ความเชื่อครูกายแก้ว กลายเป็นดราม่าร้อน หลังทำพิธีบวงสรวงเมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา มีผู้คนจำนวนมากแห่ไปกราบไหว้ขอพร บริเวณโรงแรมเดอะบาซาร์ ย่านรัชดาฯ เพราะเชื่อว่าเป็นเทพแห่งความมั่งคั่ง ร่ำรวยสามารถขอในสิ่งที่เป็นไปยากได้ และจากกระแสโด่งดังของครูกายแก้ว ได้มีเพจออกมาโพสต์รับซื้อลูกสุนัข ลูกแมว ลูกกระต่าย อ้างว่าจะนำไปบูชายัญครูกายแก้ว จนกลุ่มผู้รักสัตว์ออกมาต่อต้าน ยังไม่เท่านั้นได้มีการขุดคุ้ยประวัติความเป็นมาของครูกายแก้ว มีตัวตนจริงหรือไม่ ในยุคพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ของกัมพูชา และมีการถกเถียงกันว่าเป็นเทพ หรืออสุรกาย

หลายดราม่าที่เกิดขึ้นกับรูปปั้นครูกายแก้ว ร่างดำทะมึนในลักษณะครึ่งมนุษย์ครึ่งนก มีปีกด้านหลัง เล็บยาว ตาแดง และมีเขี้ยว ถูกสร้างและออกแบบโดยอาจารย์หน่อย-สมสฤษดิ์ รัตนสุข ได้รับการถ่ายทอดวิชาครูกายแก้วจาก อาจารย์สุชาติ รัตนสุข ผู้เป็นพ่อ มีการริเริ่มหล่อองค์ครูกายแก้วเป็นครั้งแรกในไทย ก่อนเสียชีวิตในปี 2561 ทิ้งมรดกความรู้ให้กับลูกหลาน และเมื่อเวลาผ่านไปไม่เคยปรากฏมีการนำสัตว์สิ่งมีชีวิตมาบูชายัญครูกายแก้วแต่อย่างใด

...

ทำให้ “เทพฤทธิ์ แป้นสุข” ลูกบุญธรรมของอาจารย์สุชาติ ในฐานะน้องชายอาจารย์หน่อย ต้องออกมาชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เริ่มจากจุดกำเนิดรูปปั้นครูกายแก้ว มาจากนิมิตของอาจารย์สุชาติ จึงวาดรูปนี้ขึ้นมาและให้ช่างปั้น ซึ่งเดิมเรียกครูกายแก้วว่าพ่อใหญ่ เมื่อสร้างเป็นองค์ขึ้นมาเพื่อเอาไว้บูชาได้ใช้คำว่าแก้ว มาจากนามสกุลรัตนสุข แปลว่าแก้ว ไม่ได้มาจากเขมรโบราณ และไม่ได้สร้างให้คนเช่าบูชา หรือประมูล

“เท่าที่ดูจากดราม่า น่าจะเป็นการทำตลาดของอีกฝั่งและมีการออกมาโจมตี เนื่องจากกระแสโด่งดังของครูกายแก้ว ในการหาเครื่องรางของขลัง เลยสร้างกระแสทางลบ ไม่ทราบว่ามีวัตถุประสงค์อะไร แต่ก็น่าไปทางนั้น และการเอาลูกหมา ลูกแมวมาบูชายัญก่อนหน้านี้ ก็ไม่เคยมี มันเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องอยู่แล้ว หรือถ้าพูดตรงๆ ทางสื่อน่าจะสืบง่ายกว่า เพราะคนโพสต์นำเสนอแบบนี้ ผิด พ.ร.บ.คอมฯ ผิด พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ ต้องระวังตัวจะเข้าคุกเข้าตะราง อยากให้ตำรวจไซเบอร์ ช่วยสืบหาคนกระทำผิดในสิ่งไม่ถูกต้อง”

