ที่สวนสัตว์ประเทศศรีลังกา มีประชาชนเข้ามาชมพลายศักดิ์สุรินทร์ จำนวนมาก ก่อนจะมีแผนดำเนินการกลับไทยวันที่ 2 ก.ค.นี้ โดยความเห็นของชาวศรีลังกาที่มา เห็นด้วยที่จะส่งช้างกลับไปรักษาที่ไทย แม้เสียดาย และมีความเห็นว่าอยากให้ประเพณีการนำช้างไปเดินในขบวนแห่ตามวัดต่างๆ ใช้ช้างที่เป็นหุ่นยนต์แทน

“เอสนัม มูนี อาราจี” วัย 70 ปี และลูกสาว
“เอสนัม มูนี อาราจี” วัย 70 ปี และลูกสาว

“เอสนัม มูนี อาราจี” วัย 70 ปี อาชีพครู โรงเรียนประถมศึกษา เดินทางมากับลูกสาวเพื่อมาดูพลายศักดิ์สุรินทร์ โดยเฉพาะ เล่าว่า ดีใจที่ส่งช้างกลับไทย และเสียใจที่ช้างมีอาการบาดเจ็บ จึงไม่อยากให้ส่งช้างกลับมาอีก

...

“รู้สึกดีที่เห็นหมอ และทีมงานจากไทยมาดูแลช้างอย่างใกล้ชิด เพราะช้างเจ็บมาเยอะแล้ว สัตว์ก็มีหัวใจเหมือนกับมนุษย์ ไม่ว่าประเทศของเราจะมีวัฒนธรรมอย่างไร แต่ไม่ควรให้ช้างมาทรมาน ที่ผ่านมาถ้ารัฐบาลศรีลังกาจะเอาไว้ ต้องมีการดูแลดีกว่านี้ แต่นี่กลับมีอาการป่วยมากขึ้น”

ตนเองได้ติดตามอาการของพลายศักดิ์สุรินทร์ ผ่านข่าวของศรีลังกามาตลอด และเห็นถึงความทุกข์ทรมานของเขา เลยอยากมาเห็นช้างสักครั้งก่อนกลับไทย แม้จะต้องเดินทางมาจากบ้านหลายสิบกิโลเมตร

ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนนำหุ่นยนต์ช้างมาแทนช้างจริงในขบวนแห่ของศรีลังกา ตนเองยอมรับได้ เพราะทำอย่างไรก็ได้ไม่ให้ช้างทรมาน และอยากให้ช้างอยู่อย่างอิสระ

จึงอยากฝากถึงคนไทยให้ช่วยดูแลรักษาพลายศักดิ์สุรินทร์ ให้ดี เพราะเขาเป็นช้างสำคัญ และเป็นที่รู้จักของคนศรีลังกา ซึ่งไม่อยากให้ช้างถูกล่ามโซ่อีก และขอโทษที่ทางการศรีลังกา ดูแลช้างที่มอบให้ไม่ดี

ด้าน Panchali Panapitiya ผู้จัดการ Rally for Animal Rights & Environment (RARE) องค์กรอิสระของศรีลังกา กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นตัวแทนกลุ่มชาวศรีลังกา ที่ติดตามอาการบาดเจ็บของพลายศักดิ์สุรินทร์ มาตลอด และไม่เห็นด้วยที่มีการเลี้ยงดูช้างไม่ดี เพราะช้างควรอยู่อย่างอิสระ ไม่ควรเดินในขบวนแห่ จนมีอาการบาดเจ็บหนักอย่างที่เจอ

Panchali Panapitiya ผู้จัดการ Rally for Animal Rights & Environment (RARE) องค์กรอิสระของศรีลังกา
Panchali Panapitiya ผู้จัดการ Rally for Animal Rights & Environment (RARE) องค์กรอิสระของศรีลังกา

แม้จะมีชาวศรีลังกาบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยในการพาช้างกลับไปรักษาที่ไทย แต่ช้างก็มีชีวิตและความรู้สึก และไม่อยากให้เกิดขึ้นกับสัตว์ชนิดใดอีก

โดยวันนี้ทางกลุ่มได้นิมนต์พระสองรูป เพื่อสวดให้พรกับช้าง ก่อนจะเดินทางกลับไทย และอยากฝากถึงประชาชนคนไทย ให้ดูแลรักษาช้างเชือกนี้ให้อยู่อย่างเหมาะสม ซึ่งชาวศรีลังกา ซาบซึ้งในมิตรภาพของทั้งสองประเทศ.

...

ทั้งนี้ จากการเดินทางมาศรีลังกา ของทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ได้เห็นถึงการตื่นตัวของประชาชนในศรีลังกา ที่เป็นห่วงสวัสดิภาพของช้าง ขณะเดียวกันก็มีประชาชนอีกส่วนไม่เห็นด้วย และได้แสดงสัญลักษณ์ในการมาชุมนุมหน้าสวนสัตว์ โดยในวันเคลื่อนย้ายช้างไปสนามบิน เตรียมที่จะขอกำลังตำรวจศรีลังกา ในการอำนวยความสะดวก หากเกิดการต่อต้าน

โดยวันนี้ 1 ก.ค. 2566 ทีมข่าวได้ติดตามทีมประสานงานนำช้างกลับไทย โดยการนำของ “กัญจนา ศิลปอาชา” ซึ่งแผนเดิมจะไปเยี่ยมพลายประตูผา ที่อายุมาก ที่ทางการไทยส่งมาให้ศรีลังกากว่า 30 ปีก่อน แต่ปรากฏว่าเพิ่งทราบเมื่อวานเย็นว่า พายประตูผา ถูกย้ายไปที่อื่นชั่วคราว จากวัดพระเขี้ยวแก้วที่อยู่ เพราะมีข่าวลือในศรีลังกา ว่า ทีมงานไทยอาจมาเอาช้างกลับไทยอีกเชือก ทำให้ทางวัดที่พายประตูผาสังกัดอยู่หวาดระแวง เลยมีการปรับแผนให้ไปเยี่ยมพลายศรีณรงค์แทน ซึ่งไปรับงานที่เมืองอื่นที่ไม่ใช่วัดที่เขาอยู่.