สาววัย 25 ถูกหลอกทำงานออนไลน์ 2 วัน โอนเงินหมด 3.6 ล้านบาท ยอมรับโลภอยากได้เงินคืน เพราะเป็นเงินที่พ่อแม่เก็บไว้สร้างบ้าน และตัวเองกำลังตกงาน เลยพยายามหารายได้ ไม่นึกว่าจะถูกหลอก เบื้องต้นแจ้งความ แต่คดีไม่คืบหน้า

สาววัย 25 ผู้เสียหายชาว จ.อุตรดิตถ์ ให้ข้อมูลกับ “ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์” ว่า ด้วยความที่ขณะนี้ว่างงาน เมื่อเลื่อนไปเจอโฆษณาทำงานออนไลน์ในโปรแกรมไอจี จึงเข้าไปกดดูข้อมูล และสอบถามไปยังพนักงานผู้ดูแลระบบ ได้แนะนำให้เข้าไปดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน เทเลแกรม โดยออกอุบายว่าเพื่อให้สามารถติดต่องานได้สะดวกมากขึ้น

จากนั้นแอดมินจะมีการสอบถามว่า มีความถนัดงานประเภทไหน เช่น ร้อยลูกปัด เย็บปักถักร้อย หากสนใจจะส่งของมาให้ที่บ้าน เมื่อทำเสร็จต้องส่งงานคืนประมาณ 3-7 วัน

ขั้นแรกต้องโอนเงินไปให้ก่อน 500 บาท เพื่อได้ค่าคอมมิชชั่น 10% โดยการทำงานจะให้เข้าไปกดซื้อสินค้าในช้อปปี้ แล้วแคปหน้าจอส่งงาน แต่ไม่ต้องทำการซื้อจริง จะได้ค่าคอมมิชชั่น มิจฉาชีพหลอกให้ทำ 5 ภารกิจ เมื่อทำไปเรื่อยๆ ถึงภารกิจที่ 4 เริ่มมีปัญหา เมื่อสอบถามแอดมินอ้างว่า เนื่องจากได้ทำภารกิจต่อเนื่อง จึงได้เลื่อนขั้นเป็นระดับ VIP เลยได้ย้ายไปยังกลุ่มใหม่ในเทเลแกรม ที่มีสมาชิก 5 คน หัวหน้าดูแล 1 คน

...

เมื่อเข้าสู่ภารกิจที่ 5 มิจฉาชีพกำหนดว่า ต้องทำพร้อมกันทั้งกลุ่ม โดยมีเวลากำหนด แต่เมื่อทำภารกิจเสร็จจะมีภารกิจอื่นให้ทำต่ออีก สุดท้ายแอดมินอ้างว่าทำภารกิจไม่สำเร็จ จึงไม่สามารถถอนเงินที่โอนไว้จำนวนหนึ่งออกมาได้ และด้วยความที่ตนเองได้นำเงินที่พ่อแม่เก็บไว้เพื่อก่อสร้างบ้านไปโอนไว้ในระบบจำนวนมาก ทำให้ต้องพยายามนำเงินส่วนนั้นกลับมาให้ได้

“ด้วยความที่อยากได้เงินคืน เลยพยายามทำภารกิจให้สำเร็จ จนไม่ได้สงสัยว่าอาจเป็นพฤติกรรมของมิจฉาชีพ ขณะเดียวกันมีการหลอกให้โอนเงินเพื่อลงทุนต่อ พอไม่โอนไปตามเวลาที่กำหนด จะมีคนที่เป็นเหมือนหน้าม้าทักมาบอกว่า ได้เงินจากการลงทุนจริง โดยส่งสลิปการโอนเงินมาให้ดู”

พอโอนเงินเข้าไปในระบบเพิ่มขึ้น แอดมินจะบอกว่า ตนเองอยู่ในระดับ VIP 2 ต้องโอนเงินเพื่อเสียภาษีและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งให้โอนครั้งละ 1,500-1.2 ล้านบาท ตามลำดับ โดยบัญชีปลายทางรับโอนเงินมีชื่อเจ้าของบัญชีไม่ซ้ำกัน

ด้วยความที่กลัวจะไม่ได้เงินคืน เลยโอนไปตามที่มิจฉาชีพหลอก รวมแล้วทั้งสิ้น 3.6 ล้านบาท ภายใน 2 วัน โดยช่วงหลังเริ่มติดต่อไปคุยกับแอดมินว่าอยากได้เงินคืน แต่พนักงานพยายามหว่านล้อมให้โอนเงินเข้ามาในระบบอีก เมื่อไม่ยอมโอนจะทำทีหลอกให้เชื่อใจ โดยส่งรูปบัตรประชาชนมาเป็นหลักฐาน ช่วงเวลานั้นต้องยอมรับว่าหน้ามืดตามัว เพราะอยากได้เงินคืน จนไม่นึกว่าจะเป็นเรื่องบานปลายมาถึงขนาดนี้

เบื้องต้นได้แจ้งความกับตำรวจ และส่งหลักฐานการโอนเงินทั้งหมดแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากตำรวจเองก็บอกว่ามีคดีประเภทนี้มาก ขณะนี้ทำได้เพียงอายัดบัญชีที่โอน จึงอยากเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งติดตามเงินคืนให้ เพราะแจ้งไปทางช่องทางการแจ้งความออนไลน์ด้วย แต่ยังไม่มีความคืบหน้า

พ.ร.บ.แก้บัญชีม้า ต้องเร่งนำออกมาใช้

“ภัทรกร ทีปบุญรัตน์” หัวหน้างานศูนย์คุ้มครองและพิทักษ์ผู้บริโภคแบบเบ็ดเสร็จ สภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า กรณีสาววัย 25 ถูกหลอกให้ทำงานแล้วโอนเงินไปกว่า 3.6 ล้านบาท ได้รับเรื่องร้องเรียนและพยายามประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เร่งติดตามคนร้าย แต่ด้วยระบบของธนาคารที่ยังไม่เชื่อมโยงกัน ทำให้การอายัดเงินค่อนข้างช้า และส่งผลกระทบต่อผู้เสียหายจำนวนมาก

ตาม พ.ร.บ.ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่ขณะนี้มีมาตรการใหม่ๆ ซึ่งรอการบังคับใช้ในการให้ธนาคารทุกแห่งสามารถโอนข้อมูลของลูกค้าที่มาเปิดบัญชีม้า เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มคนเหล่านี้มาเปิดบัญชีได้ และถ้ามีการบังคับใช้โดยเร็วจะช่วยป้องกันไม่ให้มีผู้เสียหายอีกจำนวนมาก

ขณะนี้มีผู้ที่ถูกหลอกในลักษณะนี้จำนวนมาก มีแนวโน้มว่าเงินที่มิจฉาชีพหลอกเหยื่อแต่ละรายมีวงเงินที่เพิ่มสูงขึ้น ดังเช่นกรณีน้องอายุ 25 ปี เมื่อถูกกดดันจากกลุ่มหน้าม้า ก็ทำการโอนเงินที่เก็บไว้จนหมด โดยไม่ได้สังเกตถึงความผิดปกติของกลุ่มมิจฉาชีพ เพราะการทำงานโดยหลอกให้โอนเงินไปลงทุนก่อนไม่มีจริง จึงไม่ควรหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อกลุ่มคนเหล่านี้.

...