เส้นผมของน้องชมพู่ที่โดนตัดด้วยของมีคม เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในการมัดตัวลุงพล หรือไชย์พล วิภา จนถูกศาลตัดสินจำคุกรวม 20 ปี ใน 2 ข้อหา ฐานกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 10 ปี และพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันสมควร จำคุก 10 ปี
ในการคลี่คลายคดีน้องชมพู่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้เก็บเส้นผมมีรอยถูกตัดจำนวน 50 เส้น บริเวณจุดที่พบศพน้องชมพู่บนเขาภูเหล็กไฟ และอีก 1 เส้นภายในรถของลุงพล โดยตำรวจเชื่อว่าคนที่ทำอาจมีความเชื่อด้านไสยศาสตร์ มีการตัดผมน้องชมพู่ไปกระจุกหนึ่งด้วยการใช้มีดสับให้ขาด อาจช่วยสะกดวิญญาณทำให้ผู้เสียชีวิตไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำให้เสียชีวิต
ข้อสงสัยกับการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ยังมีการถกเถียงในกลุ่มผู้คนในสังคมส่วนหนึ่ง มองว่าอาจเป็นการบูชายัญเด็กหญิงบริสุทธิ์ เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ปรารถนา และหากย้อนคำพูดของลุงพลในช่วงแรก ได้หลุดปากพูดถึงความเชื่อเรื่องพญานาคอีกด้วย และต่อมาภายหลังลุงพลเป็นที่รู้จักโด่งดังราวกับซุปตาร์ มีเงินมีทอง ก็ได้สร้างรูปปั้นพญานาค เหมือนเป็นการตอบแทนอะไรบางอย่างหรือไม่?
...
ตัดเส้นผม พิธีกรรมสะกดวิญญาณ ไม่ให้มาระราน
เรื่องความเชื่อด้านไสยศาสตร์ หรือมนตร์ดำต่างๆ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคน อาจเป็นสาเหตุทำให้น้องชมพู่เสียชีวิตก็ได้ หากเชื่อก็อย่างมงายจนเกินไป เมื่อไปถาม “เอ แบล็กเมจิก ไทยแลนด์” ผู้เชี่ยวชาญด้านไสยศาสตร์สายเขมร เอ่ยปากคำแรกเลยว่า ลุงพลผิดปกติและมีพิรุธตั้งแต่ร่วมพิธีสาบาน มีการปักธูปกลับหัวเพื่อถอนคำสาบาน และยังกินถ่านแก้เคล็ด แก้คำสาบาน ซึ่งตามศาสตร์เขมร ถือเป็นการแก้คุณไสย ไม่ให้ย้อนเข้าหาตัว
ข้อสงสัยกรณีการตัดผมน้องชมพู่ เป็นการทำพิธีในลักษณะสะกดวิญญาณไม่ให้มาระราน อย่างศาสตร์ของเขมรจะเอาเส้นผมมาฝังไว้ที่บันไดบ้าน เป็นการสะกดตัวบุคคลและวิญญาณไม่ให้มาระรานหลอกหลอน เช่นเดียวกับการทำเสน่ห์ มีการนำเส้นผมส่วนตรงกลางของตัวบุคคลที่จะให้มารัก ให้มีความใคร่หลงใหล นำไปฝังใต้บันไดแล้วทำพิธีราดน้ำโรยข้าวสาร
“การตัดเส้นผมเป็นการสะกดวิญญาณ สัปเหร่อส่วนใหญ่ก็จะทำกันอยู่แล้ว และความเชื่อเอาเด็กบริสุทธิ์มาบูชายัญ เป็นมนต์พิธีความเชื่อของลัทธิหนึ่งในการเลี้ยงผี ไม่เกี่ยวกับความเชื่อเรื่องพญานาค แต่พญานาคจะช่วยเสริมให้มีความยิ่งใหญ่ ตามความเชื่อของศาสนาฮินดู”
ลุงพลเล่นของ มาถึงจุดเสื่อม แววตาตก หน้าหมอง
การตัดผมมี 2 ประเด็นตามศาสตร์ของเขมร ในเรื่องการทำเสน่ห์กับตัวบุคคลที่ยังมีชีวิต และการบูชายัญก็อย่างที่เห็น ซึ่งเห็นมาตั้งแต่แรกช่วงเกิดเรื่องว่าลุงพลเป็นคนเล่นของเล่นมนตร์ดำ มีการตั้งบายสี โดยวิธีแก้ต้องเอาผ้าถุงที่ใช้แล้วมาคลุมหัวให้ของออก แต่ขณะนี้ลุงพลดวงตกอาจเผลอไปร่วมงานศพ หรือไปกินอะไรบางอย่าง ไปกินเนื้อหมาโดยไม่รู้ตัว จนตอนนี้ของเริ่มเสื่อมมีคดีความ ดูจากแววตาที่ตก หน้าตาหมองคล้ำ และการให้สัมภาษณ์เริ่มล่อกแล่ก
ก่อนหน้านี้ตั้งข้อสังเกตทำไมลุงพล พูดคำสาบานขนาดนั้น และเคลื่อนไหวตลอดตั้งแต่แรก ขณะที่ร่วมพิธีสาบาน มีการทำมนต์พิธีทั้งปักธูปกลับหัวและเคี้ยวถ่าน ยังไม่รวมการทำพิธีอื่นๆ ที่คนภายนอกไม่เห็น
อีกวิธีในสายขาวทำให้ของหลุด ต้องให้กินมะเฟือง กินปลามีเกล็ด แต่ของอาจไม่หลุดทั้งหมด หรือของเริ่มเสื่อมในช่วงพระจันทร์เต็มดวงในวันลอยกระทงที่ผ่านมา ซึ่งมีจันทรคติจะต้องบูชาครู อาจจะทำอะไรผิด หากไปงานศพจะแรงมาก ถ้าไม่ทำพิธีขอขมาในการล้างน้ำ อาบน้ำล้างหน้าล้างตัวด้วยใบทับทิม
...
ส่วนวิธีสังเกตว่าคนๆ นั้นมีของหรือเล่นของหรือไม่ หากรู้สึกขนลุก ตาพองโตเหมือนตกใจในลักษณะตะลึง แสดงว่าคนที่เจอคนนั้นเล่นของ หรืออาจเกิดจากเทวดาประจำตัวที่คอยปกปักรักษา จนดูเหมือนว่าเป็นคนมีของอยู่ข้างในก็ได้ และเชื่อว่าลุงพลเล่นของอย่างแน่นอนจากที่สังเกตเห็นตั้งแต่แรก จนขณะนี้ของเริ่มเสื่อมจากแววตาที่ตกอย่างเห็นได้ชัด.