เหตุสะเทือนใจ "จีจี้ สุพิชชา" เน็ตไอดอลสาวชื่อดัง เจ้าของเพจ "เรื่องของจี้" ถูกยิงเสียชีวิตภายในคอนโดมิเนียม พร้อมกับ "อิคคิว" แฟนหนุ่ม นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 2 และเป็นลูกชายของอดีตผู้ช่วย ผบ.ทบ. จากปมความสัมพันธ์ส่วนตัว สร้างความเศร้าเสียใจให้กับคนในครอบครัวทั้ง 2 ฝ่าย
ศพของทั้งคู่ถูกพบ เมื่อวันที่ 19 เม.ย. โดย อิคคิว เป็นผู้ใช้ปืนยิงจีจี้ ก่อนยิงตัวเองเสียชีวิตตามไปอีกศพ ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักของคนในสังคมเกี่ยวกับพฤติกรรมความรุนแรงของอิคคิว เพราะก่อนจะเกิดเหตุโศกนาฏกรรม ทางเพื่อนสนิทของจีจี้ล่วงรู้มาตลอดว่าฝ่ายชายทำร้ายจีจี้มาหลายครั้ง เคยมีการยิงปืนใส่ แต่พลาดไปโดนกำแพง จนต้องออกมาเตือนหากยังคบกันอาจเสียชีวิตได้ กระทั่งเกิดเหตุขึ้นจริงๆ และยังอ้างว่าพ่อแม่ฝ่ายชายก็ทราบถึงพฤติกรรมของลูกชายมาโดยตลอด
รวมถึงมีหลายๆ ข้อมูลที่เผยแพร่ออกมา ยิ่งทำให้คนในสังคมอดคิดไม่ได้ น่าจะเกี่ยวข้องกับการปลูกฝังเลี้ยงดูตั้งแต่วัยเด็ก จนกลายเป็นว่าพ่อแม่รังแกฉันหรือไม่ เหมือนกับหลายคดีสะเทือนขวัญในอดีต จากการใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกายและฆ่าผู้อื่น

...
ในเรื่องนี้ "รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์" ผอ.สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ออกมายอมรับเลยว่า โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่เกิดจากพ่อแม่รังแกฉันอย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่วัยเด็กได้ถูกหล่อหลอมโดยผู้เลี้ยงดูว่ามีความใกล้ชิดมากน้อยเพียงใด ซึ่งผู้เลี้ยงดูมีหลายประเภทตั้งแต่พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย หรือคนในครอบครัว แม้กระทั่งครูในโรงเรียน และรวมถึงสื่ออีกด้วย
“วัยเด็ก เป็นวัยที่สำคัญมากในช่วงปฐมวัย 8 ปีแรก จากสิ่งที่พบเห็นในการแสดงออก การเลี้ยงดู มีการหล่อหลอมสภาวะของเด็กทั้งด้านสุขภาพกายและใจ ทำให้เกิดการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทั้งด้านวิทยาศาสตร์และคุณธรรม ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับการหล่อหลอม หากสมองของเด็กได้รับความเครียดจากครอบครัวตั้งแต่เด็ก จะชอบใช้ความรุนแรง ไม่ใช้สมองส่วนหน้าในการควบคุมพฤติกรรมตัวเอง เมื่อเกิดเหตุขึ้นมา”
เป็นสิ่งที่คนในสังคมต้องช่วยกันแก้ไขและควรมีระบบค้นหาปัญหา หากเด็กอยู่ในครอบครัวที่พ่อแม่แตกแยกกัน มีการติดยาเสพติด ทะเลาะเบาะแว้ง ทำให้การเลี้ยงดูลูกไม่เหมาะสม ส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กทั้งสิ้น และอาจไม่ใช่เฉพาะคำพูดอย่างเดียว แต่มีอย่างอื่นด้วยในการสร้างความเครียดให้กับเด็ก อาจสอนลูกไม่จริง มีการทำร้ายทางกาย และทำร้ายทางอารมณ์ จนเมื่อเด็กเติบโตจะลงมือก่อเหตุกับผู้อื่น ซึ่งการแก้ปัญหาจะต้องทำให้เด็กรู้ตัวก่อน มีการฝึกและเรียนรู้ใหม่ในการควบคุมตัวเอง
