เสี่ยแป้ง นาโหนด หลบหนีการควบคุมตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา หลังผู้คุมพาไปพบหมอฟันที่ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ก่อนคนร้ายออกอุบายหมดสติ ต้องนอนค้างโรงพยาบาล ก่อนที่กลางดึกจะไขโซ่ตรวนที่พันธนาการออก ท่ามกลางข้อสงสัยของประชาชนว่า มีคนในสมรู้ร่วมคิดหรือไม่ ล่าสุดตำรวจออกหมายจับขบวนการพาหนี มีการอ้างว่าแอบปั๊มกุญแจผี และมีสมุนมารับเป็นขบวนการ
เสี่ยแป้ง นาโหนด อายุ 37 ปี ก่อคดีอุกฉกรรจ์ พื้นที่นครศรีธรรมราช พัทลุง เคยมีประวัติพาผู้ต้องหาหลบหนีคดีมาแล้ว โดยถูกคุมขังในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช 20 ปี 6 เดือน เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 66 ผู้คุมพามาพบหมอ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช พอเวลา 08.30 น. หมอได้เลื่อนนัดทำฟัน ผู้คุมเตรียมพากลับเรือนจำ แต่ แป้ง นาโหนด ออกอุบายวูบหมดสติ ต้องพักรักษาตัวต่อที่ รพ.
22 ต.ค. 66 เวลาประมาณตีหนึ่ง คนร้ายเปลี่ยนชุดหนีพร้อมสมุน ร่วมชั่วโมงผู้คุมถึงรู้ว่าคนร้ายหลบหนี ก่อนแจ้งตำรวจ ภายหลังการหลบหนีมีการสืบสวนเจ้าหน้าที่ภายในโรงพยาบาล อ้างว่า มีบุคคลมาจ้างให้ถือกุญแจผี ใช้ในการไขโซ่ตรวน ทำให้คนร้ายสามารถหลบหนีได้อย่างลอยนวล มีการเปลี่ยนชุดเหมือนประชาชนทั่วไป
...
ตลอดทั้งวันที่ 22 ต.ค. 66 เจ้าหน้าที่ระดมกำลังตามล่า แต่ไม่พบเบาะแส คาดว่า เสี่ยแป้ง นาโหนด วางแผนไว้นาน หวังแหกคุกออกไปแก้แค้นคนที่ทำให้ต้องคดี และมีการตั้งค่าหัว 1 แสนบาท หากมีการแจ้งเบาะแสคนร้าย พร้อมทั้งให้ญาติกล่อมมอบตัว หากมีการติดต่อมา
ปมสงสัย เสี่ยแป้ง นาโหนด หลบหนีได้อย่างไร
ภารกิจตามล่า เสี่ยแป้ง นาโหนด ตำรวจปิดเมืองนครศรีธรรมราช และพื้นที่ใกล้เคียง ขณะสังคมก็มีการตั้งคำถามถึงการสลัดโซ่ตรวนหนีของคนร้าย ถึงข้อพิรุธบางอย่างที่ไม่น่าเกิดขึ้น รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล ผู้ช่วยอธิการบดี และประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยา มหาวิทยาลัยรังสิต ตั้งข้อสังเกตกับทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ว่า โดยหลักนักโทษที่มีอัตราโทษสูง มีความเสี่ยงหลบหนี เมื่อต้องออกมานอกเรือนจำ ต้องมีการใส่โซ่ตรวน และจำนวนเจ้าหน้าที่ในการดูแลต้องรัดกุมมากกว่านักโทษที่ใกล้พ้นโทษ สิ่งนี้กลายเป็นคำถามที่สังคมสงสัย
ด้านบุคคลสมรู้ร่วมคิดพาหนี เป็นประเด็นที่ต้องมีการตรวจสอบ เพราะการถอดพันธนาการได้ต้องใช้กุญแจของราชทัณฑ์ ยิ่งผู้ต้องหามีโทษจำคุกถึง 20 ปี อยู่ในเรือนจำความมั่นคงสูง สิ่งที่เป็นประเด็นคือ หลังจากที่นักโทษหลบหนี มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจล่าช้ากว่าปกติร่วมชั่วโมง ทั้งที่จริงควรมีการแจ้งตำรวจทันที การหลบหนีของนักโทษหนนี้ถือเป็นอีกข้อหา ที่ทำให้ถูกจำคุกเพิ่มขึ้นหากมีการจับได้
“การตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับการหลบหนีหรือไม่ สามารถตรวจดูได้ไม่ยาก ภาพจากกล้องวงจรปิดในระหว่างที่คนร้ายหลบหนี โดยมีการลงลิฟต์และไปพร้อมกับชายรายหนึ่งที่ช่วยพาหลบหนี เป็นเบาะแสที่ค่อนข้างน่าแปลกใจ บ่งชี้ว่านักโทษมีการวางแผนมาก่อน แต่สามารถติดต่อสื่อสารกับบุคคลภายนอกได้อย่างไร”
อีกสิ่งที่ค่อนข้างน่าสนใจคือ อาการป่วยเกี่ยวกับฟัน นักโทษสามารถออกมาหาหมอที่โรงพยาบาลได้ขนาดนี้หรือ เพราะจากข้อมูลที่เคยไปเก็บมาจากนักโทษหลายเรือนจำ หลายคนมีปัญหาเกี่ยวกับฟัน แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ออกมาพบทันตแพทย์นอกเรือนจำ กรณีนี้ต้องดูข้อมูลถึงความเหมาะสมในการนำนักโทษออกมา ไม่เช่นนั้นเรือนจำอื่นที่มีนักโทษป่วยเป็นโรคฟันสักพันคน ผู้คุมต้องทำงานหนักอย่างมาก เนื่องจากนักโทษหนึ่งคนต้องมีผู้คุมมาด้วยอย่างน้อยสองคน และในภาวะที่เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ จึงเป็นเรื่องยากที่จะทำได้
...
หากคนร้ายมีการวางแผนหลบหนี ต้องมีการวิเคราะห์ว่า คนร้ายสามารถสื่อสารกับคนที่ช่วยเหลือได้อย่างไร เพราะบางครั้งคนร้ายอาจมีการสื่อสารกับญาติที่มาเยี่ยม ในทำนองว่าออกมาพบแพทย์ ซึ่งไม่เป็นการพูดสื่อสารกันแบบตรงๆ แต่พูดอ้อมๆ เหมือนเป็นการส่งสัญญาณของทั้งสองฝ่าย
การหลบหนีครั้งนี้ยิ่งทำให้เจ้าหน้าที่เรือนจำไม่ควรประมาท ในทุกครั้งที่พานักโทษออกมาภายนอกเรือนจำ เพราะคนที่มีอัตราโทษสูง มีโอกาสหลบหนี เช่นเดียวกับการสืบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องว่ามีส่วนรู้เห็น มีการลงโทษอย่างเด็ดขาด.