หลายข้อสงสัยเกี่ยวกับนมโรงเรียนที่นำออกมาขาย และแจกฟรีในหลายยุคหลายสมัย คุ้มค่าหรือไม่กับงบประมาณ 1 หมื่นกว่าล้านบาทในแต่ละปี ในการอุดหนุนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดซื้อนมโรงเรียน ทางทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ ยังคงหาคำตอบกับการตั้งโจทย์ นมโรงเรียนไม่อร่อย? หรือด้วยเหตุผลใด ทำไมนมโรงเรียนเหลือมากมายก่ายกอง
ลองคิดดูเด็กนักเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กว่า 7 ล้านคนทั่วประเทศจะได้นมโรงเรียนคนละ 260 ถุงหรือกล่องต่อปีการศึกษา หากสมมติว่าเด็กไม่ดื่มเหลือทิ้งประมาณ 10% คิดเป็นเงินเท่าไร? จากราคากลางนมโรงเรียนชนิดพาสเจอร์ไรส์ หรือนมถุงขนาด 200 มล. ถุงละประมาณ 6.89 บาท และนมกล่องยูเอชทีขนาด 200 มล. ราคากล่องละ 8.13 บาท คงถึงเวลาแล้วในการปรับกระบวนการคิดในเชิงนโยบายแก้ให้ถูกจุด
นมโรงเรียนอาจไม่ถูกปากเด็กเล็กชั้นอนุบาล เลยเหลือ
เมื่อถามไปยังครูโรงเรียนเอกชน ระดับประถมศึกษาแห่งหนึ่งในกทม. ยอมรับรสชาตินมโรงเรียนอาจไม่ถูกปากเด็กนักเรียน โดยเฉพาะเด็กอนุบาล 1 ไม่ค่อยจะดื่ม เพราะเป็นนมรสจืด เด็กอาจไม่ชอบและเด็กหลายคนติดนมปรุงแต่งที่ดื่มเป็นประจำที่บ้าน แม้ครูจะพยายามหลอกล่อดื่มให้ดูว่ามีรสชาติอร่อยหวานมัน เพื่อให้เด็กดื่มหลังจากตื่นนอนกลางวันก็ไม่สำเร็จ มีบ้างที่จะดื่มนมโรงเรียนในบางวัน ส่วนเด็กอนุบาลสองขึ้นไปก็ดื่มนมโรงเรียน ยกเว้นจะเบื่อหรืออิ่ม ขณะที่เด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 5-6 จะดื่มนมโรงเรียนได้ง่ายกว่า อาจคุ้นกับรสชาติเคยดื่มประจำทุกวัน กลุ่มนี้ไม่ค่อยมีปัญหา แต่หากประเมินนมโรงเรียนที่เหลือในแต่ละวันน่าจะประมาณ 10% หรือน้อยกว่านั้น จากจำนวนเด็กนักเรียน 600 คน
...
การจัดเก็บนมของโรงเรียนทำตามคู่มือที่กำหนด เมื่อรถมาส่งนมโรงเรียนในทุกเช้าของทุกวันจะทำการตรวจเช็กสภาพถุงนมโรงเรียน ดูวันหมดอายุ และทดลองดื่มนมว่ารสชาติผิดเพี้ยนหรือไม่ ก่อนรีบนำเข้าตู้เย็นอุณหภูมิไม่เกิน 8 องศาฯ เตรียมแจกให้กับเด็กนักเรียน หากถามว่านมโรงเรียนอร่อยหรือไม่ ก็ขอตอบว่าอร่อยดี มีรสชาติมันๆ ไม่ถึงกลับจืดชืดเหมือนน้ำเปล่า อย่างที่หลายคนพูดกัน อาจแล้วแต่ผู้ผลิตนมก็ได้ในแต่ละพื้นที่ ส่วนทางโรงเรียนจัดซื้อนมถุงพาสเจอร์ไรส์ จากผู้ผลิตเจ้าประจำ ซึ่งมีมาตรฐานไม่เคยมีปัญหาใดๆ เรื่องคุณภาพ
เสนอให้เงินผู้ปกครอง ซื้อนมดีๆ ให้ลูกหลานกินเอง
ในฝั่งนักวิชาการ “รศ.ดร.วีระชาติ กิเลนทอง” ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อการประเมินและออกแบบนโยบาย (RIPED) และคณบดีคณะการศึกษาปฐมวัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า นมโรงเรียนน่ามีส่วนสำคัญต่อเด็กนักเรียนไทย แต่ถ้าจะยกเลิกนมโรงเรียนจะเกิดอะไรขึ้น เพราะผู้ปกครองก็ซื้อนมให้ลูกหลานดื่มอยู่แล้ว ก็ควรเอาเงินให้ผู้ปกครองไปซื้อ ก็น่าจะทดลองดู ไม่ใช่เหมือนทุกวันนี้ “คนซื้อไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ซื้อ” ควรให้ผู้ปกครองเลือกซื้อนมเอง และบางคนก็มีนมให้ลูกหลานอยู่แล้ว ก็ควรย้อนกลับไปดูนโยบายให้เหมาะกับยุคสมัย
“ควรอภิปรายเรื่องนมโรงเรียนกันให้ชัด แทนที่รัฐจะจัดซื้อนมให้เด็ก ก็ควรให้ผู้ปกครองซื้อเองจะดีกว่าหรือไม่ และต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกหลาน เพราะนมโรงเรียนอาจไม่อร่อยก็เป็นไปได้ คนกินไม่ได้ซื้อเอง กลายเป็นว่าเสียเปล่า อาจปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการนมโรงเรียนให้ง่ายขึ้น ไม่ได้หมายความว่าจะให้ยกเลิก ควรให้โภชนาการที่เหมาะสมกับเด็ก เพราะนมมีประโยชน์มากต่อพัฒนาการของเด็ก และ 20 ปีที่ผ่านมา ทำให้คนไทยแข็งแรง ไม่มีอะไรดีเท่ากับให้คนใช้ไปซื้อเอง”
นโยบายนมโรงเรียนเป็นเหมือนสิ่งของที่เคยเกิดขึ้นมีมานาน หากมีการยกเลิกอาจมีการต่อต้านได้ อาจพิจารณากันใหม่ในรูปแบบของตัวเงินหรือคูปองให้กับผู้ปกครอง เพื่อให้เกิดผลและบริหารจัดการได้ง่าย ไม่ให้บุคลากรของรัฐเสียเวลาในการทำเอกสาร และลดต้นทุนในการบริหารจัดการ เพราะนมโรงเรียนอาจมีเรื่องของสเกล อย่างไรก็ต้องซื้ออยู่แล้ว อาจซื้อนมโรงเรียนกล่องยูเอชทีทั้งหมด ซึ่งเก็บรักษาได้ง่ายกว่า
ใส่เงินแอปฯ เป๋าตัง ซื้อนม ลดต้นทุนบริหาร-ต้นทุนแฝง
...
