เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจากคนที่เคยทำงานใช้ร่างกายตัวเองให้ความสุขกับผู้อื่น เพื่อแลกกับเงินในวัยสาวสะพรั่ง แต่วันนี้ร่างกายเริ่มร่วงโรยใครเล่าจะต้องการ เมื่อจะหวังพึ่งสวัสดิการรัฐก็คงริบหรี่เหลือเกิน เพราะที่ผ่านมากลุ่ม “เซ็กซ์เวิร์กเกอร์” ถูกมองเหมือนไม่ใช่มนุษย์ เป็นอาชีพผิดกฎหมาย ไม่ได้มีสถานะเดียวกับคนทั่วไป ไม่มีสวัสดิการขั้นพื้นฐาน ถูกจัดเป็นหมวดคนสถานภาพพิเศษที่ต้องเผชิญกับการตีตราและการเลือกปฏิบัติ
เมื่อผู้ทำอาชีพขายบริการในวัยชรา ต้องเผชิญกับหลายๆ ปัญหารุมเร้าในการใช้ชีวิตในยุคสังคมผู้สูงวัย คนกลุ่มนี้จะอยู่อย่างไร? แม้สถานการณ์โควิดจะดีขึ้น มีการเปิดประเทศ แต่เศรษฐกิจไม่ดีขึ้น มีความจำเป็นต้องกลับเข้าสู่อาชีพนี้โดยไม่ทางเลือกอื่น เพราะเงินตัวเดียวเท่านั้นนำไปใช้จ่ายประทังชีวิตในแต่ละวัน และลุ้นว่าจะมีลูกค้าหรือไม่ แค่ได้เศษเงินก็โชคดีแล้ว จะเลือกลูกค้าเหมือนแต่ก่อนคงไม่ได้
เซ็กซ์เวิร์กเกอร์วัยชรา กำลังเป็นอีกปัญหาร่วมในสังคมผู้สูงอายุของไทย และเป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่มีการพูดถึง ซึ่งหน่วยงานของรัฐไม่เคยมองเห็น ไม่มีงบประมาณใดๆ มาดูแล เป็นสิ่งที่สะท้อนออกมาด้วยความเศร้าใจจากปากของ “สุรางค์ จันทร์แย้ม” ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ หรือ Swing องค์กรที่พักพิงให้ความช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ เพราะการลงพื้นที่ทำงานและเก็บข้อมูลตั้งแต่ช่วงโควิด พบว่ามีคนทำอาชีพนี้เฉพาะในพัทยา 500 กว่าคน ในจำนวนนี้มีเซ็กซ์เวิร์กเกอร์ อายุ 50 ปีขึ้นไป มากถึง 11%
...
“ถือว่าเยอะมาก ทำให้เห็นสภาพเศรษฐกิจในตอนนี้ที่ทุกคนต้องกินต้องอยู่ ไม่มีรายได้ก็ต้องเลือกทำงานขายบริการ พอมาเจอวิกฤติช่วงโควิดระบาด ก็กลับมาทำงานกันมากขึ้น เพราะในความเป็นจริงยังมีคนสูงวัยในอาชีพนี้ถูกมองข้าม ไม่พูดถึงการดูแลสุขภาพของพวกเขา มีความเสี่ยงในการติดโรค เมื่อเจ็บป่วยก็ไม่ได้รับการเหลียวแล ไม่มีอะไรมารองรับ ไม่มีมาตรการใดๆ มาดูแล กำลังเป็นปัญหาร่วมในสังคมผู้สูงอายุ และจะเกิดปัญหาสุขภาพจิตตามมา ภายใต้ความกดดัน ซึ่งเป็นปัญหาที่หนักมาก”
รวมถึงกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศสูงวัยที่ทำอาชีพนี้ มีความเสี่ยงมากที่มีรายได้น้อยลงเช่นกัน แค่การเป็นอยู่ก็ยากแล้ว แต่ขณะนี้พวกเขาอยู่ในสภาพไร้บ้าน ซึ่ง Swing ในฐานะเป็นองค์กรเพื่อสังคม ไม่สามารถแบกรับได้ไหว เพราะรัฐไม่เคยมองเห็น และทุกวันนี้มีคนโทรเข้ามาขอความช่วยเหลือบอกว่าไม่มีข้าวจะกิน ไม่มีที่นอน และบางคนไม่กล้าขอยืมเงินโดยตรง แต่จะบอกว่าไม่มีเงินกินข้าว เริ่มมีหลายคนติดต่อเข้ามาและส่งข้อความมาหาในหลายช่องทาง ทำให้เครียดมากเพราะไม่สามารถแก้ปัญหาให้พวกเขาได้
