กลายเป็นดราม่าช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง เมื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยิงไฟขึ้นไปบนสะพานพระราม 8 จนมีคำถามถึง กกต. ว่ามีความผิดตามกฎการหาเสียงหรือไม่ แม้ที่ผ่านมายังไม่มีใครหาเสียงลักษณะดังกล่าว เพราะกลัวผิดกฎเลือกตั้ง งานนี้จึงเป็นประเด็นร้อน นำสู่การถอดถอน กกต. หลังการเลือกตั้งครั้งนี้ได้
กรณีเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา ช่วงค่ำ โดยแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้โพสต์ภาพชุด เป็นการใช้แสงสีบนสะพานพระราม 8 ลักษณะเป็นข้อความหาเสียง บนสะพานพระราม 8 จนเป็นประเด็นคำถามถึงความเหมาะสม และเรียกร้องให้คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณา
สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ตั้งข้อสังเกตกับทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ว่า จากข้อมูลกรณีการยิงเลเซอร์ของพรรครวมไทยสร้างชาติ มาจากบริเวณสวนหลวงพระราม 8 ด้านล่างสะพาน โดยตัวแทนพรรคมีการขออนุญาตใช้พื้นที่บริเวณสวน แต่ไม่มีการขออนุญาตยิงเลเซอร์ไปบนสะพาน ดังนั้น ประเด็นนี้ขึ้นอยู่กับหน่วยงานเจ้าของสถานที่ ว่ามีความเห็นอย่างไร หรือมีความเห็นว่าเป็นการละเมิดทรัพย์สินของหน่วยงานราชการหรือไม่
...
จากการประเมิน ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ เพราะเป็นการยิงเลเซอร์ แต่สิ่งสำคัญคือ กกต. ต้องมีความชัดเจนว่า การหาเสียงลักษณะนี้มีความผิดหรือไม่ เนื่องจาก กกต. เคยมีประกาศเรื่องป้ายหาเสียงขนาดใหญ่สุด คือ 1.30 x 2.45 เมตร ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้น ถือเป็นป้ายหาเสียงที่มีขนาดใหญ่ เกินจากที่กำหนดไว้
“สิ่งนี้เป็นประเด็นที่ กกต. ต้องตอบสังคมให้ได้ เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นของหน่วยงานราชการ หากให้ทำได้ อาจเป็นประเด็นปัญหาในการวางตัวไม่เป็นกลางของหน่วยงานราชการ หากหน่วยงานอนุญาต ต้องให้ทุกพรรคสามารถหาเสียงในลักษณะดังกล่าวได้ หรือในโอกาสหน้า พรรคการเมืองอื่นอาจไปจ้างในพื้นที่ของเอกชนได้ เช่น ตึกใบหยก ยิงป้ายหาเสียงทั้งสี่ด้านของตึก”
หน่วยราชการต้องมีการว่ากล่าวตักเตือนแก่ผู้กระทำผิด หรือดำเนินคดีทางอาญาส่วนบุคคล เพราะมีความผิดเหมือนการบุกรุกเข้าไปในสถานที่ราชการ แต่อาจไม่เกี่ยวกับพรรคการเมือง ยกเว้นกรรมการบริหารพรรครู้เห็นเป็นใจ แต่ยังไม่ถึงกับเป็นกรณีทำให้ต้องยุบพรรคการเมือง อย่างที่หลายคนวิตกกังวล
ส่วนความผิดในการทำป้าย มีการลงโทษเพียงตักเตือนและให้หยุดการกระทำ แต่ถ้าตักเตือนแล้วยังกระทำผิดอีก อาจมีการลงโทษกรรมการบริหารพรรค
สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ กกต. น่าสนใจว่า มีข้อผิดพลาดตั้งแต่การแบ่งจำนวน ส.ส.ของแต่ละจังหวัด มีการคำนวณโดยนำจำนวนของคนต่างชาติมาด้วย ยังดีที่มีการแก้ไข ไม่เช่นนั้นหากปล่อยไป อาจมีการฟ้องร้อง จนการเลือกตั้งเป็นโมฆะ
การเลือกตั้งล่วงหน้าที่ผ่านมา เกิดความโกลาหลหลายสถานที่เลือกตั้ง โดย กกต. ยังขาดประสิทธิภาพในการอบรมกรรมการประจำหน่วย ให้มีความรู้อย่างถูกต้องและเท่าเทียมกัน สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า กกต. อ่อนประสบการณ์ เพราะทำให้กรรมการเลือกตั้งแต่ละหน่วย มีความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน และมีการปฏิบัติแตกต่างไปจากระเบียบที่กำหนด เช่น หลายที่คณะกรรมการไม่มีการเซ็นชื่อหลังซอง หรือการจัดเก็บบัตรเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความหละหลวม
สำหรับการทุจริตการเลือกตั้งถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะจากการเลือกตั้งล่วงหน้า เป็นพฤติกรรมสุ่มเสี่ยง เช่น มีการขนคนเพื่อมาเลือกตั้ง ดังนั้น กกต. ต้องมีมาตราการเข้มงวดกว่านี้ ไม่ใช่เพียงแถลงข่าวว่าเป็นการเลือกตั้งล่วงหน้าที่เรียบร้อย
สิ่งที่น่าห่วงหลังจากการเลือกตั้งเสร็จสิ้น จะมีการยื่นเรื่องถอดถอน กกต. หากวันเลือกตั้งที่มาถึงนี้ มีการกระทำความผิดโดยประมาท ตัวอย่างเช่น การเลือกตั้งล่วงหน้าที่ผ่านมา มีการให้คนชรา ทุพพลภาพ คนพิการ มาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตที่ทำไม่ได้ แต่มีการให้คน 1,372 คน เลือกตั้งล่วงหน้าได้ ทั้งที่การเลือกตั้งในเขตตามกฎหมาย ระบุให้ข้าราชการได้รับมอบหมายให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่อื่นนอกเขตเลือกตั้งที่ตนมีสิทธิเลือกตั้ง กฎหมายจึงให้ข้าราชการแสดงหนังสือคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ เพื่อลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตได้ แต่กฎหมายไม่อนุญาตให้ประชาชนทั่วไป หรือกระทั่ง คนพิการ คนทุพพลภาพ คนสูงอายุ เลือกตั้งล่วงหน้าในเขต ดังนั้น กกต. ใช้หลักกฎหมายใดในการพิจารณา.
...