แทบจะทันที หลังมีคำสั่งเพิกถอน สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ของ ศรีสุวรรณ จรรยา นักร้องเรียนชื่อดัง ได้ประกาศจัดตั้งองค์กรใหม่ พร้อมประกาศหาเพื่อนสมาชิกที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ทั้งที่เจ้าตัวต้องยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งดังกล่าว ในเชิงกฎหมายมีการตั้งข้อสังเกตถึงอำนาจในการจัดตั้งองค์กรใหม่ ว่าอาจเป็นองค์กรเถื่อนในทางกฎหมายหรือไม่
กรณีการเพิกถอนสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ของ ศรีสุวรรณ จรรยา นักร้องเรียนชื่อดัง กรมการปกครองได้มีการตรวจสอบ พบว่าบุคคลที่มีรายชื่อปรากฏอยู่ในบัญชีรายชื่อ ที่อยู่ และอาชีพของผู้ที่จะสมัครสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จำนวน 3 คน ให้ถ้อยคำยืนยันสอดคล้อง ว่า ไม่เคยเป็นสมาชิกสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และผู้มีรายชื่อในบัญชีจำนวน 2 ราย ให้ถ้อยคำยืนยันสอดคล้องกันว่า ไม่เคยเข้าร่วมประชุมคณะผู้เริ่มก่อตั้งสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงได้อาศัยอำนาจตาม พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง 2539 เพิกถอนคำสั่งรับจดทะเบียนและใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และนักร้องเรียนชื่อดังได้ยื่นอุทธรณ์คัดค้านแล้ว
...
ช่วงเช้าวันที่ 11 มิ.ย. ที่ผ่านมา ศรีสุวรรณ จรรยา ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงการจัดตั้งองค์กรร้องเรียนแห่งใหม่ว่า ขอเชิญชวนทุกท่านที่มีอุดมการณ์ “รักชาติ รักแผ่นดิน” เดียวกัน มาร่วมเป็นสมาชิกขององค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ประชาชนหรือ Fc ท่านใดประสงค์จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน โดยไม่เสียค่าสมัครใดๆ ทั้งสิ้น สามารถสมัครเป็นสมาชิกได้โดยการเขียนจดหมายแจ้งความประสงค์ พร้อมระบุ ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ที่ชัดเจน พร้อมถ่ายสำเนาบัตรประชาชนจำนวน 1 แผ่น เซ็นชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง พร้อมทั้งขีดทับและเขียนข้อความว่า “สมัครสมาชิกองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน” ลงวันที่สมัครให้ครบ แล้วจัดส่งเป็นจดหมายมาทางไปรษณีย์
แม้มีคำถามจากสังคม ถึงประเด็นการจัดตั้งองค์กร ทั้งที่เพิ่งถูกยุบองค์กรเดิม และแนวทางกฎหมายในการจัดตั้งองค์กรใหม่ ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ สอบถามไปยัง ทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้วิเคราะห์ว่า การจัดตั้งองค์กรใหม่ของ ศรีสุวรรณ จรรยา เป็นสิทธิชอบธรรมตามกฎหมาย แต่วัตถุประสงค์การจัดตั้งเป็นไปตามที่ได้ระบุไว้หรือไม่ สังคมต้องทำหน้าที่ตรวจสอบกลับเช่นกัน เพราะตัวอย่างขององค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ที่ผ่านมามีแนวทางในการร้องเรียนองค์กรการเมืองฝั่งตรงข้ามเป็นหลักใหญ่
“ตามสิทธิส่วนบุคคล ทุกคนสามารถอ้างวัตถุประสงค์การจัดตั้งได้ แต่ถ้ามองในเชิงการกระทำกลับสนองความต้องการส่วนตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ที่ผ่านมาเวลาไปร้องเรียน แค่นำชื่อขององค์กรที่จัดตั้งมาอ้าง ในทางกฎหมายถ้ามีการจัดตั้งเป็นสมาคม หรือมูลนิธิ ที่มีกฎหมายรองรับ แต่องค์กรอิสระที่ตั้งมาลอยๆ โดยไม่มีกฎหมายรองรับ เช่น ชมรม องค์กร ที่อุปโลกน์ขึ้นมาเอง จึงว่าเป็นองค์กรเถื่อนในสายตาผม”
สิ่งที่สังคมต้องตรวจสอบต่อ กรณีเพิกถอนสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ว่ามีการปลอมแปลงเอกสารหรือไม่ โดยเฉพาะถ้าแจ้งว่ามีการประชุมสมาชิก แต่จริงๆ แล้วไม่ได้มีการประชุมดังกล่าว อาจมีการปลอมแปลงลายเซ็นสมาชิกหรือไม่
น่าสนใจว่าเมื่อองค์กรเดิมถูกสั่งยุบก็ตั้งองค์กรใหม่ขึ้นมาทันที โดยไม่มีกฎหมายรองรับ แต่ไม่มีกฎหมายในการเอาผิดได้ ในทางกฎหมายถือว่าเป็นองค์กรเถื่อนที่ไม่มีผลทางกฎหมาย ทั้งที่จริงองค์กรเป็นในนามส่วนตัว ซึ่งในความเป็นจริงต้องมีการจดแจ้งในนามคณะบุคคล จึงทำให้สถานะขององค์กรใหม่มีความกำกวม โดยมีการจัดตั้งเพื่อให้มีชื่อขององค์กร แต่องค์กรที่ตั้งไม่มีกฎหมายรองรับ เมื่อไม่มีกฎหมายรองรับ เลยไม่มีสถานะเป็นนิติบุคคล จึงทำให้เวลาไปร้องเรียน ต้องใช้สถานะเป็นตัวบุคคลเพียงคนเดียว
ศรีสุวรรณ เคยบอกว่า เขาเป็นนักร้องเรียนอิสระได้ จึงไม่ควรนำชื่อองค์กร หรือกลุ่มบุคคลเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย การประกาศรับสมัครสมาชิกทางไปรษณีย์ ถือว่าไม่ผิด แต่ไม่ได้ชอบธรรมตามกฎหมาย เป็นเพียงการหาแนวร่วมปกติ ซึ่งการจัดตั้งองค์กร ผู้ที่เกี่ยวข้องควรหาคนที่มีความน่าเชื่อถือ มีการทำงานที่เที่ยงตรง ตรวจสอบได้ โดยต้องเป็นองค์กรที่ได้รับการยอมรับทางกฎหมาย ไม่ใช่องค์กรเถื่อนที่จัดตั้งขึ้นมาโดยไม่มีกฎหมายรองรับ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นมา สมาชิกก็ไม่มีช่องทางในการตรวจสอบ เพราะกฎหมายไม่ได้รองรับ มิเช่นนั้นสมาชิกอาจถูกหางเลขไปด้วย กรณีที่มีการทำผิดกฎหมาย.
...