กรณีพ่อแม่รู้พฤติกรรมความรุนแรงของลูก จะต้องสามารถพูดคุยกับลูกได้ ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์และวิธีเลี้ยงดู แม้ทางกายดูไม่ห่างเหิน แต่อาจห่างเหินทางใจ จนไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ หรือการสอนให้ลูกเหยียดคนอื่น ก็มีส่วนทำให้ลูกมีพฤติกรรมดูถูก กดขี่คนอื่นได้เช่นกัน เป็นอีกบทเรียนพ่อแม่รังแกฉันที่หล่อหลอมออกมาแบบใด ก็ออกมาเป็นแบบนั้น จากผลลัพธ์ที่ออกมาให้เห็น
วิธีการสอนทำอย่างไรไม่ให้ลูกทำร้ายคนอื่น ต้องอย่าลืมว่าเด็กๆ ทุกคนต้องการให้ดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจ แต่ยังมีเด็กได้รับการดูแลเฉพาะด้านที่อยู่อาศัยและโภชนาการที่ดีในด้านอาหารการกิน โดยไม่รับรู้ถึงความเดือดร้อน แต่ไม่ได้รับการตอบสนองที่เหมาะสมในเรื่องความรัก ความอบอุ่น อีกทั้งเด็กต้องการกระตุ้นการเรียนรู้ อย่าให้เรียนรู้ในสิ่งผิดๆ จะต้องสอนให้เรียนรู้เรื่องสร้างสรรค์ กระตุ้นสมองส่วนหน้า ทั้งเรื่องเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และคุณธรรม ควบคู่กันไป เพื่อนำไปประมวลใช้กับพฤติกรรมตัวเองเมื่อเติบโตขึ้นมา

ขณะเดียวกัน เด็กต้องเรียนรู้การเชื่อมต่อกับคนในสังคมและกับธรรมชาติให้เป็นพื้นฐานตั้งแต่วัยเด็ก ทั้งกับผู้ชาย ผู้หญิง และเพื่อนๆ ไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างกัน จนทำร้ายตัวเอง และผู้อื่น ซึ่งการเติบโตของเด็กไม่ควรอยู่กับโซเชียลมีเดีย หรือกับโทรศัพท์มือถือ หากเด็กได้รับความรัก ความอบอุ่น จะสามารถเชื่อมต่อได้กับคน และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ จนเกิดความรักในธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
“การสอนให้เด็กมีความคิดแตกแยก ดูหมิ่นผู้หญิง หรือรังเกียจดูถูกคนนั้นคนนี้ หรือพ่อด่าแม่ให้ลูกฟัง สอนให้ลูกทำร้ายสัตว์ ทำลายธรรมชาติ ก็จะเกิดปัญหาการเชื่อมต่อ จนเกิดความขัดแย้งกับมนุษย์ คนในสังคม และสิ่งแวดล้อม ทำให้ไม่สามารถดูแลตัวเองได้หากเติบโตขึ้นมา”
...
สังคมไทยในอนาคต ยิ่งน่าเป็นห่วงมากๆ โดยเฉพาะเด็กที่กำลังจะเติบโตในยุคหน้า จากการหล่อหลอมเลี้ยงดูโดยพ่อแม่ที่ผ่านยุคการแข่งขัน มีการโยกย้ายถิ่นฐานการทำงานมาก่อน จะเกิดปัญหากับลูกที่มีพฤติกรรมรุนแรง จากภาพที่เห็นในสื่อมากขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลลัพธ์มาจากการเลี้ยงดูที่ห่างเหิน เพราะพ่อแม่ต้องออกไปทำงานหาเงิน ซึ่งจะโทษพ่อแม่เพียงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องโทษสังคม จนทำให้สังคมไทยในวันนี้มีความรุนแรงมากขึ้น
หากเด็กตกอยู่ในความเครียดจากคนในครอบครัว ทั้งปัญหาพ่อแม่แตกแยก ติดคุก ติดยาเสพติด ละเลยในการดูแลทางกาย มีการทำร้ายทางกาย ทางอารมณ์ และทางเพศ จะทำให้อนาคตเมื่อเติบโตเป็นวัยรุ่น ก็จะมีพฤติกรรมเช่นนี้ เริ่มตั้งแต่มีพัฒนาการล่าช้า มีปัญหาในการเรียน เพราะเรียนไม่ทันเพื่อน มีปัญหาในการทำงาน จนก่อความรุนแรงในสังคมในที่สุด