ภาพความทรงจำอันเจ็บปวดสมัยเรียน ม. 4 ตามมาหลอกหลอนนักศึกษาสาวปีที่ 1 เมื่อมีคนโพสต์คลิปลับว่อนโลกโซเชียลมากถึง 3 ครั้ง แล้วมีการแท็กชื่ออินสตาแกรมของเธอ มีผู้เข้ามาติดตามเป็นจำนวนมาก เหมือนเป็นการประจานทำให้อับอายเหมือนตายทั้งเป็น จนนักศึกษาสาวรายนี้มีอาการซึมเศร้า ก้มกราบเท้าผู้เป็นแม่ เพื่อขอลาตาย ไม่อยากมีชีวิตอีกต่อไปผู้เป็นแม่สังเกตเห็นความผิดปกติของลูกสาว จึงขอความช่วยเหลือจากเพจ ”สืบนครบาล” ให้ช่วยติดตามจับกุมคนปล่อยคลิปลับขณะลูกสาวเรียนอยู่ชั้น ม.4 เมื่อปี 2565 ถูกครูหนุ่มฝึกสอนภาษาเยอรมัน ล่อลวงถ่ายคลิปลับความสัมพันธ์เอาไว้ ต่อมาครูฝึกสอนรายนี้หนีเกณฑ์ทหารไปอยู่เยอรมนี นาน 9 เดือน จนความสัมพันธ์ห่างหาย และนักเรียนสาวสอบเทียบเข้ามหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 1เหตุการณ์เลวร้ายไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นในอีก 2 ปี หลังครูหนุ่มแอบส่องอินสตาแกรมของนักศึกษาสาว และคอยติดต่ออ้อนวอนให้กลับมามีความสัมพันธ์เช่นเดิม แต่นักศึกษาสาวปฏิเสธ จนครูหนุ่มมาเห็นภาพคู่กับแฟนหนุ่มคนใหม่ ทำให้โกรธ ทนไม่ได้ ถึงขั้นปล่อยคลิปลับอย่างต่อเนื่องเมื่อปลายปี 2566 สร้างความอับอายให้กับนักศึกษาสาวเหมือนตายทั้งเป็น แม้ผู้เป็นแม่มีการแจ้งความกับตำรวจในพื้นที่แล้ว แต่ยังมีคลิปโผล่มาอีก จากการสืบสวนของตำรวจ "สืบนครบาล" จนรู้ว่าครูฝึกสอนหนุ่มรายนี้ คือ ครูเปรม อายุ 28 ปี ชาวขอนแก่น เพิ่งได้รับการบรรจุเป็นครูอัตราจ้าง โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สงขลา จึงเข้าจับกุมตัวคาห้องพักครู เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2567 และพบคลิปลับไม่ต่ำกว่า 15 คลิป กับนักเรียนสาวรายอื่นอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น พบว่าครูหนุ่มชอบหญิงสาวผมยาว สวมแว่นตา สวมชุดนักเรียน หรือชุดนักศึกษา และรสนิยมทางเพศชอบมัดมือ มัดเท้า ในลักษณะ "ขึงพืด" และเอาผ้าปิดตาในชั้นจับกุม ครูเปรม หรือครูโฉดขยี้กามเด็ก ให้การภาคเสธ ยอมรับว่าทำการพรากเด็กไปย่ำยี และถ่ายคลิปไว้จริง เป็นที่ระลึกตามความชอบส่วนตัว แต่ไม่ยอมรับว่าเป็นผู้ปล่อยคลิป อ้างว่าน่าจะหลุดมาตอนนำโทรศัพท์มือถือไปซ่อมขณะอยู่ที่เยอรมนี แต่อย่างไรแล้วก็ถือเป็นภัยต่อสังคม จากการกระทำของครูโฉด นำเด็กนักเรียนสาวมาเป็นเหยื่อบำบัดความใคร่ทางเพศซ้ำๆ เรียกว่า โรคใคร่เด็ก หรือ Pedophilia ซึ่งทางตำรวจเชื่อว่ามีนักเรียนสาวตกเป็นเหยื่ออีกหลายราย เบื้องต้น พนักงานสอบสวน มีการแจ้ง 3 ข้อกล่าวหา 1. พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ไม่เกินสิบแปดปี ไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุสมควรเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย 2. หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และ 3. นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามก” โดยพนักงานสอบสวนได้มีการคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมีผู้เสียหายเป็นเด็กและเยาวชน.