า ยาบ้าบางส่วนถูกกระจายไปยังลูกค้าหรือผู้เสพ มีมากถึง 117 ประเทศทั่วโลก โดยใช้ไทยเป็นทางผ่าน เพราะแหล่งที่มาส่วนใหญ่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ มีการผลิตสูงเป็นประวัติการณ์กว่า 1,100 ล้านเม็ด ขณะที่มาเลเซีย เป็นเส้นทางที่สำคัญในการลำเลียงยาเสพติดไปยังอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และประเทศอื่นๆ ในแปซิฟิก ประเมินกันว่ารายได้และผลกำไรของการจำหน่ายยาบ้าที่เพิ่มขึ้นมากขึ้นในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มูลค่าอาจแตะระดับ 80,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี

จับตาพื้นที่สีแดง เครือข่าย 'พันโทจะแตะ' ขนยาเสพติดเข้าไทย

นั่นทำให้ฝ่ายความมั่นคงของไทย ต้องจับตามองจุดลำเลียงยาเสพติดบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ เป็นพิเศษมีการตั้งฐานปฏิบัติการพระธาตุแสนไห เป็นด่านหน้าในการสกัดกั้นไม่ให้ยาเสพติดจากโรงงานผลิต ฝั่งประเทศเมียนมาทะลักเข้าไทย ติดตามได้ในภารกิจ See True ให้คุณเห็นความจริง "อะไรอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้" ในการร่วมกับทหารชุดลาดตระเวน เดินเท้าลัดเลาะไปตามป่าเขา มุ่งหน้าสู่ชายแดนประเทศเมียนมา

เพราะสายข่าวแจ้งว่า เป็นเส้นทางที่เครือข่าย “พันโทจะแตะ” หัวหน้ากองกำลังมูเซอ ในฝั่งประเทศเมียนมา ใช้ขนยาเสพติดเข้าพรมแดนไทย และเกิดการปะทะกับทหารไทยบ่อยครั้ง ถือเป็นพื้นที่สีแดง ในการจับตาขบวนการค้ายาเสพติดที่จะใช้เส้นทางนี้ในการลำเลียง และขณะเดินเข้าป่ามาระยะหนึ่ง ได้เหลือบไปเห็นหลักฐานชิ้นหนึ่ง น่าจะเป็นหลักฐานสำคัญ คือปลอกกระสุนปืนขนาด M-16 เพราะพื้นที่ตรงนี้อยู่บริเวณแนวเส้นทางธรรมชาติ เป็นจุดเปราะบางและเป็นจุดเสี่ยง เคยเกิดการปะทะกับขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งไม่ปลอดภัยและอันตรายมาก

อีกทั้ง “พลตรี นิรันดร์ชัย ทิพย์กาญจนกุล” รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้น และเคมีภัณท์ ชายแดนภาคเหนือ (นบ.ยส.35) ออกมาระบุว่า แหล่งผลิตยาเสพติดหลักๆ อยู่ทางรัฐฉาน ติดกับประเทศของเรา และปัจจัยเร่งที่สำคัญที่สุดจากการสู้รบในเมียนมา ก็มีส่วนในการเร่งผลิตยาเสพติด เพื่อที่จะได้มีรายได้หล่อเลี้ยงกองกำลัง

ใช้กองทัพมด ทยอยขน 1 คน 1 เป้ ซุกยาบ้าแสนกว่าเม็ด 

"ร.ท.สุรวิชญ์ เป้าทอง" ผู้บังคับกองร้อยทหารม้าที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจไชยานุ เปิดเผยว่า ส่วนใหญ่ที่จะพบเป็นการใช้กำลังคนแบกขึ้นมา 1 คนต่อ 1 เป้ เดินตามเส้นทางป่า จนถึงจุดนัดพบ ซึ่งจะมียานพาหนะ มารอรับขนต่อไปอีกที เป็นลักษณะคล้ายๆ กองทัพมด โดย 1 เป้ มียาบ้าประมาณ 1 แสนถึง 2 แสนเม็ด รวมถึงเฮโรอีน และไอซ์ด้วย เท่าที่ได้รับรายงานจากสายข่าวในเขตพื้นที่ มีโรงงานผลิตยา 3 โรงงาน อยู่ฝั่งตรงข้ามกับอ.เวียงแหง ทั้งยาบ้า และยาเสพติดอื่นๆ แต่หลักๆ คือ ยาบ้า

ขณะที่ทีมงานภารกิจ See True กำลังเดินลาดตระเวน ก็ได้รับรายงานว่าทหารพรานกองกำลังผาเมือง ได้เผชิญหน้ากับกลุ่มคนลำเลียงยาเสพติดหรือกองทัพมด บริเวณชายแดนเมียนมาติดกับอ.แม่อาย และมีการยิงปะทะ เสียงปืนดัง “ปังๆๆๆ” ทั้ง 2 ฝ่าย ยิงปะทะต่อสู้กันนานหลายนาที จนฝั่งคนขนยาเสพติด ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลบหนีไป ทิ้งยาบ้า 300,000 เม็ดเอาไว้ ท่ามกลางกองเลือด ขณะที่ "พ.อ.ไมตรี ศรีสันเที๊ยะ" เสนาธิการกองกำลังผาเมือง ให้ข้อมูลว่า ตั้งแต่ปี 2566 จนถึงปัจจุบัน การจับกุมยาบ้าของกองกำลังผาเมือง มีจำนวน 120.1 ล้านเม็ด