ชีวิตของเซ็กซ์เวิร์กเกอร์ในพัทยา เห็นชัดในช่วงโควิด มีการเดินริมถนนมากขึ้นเพื่อขายบริการ และอาศัยชายหาดเป็นที่นอน จนเป็นจุดเริ่มจะหาที่ดินเพื่อปลูกแปลงผักให้เก็บกินเป็นอาหาร แต่กำลังของ Swing ไปไม่ถึง และอยากมีโครงการคนละครึ่งในเรื่องที่อยู่อาศัยให้ร่วมจ่ายครึ่งหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมาพยายามคิดว่าทำอย่างไรจะช่วยพวกเขา และกำลังทำให้มีอาชีพมีรายได้ ด้วยการให้อุปกรณ์ตัดผม หรือทำคุกกี้ และได้มีจำนวนหนึ่งที่ทำออกมาขายสร้างรายได้
“มันเห็นๆ อยู่ ไม่ใช่พี่น้องของเรา นั่งเฉยๆ ไม่ทำอะไร แต่เพราะไม่มีทรัพยากร ไม่มีช่องทางให้เขาเริ่มในการต่อจิ๊กซอว์ และล่าสุดเจ้าของร้านเบเกอรี่ ได้เข้ามาช่วยให้มีรายได้ เพื่อจะได้ช่วยคนที่อยู่ข้างหลัง บางคนถอยกลับบ้านช่วงโควิด แต่ที่บ้านไม่มีอะไรทำ ท้ายสุดก็กลับมาในสภาพเศรษฐกิจที่ไม่เหมือนเดิม กลับมาพัทยาแย่งชิงลูกค้ากันพอสมควร จะเลือกลูกค้าไม่ได้ จนอำนาจอยู่ที่ผู้ซื้อจะทำอะไรก็ได้”
ปัจจุบันนี้คนขายบริการไม่ได้ลดลง แต่สถานบริการถูกปิดเป็นจำนวนมาก และสถานบริการก็ต้องเลือกเด็กที่อายุน้อย ทำให้ไม่มีที่ยืนต้องไปอยู่ริมถนน จนหลายคนไปหากินอยู่ในโลกออนไลน์ ซึ่งอันตรายมากในการถูกล่อลวง ถูกทำร้าย จะไปแจ้งความก็ไม่ได้ เพราะถูกมองเป็นคนร้ายอย่างเดียว
หรือบางคนอายุมากไม่ถนัดโลกออนไลน์ ก็ต้องไปอยู่ภายใต้นายหน้า เท่ากับลำบากมากขึ้น และทุกอย่างที่เกิดขึ้นกำลังสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น บางคนต้องทนยอมได้ค่าตัวในราคาถูก เหมือนสินค้าถูกเลหลังใครให้ราคาเท่าไรก็ยอม และขณะนี้เริ่มมีกลุ่มคนหูหนวก ออกมาทำอาชีพขายบริการกันมากขึ้นอีกด้วย
...
สิ่งที่เกิดขึ้นเพราะกฎหมายตีตราให้อาชีพนี้ผิดกฎหมาย หากรัฐดำเนินการตั้งแต่แรกให้คนทำอาชีพขายบริการ เป็นแรงงานในระบบอยู่ในกองทุนประกันสังคมให้เป็นหลักประกัน ก็คงไม่เกิดปัญหาและหลายคนคงต้องทำอาชีพนี้ต่อไปจนแก่ชรา ซึ่งที่ผ่านมาได้เคลื่อนไหวในเรื่องนี้มานาน 30 กว่าปี ไม่มีการรับฟังอ้างว่าเป็นอาชีพผิดศีลธรรมของสังคม แต่เก็บภาษีนอกระบบจำนวนมากจากค่าปรับ เป็นจำนวนเงินที่ต้องจ่ายมากกว่าเงินประกันสังคม
“รัฐชอบพูดว่าเจ้าของสถานบริการไม่อยากทำให้คนเหล่านั้นมาอยู่ในระบบ ก็ไม่ใช่เรื่องจริง ทั้งๆ ที่การจ่ายภาษีในระบบน้อยกว่า ทำให้ทุกคนอยากอยู่ในระบบ ไม่ต้องคอยหลบให้ถูกรีดไถ แต่ถ้าทำให้ถูกต้องเอามาอยู่บนดิน ก็จะมีคนเสียประโยชน์ เพราะคนได้ประโยชน์เสียงใหญ่กว่า จนเสียงที่เรียกร้องไปไม่มีคนได้ยิน และไม่ยอมรับให้อาชีพนี้ถูกคุ้มครองภายใต้กฎหมายแรงงาน อาจออกกฎกระทรวงเหมือนแรงงานประมง ไม่ต้องเขียนกฎหมายเพื่อคุ้มครองอาชีพขายบริการ เพราะเรื่องค้ามนุษย์คนละเรื่องกับอาชีพนี้ที่คนสมัครใจทำเอง หรือจะให้อยู่ใต้ดินแบบนี้ เพราะการใช้กฎหมายไม่ได้ช่วยพวกเขา แต่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน”