ไฟไหม้ป่าเขาแหลม จ.นครนายก กลายเป็นทะเลเพลิง หลังปะทุมาตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา แต่ด้วยกระแสลมแรงทำให้เชื้อเพลิงปะทุขยายวงกว้าง จนชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน และวิงวอนขอความช่วยเหลือบริจาคหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น น้ำดื่ม และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

จำนงค์ หอมเลิศ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 ต.เขาพระ จ.นครนายก เปิดเผยกับทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ว่า ขณะนี้ชาวบ้านในหมู่บ้าน กำลังเฝ้าระวังไฟที่อาจปะทุขึ้นได้ตลอดเวลา แนวป่าที่เกิดไฟไหม้อยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 กิโลเมตร เบื้องต้นหน่วยงานภาครัฐได้ทำแนวกันไฟเพื่อป้องกันเบื้องต้น

สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นคือ ฝุ่นควันทำให้ชาวบ้านกว่า 500 คน ในหมู่บ้านเริ่มได้รับผลกระทบ สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ หน้ากากอนามัย ป้องกันฝุ่นควันพิษ มีไม่เพียงพอกับความต้องการของชาวบ้าน เพราะบางบ้านมีฐานะยากจน ไม่มีเงินเพียงพอที่จะไปซื้อหน้ากากอนามัย ขณะเดียวกันน้ำดื่ม และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยังเป็นที่ต้องการ และวิงวอนให้ประชาชนทั่วไปที่สนใจบริจาค สามารถนำมาช่วยเหลือได้ในพื้นที่

...

“ต้นเพลิงของไฟไหม้ครั้งนี้ คาดว่าเป็นฝีมือของคน ซึ่งต้นเพลิงมาจากพื้นที่อื่น แต่ส่งผลเป็นวงกว้าง เนื่องจากป่าส่วนนี้เป็นป่าไผ่ เป็นเชื้อเพลิงชั้นดี โดยเฉพาะช่วงกลางวันที่มีอากาศร้อน มีลมพัดแรง ทำให้ไฟป่าขยายวงกว้าง จนต้องเฝ้าระวังไม่ให้ลุกลามกระทบกับบ้านเรือนของชาวบ้าน ด้วยความที่ภูเขาแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์ ทำให้มีสัตว์ป่า เช่น เก้ง กวาง อาศัยอยู่ ซึ่งเบื้องต้นยังไม่มีรายงานว่าสัตว์ป่าเหล่านี้หนีไฟป่าเข้ามาในหมู่บ้าน”

ส่วนผลกระทบระยะยาว มีผลต่อชาวบ้านที่หากินอยู่ตามแนวป่าตีนเขา เพราะไฟป่าครั้งนี้รุนแรงมากในรอบ 3 ปี และอาจต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู กว่าป่าจะกลับมาอุดมสมบูรณ์ และชาวบ้านบริเวณตีนเขาจะกลับไปหาพืชผักได้เหมือนเดิม

ลมัย อโนตาด อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ต.เขาพระ จ.นครนายก กล่าวว่า ตอนนี้ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองจากเหตุไฟไหม้ป่า โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และเด็กที่อยู่ในหมู่บ้าน ได้มีการสื่อสารให้อยู่ในบ้าน เพื่อไม่ให้ออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้ง และรับฝุ่นพิษ จนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

“ปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าลุกลามอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเขาบริเวณนี้มีความสูงชันถึง 90 องศา ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเดินป่าเข้าไปในพื้นที่ได้ ประกอบกับพื้นที่เป็นป่าไผ่ เมื่อเจอความร้อยเลยกลายเป็นเชื้อเพลิงที่ทำให้เพลิงไหม้ขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าที่มีจำนวนน้อย ทำให้ยากที่จะควบคุมเหตุได้”

ไฟไหม้ป่าที่เกิดขึ้น การเข้ามาช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ส่วนกลางค่อนข้างล่าช้า เพราะถ้าหวังพึ่งเพียงเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เครื่องมือต่างๆ อาจจะยังไม่พร้อม เลยทำให้ไฟป่าขยายวงกว้าง จึงอยากให้หน่วยงานส่วนกลางเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านให้เร่งด่วนกว่านี้ เพราะถ้าเข้ามาช่วยดับเพลิงตั้งแต่ไฟยังลุกลามน้อย จะช่วยทำให้ไม่เกิดความเสียหายหนักขนาดนี้.

ภาพ วัชรชัย คล้ายพงษ์