แหล่งใหญ่สามเหลี่ยมทองคำ ขนยาข้ามลำน้ำรวก ง่ายดาย

สำหรับแนวชายแดนไทย-เมียนมา มีความยาว 2,202 กิโลเมตร จึงไม่ใช่เรื่องง่ายในการสกัดกั้นการลักลอบขนยาเสพติด เข้ามาในไทย ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารต้องปฏิบัติงานทั้งช่วงกลางวันและกลางคืนโดยเฉพาะช่วงกลางคืน มีการจับตาเป็นพิเศษ เพราะง่ายต่อการขนยาเสพติดของกองทัพมด

เมื่อทีมงานเดินทางต่อมายังสามเหลี่ยมทองคำ ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย พื้นที่ที่ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นแหล่งผลิตยาเสพติดที่ใหญ่ระดับโลก ตั้งอยู่บนรอยต่อ 3 ประเทศ คือ ไทย เมียนมา และสปป.ลาว มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมมาบรรจบกันเรียกว่า "สบรวก" พื้นที่ประมาณ 1.5 แสนตารางเมตร และเป็นจุดบรรจบของแม่น้ำรวกกับแม่น้ำโขง

เป็นที่น่าสังเกตพบว่าลำน้ำรวกบางจุด เล็กและแคบ บางจุดกว้าง ห่างกันไม่ถึง 20 เมตร และในช่วงฤดูแล้ง มีความลึก 1 เมตรเท่านั้น ก็อาจจะเป็นจุดอ่อน ทำให้มีการลักลอบขนยาเสพติดข้ามแม่น้ำรวกได้อย่างง่ายดาย และบ่อยครั้งที่เจ้าหน้าที่สนธิกำลังกันจับกุมได้ที่แม่น้ำรวกหลายต่อหลายครั้ง

ขณะที่ทีมงานยืนสังเกตการณ์ อยู่บริเวณริมแม่น้ำรวก ก็สามารถบันทึกภาพการลักลอบพาคนลงเรือข้ามแดนแบบผิดกฎหมาย มีชายหญิงคู่หนึ่งลงเรือจากฝั่งประเทศเมียนมา และเมื่อเรือแล่นออกจากฝั่ง คนขับเรือส่งสัญญาณให้ทั้งคู่นอนราบกับท้องเรือ เพื่อหลบเจ้าหน้าที่ เป็นหนึ่งหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า การข้ามพรมแดน ผ่านแม่น้ำสายนี้นั้นง่ายเพียงใด และการลักลอบขนยาเสพติดก็คงเช่นกัน

เพียง 7 เดือน ยึดยาเสพติด มูลค่ามากกว่า 1.8 หมื่นล้าน

ข้อมูลที่น่าตกใจ เพียง 7 เดือนที่ผ่านมา สามารถสกัดกั้นยาเสพติด ในพื้นที่ 11 อำเภอชายแดน ของจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย ได้ 278 ครั้ง ตรวจยึดยาบ้ารวม 138 ล้านเม็ด เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว จากห้วงเวลาเดียวของปีที่ผ่าน และตรวจยึดไอซ์ 1,890 กิโลกรัม เพิ่มมากขึ้นถึง 47% จากปีที่ผ่านมา รวมมูลค่ามากกว่า 18,000 ล้านบาท แล้วปลายทางของยาเสพติดจำนวนมหาศาลเหล่านี้ คือ ที่ไหน? โดยทั่วโลกมีผู้ใช้ยาเสพติด 284 ล้านคน เกือบ 4 เท่าของประชากรทั้งหมดของประเทศไทย 

หากมองเป็นสินค้า ถือเป็นธุรกิจที่สร้างมูลค่ามหาศาล และประเทศไทยกำลังเป็นศูนย์กลางกระจายยาเสพติด ระดับต้นๆ ของโลก ติดตามในภารกิจ See True “อะไรอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้” ทางรายการไทยรัฐนิวส์โชว์ ช่อง 32 เวลา 21.00 น. ตั้งแต่วันที่ 4-7 มิ.ย. รวม 4 ตอนต่อเนื่อง เริ่มจากตอน 1 ผ่าแผนปราบยาเสพติด-จับตาชนกลุ่มน้อย ต่อด้วยตอนที่ 2 เปิดแผนสกัดกั้นยาเสพติดทะลักเข้าไทย ตอน 3  ตะลึง!! ไทยศูนย์กลางส่งออกยาเสพติดโลก และตอน 4 ตรวจการบ้าน 90 วัน-สงครามยาเสพติด.