การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสยังคงรุนแรงต่อเนื่อง หลังรัฐบาลอิสราเอลประกาศภาวะสงคราม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตทั้งสองฝ่ายพุ่งไม่หยุดทะลุ 2 พันศพแล้ว ส่วนคนไทยเสียชีวิตเพิ่มเป็น 21 ศพ ทำให้แรงงานไทยหวาดผวาแจ้งความประสงค์จะกลับไทยกว่า 5 พันคนจากจำนวนแรงงานไทยเกือบ 3 หมื่นคน และส่วนใหญ่ไม่ประสงค์กลับไทย เกรงว่าจะไม่มีงานทำ หรือหากทำงานในไทยจะไม่สามารถมีรายได้ต่อเดือน 4-5 หมื่นบาท เหมือนอยู่ในอิสราเอลอย่างแน่นอน

ความจริงเกี่ยวกับแรงงานไทยในอิสราเอล เป็นมาทุกยุค

เหตุผลเรื่องรายได้ทำให้แรงงานไทยในอิสราเอล ไม่อยากกลับไทยแม้จะเสี่ยงต่อชีวิตจากไฟสงครามก็ตาม “ชาลี ลอยสูง” ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ยอมรับว่าค่าจ้างภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรมในไทย ต่างกันลิบลับกับค่าจ้างในอิสราเอล ทำให้คนไทยมาขายแรงงานในภาคเกษตรได้ค่าจ้างเดือนละ 3-5 หมื่นบาท เพราะถ้าอยู่ในภาคเกษตรไทยอาจได้เต็มที่ 1 หมื่นกว่าบาท ต้องไปหางานที่อื่นเพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว เป็นส่วนหนึ่งทำให้คนไทยดิ้นรนไปอิสราเอล จนกลายเป็นสวรรค์ของแรงงานภาคเกษตรไทยโดยเฉพาะคนต่างจังหวัด 

...

“ส่วนใหญ่มีนายหน้าในจังหวัดนั้น ตำบลนี้ จะไปทำงานอิสราเอล 400-500 คน อยู่ๆจะไปเองไม่ได้ต้องมีนายหน้า ก่อนไปไม่ได้ใช้เงิน 7-8 หมื่นบาทอย่างที่ราชการบอก แต่อย่างน้อยก็แสนกว่าบาททั้งนั้น คนที่ไปได้เงินเดือน 4-5 หมื่นบาท แล้ว 2-3 เดือนที่ทำงานจะคุ้มค่าใช้จ่ายเดินทางหรือไม่ ต้องบอกเลยใช้เวลาครึ่งปี จากนั้นก็ส่งเงินกลับบ้าน อีกทั้งต้องกินต้องอยู่และค่าครองชีพในอิสราเอลสูงกว่าบ้านเรา ถามว่าเงินเดือน 5 หมื่นจะเหลือเท่าไร หากมัธยัสถ์ก็อาจเหลือเงินครึ่งหนึ่ง ถ้ากินอย่างดีอาจเหลือไม่ถึง และคนไปที่โน่นไม่ได้เก็บเงินอย่างเดียว เพราะที่รู้มามีบางส่วนเป็นนักเล่นกินกันเอง จนบางคนกลับมาไทยเป็นหนี้เป็นสิน ไม่ได้ไปแค่ทำงาน แต่เอางานบังหน้าหลอกคนไทยเล่นพนัน เป็นมาทุกยุคทุกสมัยแล้ว”

เป็นส่วนหนึ่งที่อยากให้รู้เพราะแรงงานภาคเกษตรอาศัยอยู่รวมกัน กินก็กินด้วยกันเล่นก็เล่นด้วยกัน กลับมาไทยแทนที่จะรวยก็ยิ่งเป็นหนี้เป็นสิน แต่คนที่ตั้งใจทำงานอย่างเดียวก็มีเพื่อนำเงินมาปลูกบ้านและที่ไปเล่นพนันก็มี ต้องมองว่าในสังคมมีทั้งดีและไม่ดี ซึ่งถามว่าการไปทำงานในต่างประเทศก็ดีต่อประเทศชาติในการส่งเงินกลับมาไทย อีกส่วนหนึ่งถูกหลอกก็มี จะต้องมีวิธีการป้องกันอย่างจริงจัง หลังเกิดเหตุการณ์สู้รบทางภาครัฐของไทยต้องทำนโยบายเชิงรุก แต่ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในขณะนี้ก่อนในการช่วยเหลือคนไทยให้ปลอดภัย