อีกทั้งคนบูชาครูกายแก้ว มานานเกือบ 20 ปี ก็รู้ดีไม่ได้หวั่นไหวอะไร และไม่แปลกที่จะเกิดดราม่าขึ้นมา เพราะคนคิดไม่ดีก็คงมี หวังเกาะกระแสความดังของครูกายแก้วอย่างแน่นอน และเครื่องสักการะ อย่างที่เคยบอกจะมีผลไม้ ขนมหวาน พวงมาลัย น้ำผึ้ง และเครื่องหอมเท่านั้น ไม่เคยออกมาพูดแม้แต่นิดเดียวให้นำลูกหมา ลูกแมวบูชายัญ คิดว่าเกิดจากคนไม่ประสงค์ดี

ส่วนการแอบอ้างอาจารย์สุชาติ ก็ทำกันได้ง่ายในการเปิดเพจ เช่นเดียวกับแก๊งคอลฯ ก็แอบอ้างเป็นตำรวจ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ น่าจะต้องการแค่ยอดไลค์ให้คนติดตาม เพราะกำลังเป็นกระแส คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกรรมของเขา ถ้าเอาเรื่องทุกคนคงไม่ไหว จะต้องมาเสียเวลาในการฟ้องร้อง

สร้างรูปปั้นครูกายแก้ว เพื่อแก้ฮวงจุ้ยเท่านั้น

แต่ก็ยอมรับว่ากระแสครูกายแก้ว มีคนในสังคมมองว่าไม่ดีอยู่แล้ว มีทั้งคนนับถือ และไม่นับถือ หรืออะไรที่ดังจะมีคนเกาะกระแส ซึ่งที่ผ่านมาไม่ถึงกับเชิญชวนให้คนไปสักการบูชา เพื่อให้ประสบความสำเร็จ หรือใครอยากจะมาลองก็แล้วแต่ เมื่อเปิดเป็นพื้นที่สาธารณะไปแล้ว เหมือนคนมาไหว้บูชาพระพรหม บางคนอาจไม่เชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ อย่างคน 100 คน ก็ไม่เชื่อทั้ง 100 คน แน่นอน เฉกเช่นกับครูกายแก้ว มีทั้งเชื่อและไม่เชื่อ หรือบางคนมาไหว้สักการะ ขอให้สำเร็จ แต่หากไม่ทำงาน นอนอยู่ที่บ้าน คงไม่ได้อย่างแน่นอน

“จริงๆแล้วการสร้างศาลครูกายแก้ว เป็นการคุยกันระหว่างเจ้าของโรงแรมกับอาจารย์หน่อย ให้มาแก้ฮวงจุ้ย ไม่ได้หวังผลอะไร แต่พอกระแสมันดัง ก็ประเดประดังเข้ามา เมื่อคนเข้ามาเยอะ มาสักการบูชา ก็เป็นเรื่องของเจ้าของโรงแรม ทางเซลส์โรงแรม ก็บอกว่าตอนนี้ลูกค้าติดต่อมาจองห้องยาว ไปจนถึงสิ้นปี กลายเป็นผลพลอยได้ของโรงแรม

สิ่งที่เราทำ ก็เจตนาดี ได้สร้างผลลัพธ์ที่ดี ใครจะอคติก็เรื่องของเขา ถามว่าสิ่งที่บูชาเชื่อว่าคนไทย 100% ไม่ได้กราบไหว้เฉพาะพระพุทธรูปอย่างเดียว ใครกำลังด่าทออาจกำลังไหว้วิญญาณ อย่างแม่ตะเคียน ก็คือผี และสิ่งกำลังโจมตีครูกายแก้ว เพื่ออะไร ทำไมสิ่งอื่นที่ไปไหว้ ทำไมไม่โจมตี แต่หากไปกราบไหว้ครูกายแก้ว แล้วสำเร็จจะว่าอย่างไร”

...