ที่ผ่านมานโยบายนมโรงเรียนหลายอย่างเป็นแนวคิดที่ดี แต่คอนเซปต์ยังโบราณในการจัดซื้อให้เด็กนักเรียน ทั้งที่โลกนี้อยู่ในโลกยุคใหม่ เมื่อให้ผู้ปกครองเลือกซื้อก็จะพยายามเลือกในสิ่งที่ดีที่สุดอยู่แล้ว ซึ่งปัจจุบันมีแอปฯ เป๋าตัง สามารถเคาะได้ ไม่มีต้นทุนบริหารจัดการถือเป็นข้อดีและไม่มีต้นทุนแฝงอย่างอื่น อีกทั้งเด็กมีนมของตัวเองดื่มอยู่แล้ว มีให้เลือกหลากหลายในท้องตลาด แม้ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ ก็เข้าใจว่าเด็กบางคนไม่ชอบดื่มนมรสหวานเหมือนกัน แต่คิดว่าคนได้ประโยชน์ก็ต้องเลือกส่ิงที่ดีพอ
“ผู้ปกครองเลือกซื้อนมกันเป็น ไม่มีใครเลือกไม่เป็น หากเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ จะทำให้ร้านค้าในพื้นที่เปลี่ยนตาม นำนมมาขายให้กับเด็กๆ คิดว่านมยูเอชทีไม่ด้อยกว่านมชนิดอื่น มีข้อดีในการบริหารจัดการได้ดีกว่า ยิ่งพื้นที่ห่างไกลสามารถสต๊อกเก็บไว้ได้ และทุกวันนี้โลกเปลี่ยน ตลาดนมใหญ่ขึ้นกว่าสมัยก่อน เป็นทางเลือกในการซื้อนมของผู้บริโภค อยากให้เปลี่ยนวิธีคิด ไม่ได้ให้ยกเลิกนมโรงเรียน เพราะนมคือแหล่งโปรตีนสำหรับเด็ก ควบคู่กับอาหารอย่างอื่น และนมขนส่งได้ง่าย เพื่อให้เด็กบางพื้นที่ยังขาดโปรตีนทั้งพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นที่ชายขอบ ยังมีเด็กร่างกายแคระแกร็น จะต้องได้รับสารอาหาร ดื่มนมที่มีคุณภาพอย่างคนทั่วไป”
...
นมโรงเรียนไม่อร่อย เพราะคนกินจริงๆ ไม่ได้ซื้อเอง
การให้เงินผู้ปกครองซื้อนมให้เด็กเป็นทางแก้ที่ดีที่สุด หากนมโรงเรียนไม่อร่อย จนเด็กไม่ดื่มเหลือเป็นจำนวนมาก แม้หลายฝ่ายจะเกรงว่าเมื่อให้เงินผู้ปกครองไปแล้ว อาจไม่ซื้อนม แต่ก็อยากจะให้ซื้ออะไรที่ดีให้กับลูกหลาน ซึ่งที่ผ่านมาภาครัฐมักคิดเช่นนั้น นำไปสู่การออกนโยบายที่ไม่มีประสิทธิภาพโดยไม่จำเป็น และการให้เงินกับผู้ปกครอง ไม่กังวลว่าจะไม่ซื้อนม ทุกอย่างอยู่ที่การสื่อสารและทำแคมเปญ อยากให้งบนมโรงเรียนถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
จากการจัดซื้อนมที่ไม่ถูกใจเด็ก เปลี่ยนมาเป็นให้เขาเลือกเอง ไม่ใช่เลือกแทนเขา เพราะทุกคนรู้ดีว่าทุกวันนี้นมยี่ห้อใดมีมาตรฐานในท้องตลาด เรื่องนมโรงเรียนแก้ได้ง่ายๆ อาจทำเพื่อเกษตรผู้เลี้ยงโคนมในการแก้ราคาตกต่ำ เป็นการออกแบบที่ไม่มีประสิทธิภาพ แต่ในทางตรงได้ช่วยเด็กไทยให้เติบโตแข็งแรง และสามารถจะทำได้ดีกว่านี้ หากมีการปรับนโยบายนมโรงเรียนให้เป็นไปตามยุคสมัยและสถานการณ์ปัจจุบัน.