จี้ล้างบางระบบนายหน้า กินหัวคิวทำงานต่างประเทศ

จากนั้นต้องไปแก้ปัญหาเรื่องนายหน้า และมีเจ้าหน้าที่รัฐร่วมด้วยอยู่แล้ว จะต้องทำอย่างไรในการแก้ปัญหา และสิ่งที่พูดไปไม่ได้โจมตีแต่เป็นเรื่องจริง หากตาสีตาสาจะเข้าไปติดต่อต้องใช้เวลานาน ถ้ามีนายหน้าจะรวดเร็วมากแต่ต้องใช้เงิน และเรื่องรายได้ของแรงงานไทยในอิสราเอล หากอยู่ไม่ครบ 4-5 ปีก็จะแย่ หากอยู่ครบสัญญาก็จะดี ไม่ถึงกับร่ำรวยเพียงแต่ได้บ้านหลังน้อยและที่ดินแปลงเล็กๆ ส่วนอีกประมาณ 20-30% จะเสียเพราะการพนัน ซึ่งในเชิงวิชาการทางภาครัฐมองไม่เห็น เพราะมองไม่ลึก และโดยมากไม่ได้ข้อมูลเชิงลึก แต่ถ้าเป็นชาวบ้านธรรมดาจะได้ข้อมูล

...

“ทำงานในอิสราเอลต้องเสี่ยงหน่อยแลกกับเงินเดือน ถ้าจะดิ้นรนกลับมาไทยหลังเกิดเหตุสู้รบก็ไม่ได้ เพราะเครื่องบินไม่พอ และวิธีปฏิบัติจะได้แบบที่รัฐบาลพูดหรือไม่ หรือพูดต่อหน้าสาธารณะเท่านั้น เชื่อว่าคนไทยที่กลับมาได้ก็วิ่งเต้น มีเส้นมีสาย ไม่ใช่อยู่ๆ จะไปซื้อตั๋วได้เลย คิดว่ามีการกินหัวคิว และมองว่าการทำงานต่างประเทศเป็นเรื่องดี แต่ขออย่างเดียวอย่าเก็บหัวคิวกันมากมาย อย่างคนในชนบททำไมไปต่างประเทศเป็นพันๆ คนได้ รู้ได้อย่างไร ก็ต้องมีคนเป็นนายหน้าไปหาคนไป รัฐไม่สามารถควบคุมได้ หากจะล้างบางก็ยากไม่ง่าย ยกเว้นคนที่เคยไปแล้วก็จะง่ายหน่อย”

ปรับโครงสร้างเงินเดือนให้อยู่ได้ ไม่ต้องไปทำงานตปท.

สถานการณ์ในภาวะสงครามอยากให้รัฐแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ต้องทำอย่างไรให้คนไทยได้รับความปลอดภัย มีการตั้งศูนย์รองรับให้กับคนไทย มีการทำงานเชิงลึกเสาะหาคนไทยในแต่ละพื้นที่ว่ากระจายไปอยู่ที่ใดในต่างจังหวัดของอิสราเอลเพื่อให้การช่วยเหลือ เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจะต้องทำหน้าที่ช่วยคนไทยในการลงพื้นที่ ไม่ใช่กลัวตาย และเมื่อทุกอย่างได้รับการแก้ไขพาคนไทยบางส่วนกลับไทย จะต้องมีการปรับโครงสร้างเงินเดือนให้เป็นไปตามกลไก ดีกว่าขึ้นค่าแรงขั้นต่ำมองว่าเป็นดาบสองคม ทำให้เงินเฟ้อค่าครองชีพสูงตามมา 

...

หากรัฐแก้ระบบตรงนี้ได้จะดีมากต่ออนาคต ทำให้คนไทยไม่ต้องไปทำงานต่างประเทศ อย่างค่าจ้างภาคอุตสาหกรรมต้องครอบคลุมทั่วถึง ไม่ควรแยกเป็นรายอุตสาหกรรม หรือตามทักษะ อย่าไปกลัวนายทุน จะต้องแก้ที่ต้นเหตุ หากเหตุการณ์สู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสดีขึ้น หากคนไทยอยากกลับไปทำงาน ทางรัฐก็ไปเจรจาทำเงื่อนไขกับอิสราเอล

แต่ข้อสำคัญสุด ณ วันนี้ ยังไม่ใช่อย่างนี้เพราะตราบใดยังเกิดสงคราม ทางนายจ้างก็ยังไม่จ้างคนไทย ทางภาครัฐของไทยจะต้องหามาตรการเยียวยาช่วยเหลือ และไม่แน่ใจว่าเงินเยียวยาจากอิสราเอลจะได้จริงหรือไม่กรณีเสียชีวิต และยังไม่รวมคนที่สูญหาย เกรงว่าหากกระแสเงียบไป อาจมีการเรียกร้องทวงถาม เพราะวิธีปฏิบัติอาจไม่ง่าย.