ครูกายแก้ว ภายในศาลพระพิฆเนศ อาเขตเชียงใหม่
ครูกายแก้ว ภายในศาลพระพิฆเนศ อาเขตเชียงใหม่

ขณะนี้มีผู้รู้เต็มไปหมด ไม่สามารถห้ามได้ หากเรื่องเงียบคงเงียบไปเอง อาจจะเกาะแสหรือไม่ แต่คิดว่าก็น่าจะเป็นเช่นนั้นเป็นเรื่องธรรมชาติของโลกและในกระแสโซเชียล อะไรที่มีชื่อเสียงก็เกาะกระแสกันหมด ถ้าเอาใจไปลงตรงนั้นคงเป็นทุกข์ไม่มีความสุข ของจริงก็คือของจริง ไม่พยายามทำให้ใครเชื่อ เพราะเดินมาสายนี้มานานพอสมควร จึงไม่รู้สึกหวั่นไหวกับสิ่งที่เกิด

การที่เพจอ้างเอาหมาเอาแมวมาบูชายัญ หากตำรวจไซเบอร์ติดตามก็น่าจะทำได้ เพราะผิดทั้งศีลธรรม ผิดจริยธรรม ผิด พ.ร.บ.คอมฯ และ พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ เพราะมีการนำเสนอในทางที่ผิดต้องเจอกับกฎหมาย ในการเอาข้อมูลมาโพสต์ทำให้คนเข้าใจผิดในเรื่องสักการบูชาครูกายแก้ว แม้มีคนเดียวที่เชื่อก็ผิดแล้วหากตำรวจจัดการจริงก็สามารถทำได้

...

จับลูกแมว บูชายัญ ทารุณกรรมสัตว์ ผิด ก.ม.

ดร.สาธิต  ปรัชญาอริยะกุล เลขาธิการและผู้อำนวยการสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) กล่าวถึงกระแสที่เกิดขึ้นในโซเชียลมีเดียขณะนี้ว่า ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง หรือหลักฐานใดๆ ที่แสดงว่ามีการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือไม่  ถ้าเกิดขึ้นจริง คิดว่าการกระทำ ด้วยการจับแมวแล้วกรอกด้วยนมจนมีอาการ แล้วฝังแมวทั้งเป็น ด้วยวิธีการทารุณโหดร้าย เป็นการกระทำที่เข้าข่ายผิดหลักกฎหมาย มีเจตนาเป็นการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร แม้จะมีการกล่าวอ้างว่า เป็นการฆ่าสัตว์ตามพิธีกรรมหรือความเชื่อทางศาสนาก็ตาม 

การฆ่าด้วยวิธีการทารุณโหดร้ายทรมานสัตว์ โดยการฝังลูกแมวทั้งเป็น อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557  มาตรา 20 ประกอบมาตรา 31 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความเชื่อตามพิธีกรรมทางศาสนา ควรต้องเป็นพิธีกรรมที่ยึดปฏิบัติมายาวนาน ด้วยจารีตประเพณีที่ดีงามของสังคมไทย ควบคู่ความสงบและศีลธรรมอันดีของประชาชน ตามหลักศาสนาที่เป็นที่ยอมรับสากลทั่วไป

...

“ความเชื่อแม้เป็นสิทธิของแต่ละบุคคล ว่าจะเลือกนับถือศาสนาใดหรือจะปฏิบัติตามพิธีกรรมใดตามความเชื่อ แต่พึงระมัดระวังด้วยว่า ควรใช้สิทธิของตนเท่าที่กฎหมายรับรองและคุ้มครองไว้เท่านั้น จะต้องไม่กระทบหรือละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่นหรือสัตว์อื่นด้วย เพราะปัจจุบันการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร เป็นการกระทำที่ผิดหลักกฎหมาย และขัดต่อศีลธรรมอันดีของสังคมไทย ควรคิดพินิจให้ดีก่อนตัดสินใจกระทำ”