ปริศนา 11 วัน ในการค้นหาน้องอาชิ วัย 15 ปี จมหายในแม่น้ำโขง ในพื้นที่ใกล้ท่าเรือการเกษตรบ้านท่ามะเฟือง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เมื่อ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยร่างจมหายต่อหน้าเพื่อน แม้ทีมกู้ภัยพยายามค้นหา แต่ยังไม่พบร่าง โดยอุปสรรคสำคัญอยู่ที่กระแสน้ำที่ไหลแรง ขณะเดียวกันมีการเตือนผู้ประกอบการท่องเที่ยวริมแม่น้ำโขง ให้เตือนนักท่องเที่ยวในจุดที่น้ำลึก เพราะมีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำทุกปี

พิสิษฐ์ พงษ์ศิริศุภกุล รองประธานมูลนิธิฮุก 31 หนึ่งในทีมค้นหา กล่าวกับทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ว่า การค้นหาน้องอาชิ จมแม่น้ำโขง วันนี้เป็นการค้นหาวันที่ 11 โดยน้องมาเที่ยวกับเพื่อน ผู้พบเห็นว่าวันเกิดเหตุน้องเดินลงไปที่สันดอนแม่น้ำโขง แล้วลงไปในน้ำจมหายไป แม้น้องว่ายน้ำเป็น เบื้องต้นหน่วยกู้ภัยในพื้นที่ระดมทีมค้นหากว่า 1 อาทิตย์ แต่ไม่พบร่าง

“การค้นหามีเบาะแสว่า ช่วงวันแรกเห็นร่างน้องลอยขึ้นมาเหนือน้ำ ห่างจากจุดจมน้ำ 50 เมตร แต่ไม่สามารถคว้าร่างไว้ได้ ทำให้ร่างน้องอาชิจมหายไป ไม่สามารถค้นหาได้เจอจนถึงวันนี้ โดยแม่น้ำโขง ช่วงที่จมน้ำเป็นทางโค้ง ทำให้มีกระแสน้ำไหลแรง ประกอบกับจุดจมน้ำ มี 2 ร่องน้ำ โดยร่องน้ำที่ไหลไปทางฝั่งลาว มีความลึกกว่าร่องน้ำที่ไหลมายังฝั่งไทย”

...

ความลึกของน้ำจุดเกิดเหตุอยู่ที่ 3-10 เมตร จากการประเมินคาดว่า ร่างของน้องอาชิ น่าจะไหลตามน้ำไปไกลกว่าจุดเกิดเหตุ เพราะการค้นหาล่าสุด ที่นักดำน้ำค้นหาจนทั่วในจุดเกิดเหตุ และไล่ไปตามลำน้ำโขงกว่า 10 กิโลเมตร แต่ไม่พบร่าง โดยใช้ทีมค้นหากว่า 100 นาย

สำหรับการค้นหา ทีมนักดำน้ำได้ตระเวนเรือค้นหาจากจุดเดิมกว่า 50 กิโลเมตร แต่ยังไม่พบ หลังจากนี้มีการวางแผนว่าจะหยุดการค้นหา และแจ้งให้กับชาวบ้านในพื้นที่ทราบ หากมีการพบร่างมนุษย์ ให้รีบแจ้งเบาะแสทันที

ปัญหาสำคัญในการค้นหาร่างคือ ความแรงของกระแสน้ำ จากการประเมินในพื้นที่ แม่น้ำโขง มีการไหลแรงของกระแสน้ำ 20-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถ้าร่างน้องยังลอย มีโอกาสไหลตามน้ำไปได้ไกล

ลักษณะการเสียชีวิตในพื้นที่แม่น้ำโขง ด้วยความที่ตอนนี้น้ำแห้ง ทำให้น้ำไม่ลึกมาก แต่มีความร้อน ทำให้ศพขึ้นอืดลอยน้ำ ซึ่งจากประสบการณ์ ไม่ถึง 24 ชั่วโมง ร่างจะลอยขึ้นอืดทันที

กรณีน้องอาชิ หากมีการจมน้ำเสียชีวิต ประมาณ 10 วัน น่าจะเริ่มขึ้นอืดบวมน้ำ ลอยตามน้ำ ร่างอาจไปติดตามเกาะแก่งต่างๆ แต่ถ้าหลัง 15 วันไปแล้ว ศพพองอืดจะแตก และร่างจมน้ำ ทำให้หาร่างได้ยากกว่าศพลอยอืด

“อุณหภูมิแม่น้ำโขง ขณะนี้อยู่ที่ 20-30 องศาฯ กรณีการจมน้ำของน้องอาชิ ต่างจากกรณีของน้องมาวิน ที่อุณหภูมิน้ำมีความเย็น ทำให้ร่างไม่ลอยมาเหนือผิวน้ำ ขณะเดียวกันความเย็นของน้ำ จะทำให้ร่างกายของศพไม่เน่าเปื่อย”

จุดที่น่าสงสัยว่าร่างจะลอยไปคือ บริเวณแม่น้ำโขงฝั่งลาว เพราะตอนนี้ทีมค้นหาระดมกำลังหาทางฝั่งไทยอย่างละเอียดจนทั่วแล้ว เหลือเพียงฝั่งลาวที่ทีมค้นหาไม่สามารถเข้าไปได้ เนื่องจากเป็นพรมแดนประเทศเพื่อนบ้าน เบื้องต้นจึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ฝั่งลาว เพื่อช่วยค้นหา

บริเวณที่น้องอาชิจมแม่น้ำโขง มีคนจมน้ำทุกปี ทำให้ชาวบ้านบางคนมีความเชื่อว่า จุดนี้เป็นรอยต่อของวังบาดาล ทุกปีมีการเอาชีวิตผู้คนไป หลายคนเชื่อว่า สิ่งลี้ลับนำไปเป็นตัวตายตัวแทน แต่ทางวิทยาศาสตร์ น้องอาชิอาจมีอาการฮีตสโตรก เพราะอากาศร้อนจัด ทำให้เกิดอาการมึนงงสับสน จนน้องเดินลงไปในน้ำเอง โดยไม่มีสติได้

กรณีน้องอาชิเป็นบทเรียนสำคัญ เพราะขณะนี้ด้วยความที่เป็นช่วงหน้าแล้ง มีสันดอนทรายขึ้นมา ทำให้หลายพื้นที่ตกแต่งเป็นร้านอาหาร และที่เที่ยวพักผ่อน แต่หลายพื้นที่ไม่มีการเตือนภัยนักท่องเที่ยว เพราะน้ำบางจุดมีความลึกถึง 10 เมตร ทำให้คนที่ลงไปเล่น จมน้ำเสียชีวิต ขณะที่ผู้ประกอบการหลายราย ไม่มีหน่วยช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ทำให้จุดนี้มีผู้เสียชีวิตเกือบทุกปี

...

อยากเตือนผู้ประกอบการท่องเที่ยวริมแม่น้ำโขง ให้มีการสำรวจความลึกของลำน้ำในพื้นที่ มีป้ายเตือนนักท่องเที่ยวในจุดที่น้ำลึก ห้ามให้นักท่องเที่ยวไปเล่นน้ำบริเวณนั้น และควรมีการจัดพื้นที่เล่นน้ำในจุดที่น้ำตื้น เพื่อให้เกิดความปลอดภัย.