การตายของ “บุ้ง ทะลุวัง” เนติพร เสน่ห์สังคม นักกิจกรรมทางการเมือง ระหว่างถูกควบคุมตัวคดี ม.112 อยู่ในเรือนจำ หลังอดอาหารมายาวนาน 110 วัน เพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และต้องไม่มีใครติดคุกเพราะเห็นต่างทางการเมืองอีก กลายเป็นประเด็นร้อนในสังคมไทย มีการพุ่งเป้าทวงถามไปยังพรรคเพื่อไทย เคยหาเสียงจะเปิดวงเจรจาในการแก้กฎหมายนิรโทษกรรม ให้กับประชาชนทุกฝ่าย ทุกข้อหาที่มีมูลเหตุมาจากคดีทางการเมือง และการคืนสิทธิการประกันตัวของผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมือง
หลายมุมมองยังฉายภาพความสูญเสียของบุ้ง ทะลุวัง แม้มีความเห็นต่างในคดีม.112 แต่มีความเป็นมนุษย์เหมือนกัน ก็ไม่สมควรตายหรือติดคุก และคนบางส่วนในสังคมไม่ควรดูแคลน สะใจกับการตายของบุ้ง ทะลุวัง เพราะความคิดที่แตกต่างกัน และข้อมูลศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุตั้งแต่ 18 ก.ค. 2563 ถึง 30 เม.ย. 2567 มีผู้ถูกดำเนินคดีจากการแสดงความคิดเห็นในคดีทางการเมือง จำนวน 1,954 คน จาก 1,295 คดี โดยคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินมากที่สุด 1,466 คน และรองลงมา คดีที่เกี่ยวข้องกับ ม.112 มีผู้ถูกกล่าวหาอย่างน้อย 272 คน
...
บทเรียนที่เกิดขึ้นจากการตายของบุ้ง ทะลุวัง ควรมีทางออกและข้อเสนออย่างไร? ไม่ให้คนในสังคมจงเกลียดจงชังคนเห็นต่างทางการเมือง และแยกสีแยกฝ่าย มีความขัดแย้งอย่างในอดีต “นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ” มองว่า ประการแรกเราต้องมีความคิด จิตสำนึกร่วมกันก่อนว่าการตายของบุ้ง ทะลุงวัง มีความสำคัญอย่างไร เป็นการตายของหนุ่มสาวที่กล้าคิดกล้าแสดงออก จะเป็นอนาคตของสังคมไทย ไม่ต่างจาก “หมอมิ้ง” นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช หรือภูมิธรรม เวชยชัย เคยเคลื่อนไหวทางการเมืองมาก่อน ซึ่งน่าจะรู้ดีที่สุด แต่ขณะนี้สังคมไทยกลับเป็นการตายของบุ้ง แทนที่จะทะนุถนอมหวงแหนคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่กล้าออกมาเคลื่อนไหว กลายมาเป็นความแตกแยก ทั้งรักและอาฆาต มีคำพูดที่ติดกับดักว่าคนหนุ่มสาวถูกยุแยง
“แสดงว่าสังคมไทยไม่เข้าใจ คิดว่าลูกหลานมีความคิดเหมือนสมัยก่อน เป็นประจักษ์พยานที่น่าเศร้า ไม่เข้าใจวิธีคิดของหนุ่มสาวว่าควรจะมีการรับมืออย่างไร ไม่ควรดูถูก อาฆาต ลงโทษด้วยความรุนแรง ยิ่งเป็นการทำลายอนาคตของประเทศชาติ ถ้าคนในสังคมคิดไม่ตรงกันก็จะลำบาก จะต้องมาคุยตกลงกันให้ได้ เพราะสิ่งที่บุ้งเสียชีวิต เกิดจากปัญหาเชิงโครงสร้าง สังคมไทยยังคงวนเวียนกับสิ่งเดิมๆ ทั้งที่ปี 40 ต้องปฏิรูปการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และวิถีชีวิตต่างๆ แม้กระทั่งสิ่งแวดล้อม แต่ที่ผ่านมาเราพบความไม่ยุติธรรมจากกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นอันตราย ทำให้คนหนุ่มสาวถูกกระทำ และการใช้อภิสิทธิ์เหนือกฎหมาย อย่างกรณีบอส อยู่วิทยา ชัดเจนมาก”
