พรรคเพื่อไทยและก้าวไกล ประกาศแยกทาง ฉีก mou ของ 8 พรรคร่วม โดยเพื่อไทย เดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลต่อ และเตรียมเสนอชื่อ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ของพรรค แต่ในมุมมองของนักวิชาการทางการเมือง ยังมองว่าเป็นแค่บันไดขั้นแรก ที่ปูทางไปสู่บันไดขั้นที่ 2 ที่จะเป็นสถานการณ์บังคับ ให้พรรคการเมืองของ 2 ลุงเข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่พรรคภูมิใจไทย จะเป็นตัวแปรสำคัญในการตั้งรัฐบาลต่อจากนี้

ดร.สติธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า กล่าวกับทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ว่า การฉีก mou ของ 8 พรรคร่วม ที่มีการเซ็นครั้งพรรคก้าวไกล เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เป็นการเปิดทางให้การโหวตนายกฯ ครั้งถัดไปของเพื่อไทย มีความหวังมากขึ้น คาดว่าแผนการถัดไปในการจัดตั้งรัฐบาล จะรวมกับพรรคการเมืองอื่น โดยไม่มีก้าวไกล และพรรค 2 ลุง ด้วยเสียงสนับสนุน 265 เสียง อาจขอให้ สส.พรรคก้าวไกล ช่วยโหวต โดยบวกกับคะแนนเสียง สว. บางส่วน เพื่อให้ผ่านการโหวตนายกฯ แต่จากการประเมินบันไดขั้นแรกของการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อไทย ไม่น่าผ่านการโหวตนายกฯ เนื่องจาก "บิ๊กป้อม" และ สว. บางส่วนคงไม่ยอม

...

สุดท้ายการจัดตั้งรัฐบาลมีตัวแปรอย่างพรรคภูมิใจไทย ที่อาจมีคนไปกล่อมแกนนำว่า ไม่อยากให้ไปร่วมกับพรรคเพื่อไทย แม้ผลักก้าวไกล เป็นฝ่ายค้าน แต่จะถูกหักหลังได้ในอนาคต ดังนั้นสูตรการจัดตั้งรัฐบาลจากนี้ จะไม่มีพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้ แต่ถ้าสามารถตั้งรัฐบาลตามสูตร 265 เสียงได้ ถือว่าเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ เพราะพรรคฝ่ายค้านอย่างก้าวไกล และพรรค 2 ลุง จะมีความขัดแย้งในการทำงาน

น่าจับตาว่า เพื่อไทย เร่งเกมการจัดตั้งรัฐบาล แม้การโหวตรอบหน้าไม่ประสบความสำเร็จ แต่ต้องการเดินไปยังบันไดการจัดตั้งรัฐบาลในขั้นที่ 2 ที่สร้างความชอบธรรมว่า การโหวตนายกฯ ครั้งแรกอาจไม่ผ่าน เนื่องจากคะแนนเสียงไม่เพียงพอ จนต้องเอาพรรค 2 ลุงมาร่วมจัดตั้งรัฐบาล แล้วดันคุณแพทองธาร ชินวัตร สู่ตำแหน่งนายกฯ

“การฉีก mou ของ 8 พรรคร่วม ถือเป็นการปลดล็อกในการจัดตั้งรัฐบาล ต่อจากนี้ต้องจับตาการผสมสูตรของพรรคร่วมรัฐบาล ว่าจะมีความแปลกประหลาดไปมากกว่าเดิมอย่างไร ไม่แน่ว่าถ้าพรรคเพื่อไทย อาจไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ พรรคภูมิใจไทย จะมีการเสนอจัดตั้งรัฐบาลแข่งก็ได้ หากมีการตกลงกันไม่ลงตัว”

การเร่งเกมโหวตนายกฯ ของเพื่อไทย ก็เพื่อจะสลัด mou ของ 8 พรรคร่วม ให้หมดไป เพราะเป็นเงื่อนไข ที่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สักที แต่หลังจากฉีก mou ของ 8 พรรคร่วมแล้ว การจับขั้วรัฐบาลจะง่ายมากขึ้น โดยไม่มีกรอบของพรรคร่วมมาคอยบังคับอีกต่อไป

“การประกาศผลักก้าวไกล ไปเป็นฝ่ายค้าน จะไม่ได้เสียง สว. สนับสนุนมากขึ้น ถ้าหากมีการโหวตนายกฯ วันที่ 4 ส.ค.นี้ แม้หลายคนประเมินว่าน่าจะดันคุณแพทองธาร เป็นนายกฯ ในสูตรจัดตั้งรัฐบาลแบบบันไดขั้นที่ 2 แต่คนที่เห็นด้วยก็มองว่า คุณทักษิณ มีความไว้ใจมากกว่าการให้คนอื่นเป็นนายกฯ ขณะเดียวกันก็มองว่าจะเป็นตัวประกัน ที่สามารถควบคุมคุณทักษิณได้”

อีกตัวแปรสำคัญคือ การประกาศกลับมาของคุณทักษิณ ชินวัตร ในวันที่ 10 ส.ค.นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งหมากในการเดินเกมทางการเมือง เพราะต้องรอดูการโหวตนายกฯ วันที่ 4 ส.ค.นี้ ถ้ามีความชัดเจนว่าได้นายกฯ จะมีความชัดเจนว่าคุณทักษิณ กลับประเทศไทยหรือไม่.