สาเหตุเพราะรัฐใช้อำนาจ เอื้อให้กับคนมีอภิสิทธิ์ ตั้งแต่กระบวนการยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยิ่งกระแทกจิตใจคนของสังคม และยิ่งทำลายความน่าเชื่อถือในสายตาของคนรุ่นใหม่ หากดูคำแถลงของกรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลราชทัณฑ์ กรณีการเสียชีวิตของบุ้ง แสดงให้เห็นว่าต้นตอสาเหตุเกิดจากปัญหาเชิงโครงสร้าง ความไม่ยุติธรรม จะนำไปสู่การเผชิญหน้าเพราะรัฐใช้อำนาจไม่ถูกต้อง จนก่อให้เกิดความรุนแรง และจะมีคนเสียชีวิตเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นรัฐต้องใช้นโยบายจัดการความเห็นต่างให้ถูกต้อง ไม่ให้คนในสังคมมองฝ่ายเห็นต่างเป็นฝ่ายตรงกันข้าม ต้องฆ่าและเป็นศัตรูกันจากความไม่เป็นธรรม
การตายของบุ้ง ทะลุวัง สะท้อนให้เห็นการใช้อำนาจของรัฐอย่างไม่ถูกต้อง เป็นเรื่องของช่องว่างระหว่างวัยที่เกิดขึ้น ยิ่งวิพากษ์วิจารณ์ยิ่งถลำลึกมากขึ้น จึงอยากเสนอให้รัฐบาลขณะนี้ ที่เคยอาสาในเรื่องสมานฉันท์ข้ามขั้ว ต้องกล้าคุยกับทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายอนุรักษ์ ฝ่ายก้าวหน้า และที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยไม่ต้องออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะล่าช้า ก่อนจะมีคนตายมากกว่านี้ และอย่ามองว่าการออกมาเคลื่อนไหวไม่เคารพกฎหมาย แต่ทุกคนต้องได้สิทธิประกันตัว ซึ่งรัฐบาลต้องเป็นคนกลาง ต้องมองนิรโทษกรรมไปถึงคนหนุ่มสาว โดยเฉพาะ ม.112 ไม่ใช่การแก้รัฐธรรมนูญยกเว้นมาตรานี้ ไม่ใช่การล้มล้างสถาบัน ต้องคุยกันในเรื่องนี้โดยใช้อำนาจรัฐในการออกพระราชกำหนด เพื่อออกนโยบายคุยกับทุกฝ่าย ไม่ใช่กฎหมาย และใช้การเมืองนำทหารเข้ามาจัดการ
...
ขณะนี้สังคมไทยกำลังแตกแยก แม้สมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีอำนาจมากก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ กระทั่งบุ้ง ทะลุวัง เสียชีวิต ทางรัฐบาลต้องหาทางออกให้คนรุ่นใหม่ ต้องเป็นเจ้าภาพในการแก้ปัญหากระบวนการยุติธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แม้แต่ ม.112 ทุกคนต้องได้สิทธิประกันตัวในการต่อสู้คดี ไม่เช่นนั้นจะเป็นการละเมิดสิทธิของพวกเขา และอย่าบอกว่าพวกเขาถูกปลูกฝังจากฝ่ายใด จะต้องปฏิรูปทั้งระบบ แม้เกิดขึ้นไม่ง่าย ก็ต้องคุยกับทุกฝ่าย ไม่ควรกล่าวหาซึ่งกันและกันอีกต่อไป จากประสบการณ์ที่สังคมไทยเคยแตกหักกันมาก่อน
“ถ้าไม่แก้ก็จะมีการฉวยโอกาส ต้องไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ต้องปฏิรูปกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ จากการออกนโยบายของรัฐบาล และเปิดให้คนในสังคมเข้าไปรับรู้ ร่วมตรวจสอบ ทำให้สังคมเห็นว่าความคิดไม่ถูกต้องคืออะไร ในการมองให้เท่าทัน อย่าให้สังคมอยู่กับที่ ต้องสร้างระบบที่ดี มีการบริหารจัดการที่ถูกต้องร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อกระตุ้นสิทธิพลเมือง และจัดการนโยบายรัฐบาลร่วมกัน ไม่อยากให้คนตายเกิดขึ้นอีกซ้ำรอยบุ้ง ทะลุวัง ต้องปฏิรูปทั้งหมด ไม่ใช่ปฏิรูปการเมืองเพียงอย่างเดียว”.
...