- ชื่อของประสิทธิ์ เจียวก๊ก เป็นที่สนใจอีกครั้ง หลังพยายามหลบหนีออกจากอาคารศาลอาญา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 22 ธ.ค. 2565 ขณะขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำ เพราะปวดท้องถ่ายหนัก ระหว่างการนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐานคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน มูลค่าความเสียหายกว่าพันล้านบาท และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ แต่เจ้าหน้าที่ศาลสามารถจับกุมตัวไว้ได้ และนำตัวย้ายไปคุมขังในแดนความมั่นคงสูง เรือนจำบางขวาง
- การวางแผนหลบหนีของนายประสิทธิ์ มีผู้สมรู้ร่วมคิดรออยู่ในห้องน้ำ ได้นำกุญแจไขโซ่ตรวน จัดเตรียมเสื้อยืดสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าหุ้มส้น และหนวดปลอม ให้กับประสิทธิ์ แต่มีจำเลยในคดีอื่นเดินเข้าห้องน้ำสังเกตเห็น จึงตะโกนแจ้งเจ้าหน้าที่ศาล จนสามารถจับกุมตัวไว้ได้ขณะกำลังปีนบันไดชั้น 3 กระโดดหนีลงมาและได้รับบาดเจ็บที่ขา ขณะที่กรมราชทัณฑ์ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ เพราะไม่มีการวิ่งตามไปจับกุม
- เดือนพ.ค. ปี 2564 ประสิทธิ์ เจียวก๊ก ถูกตำรวจกองปราบปรามจับกุมและดำเนินคดีในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนและความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ รวม 6 คดี หลังมีพฤติการณ์หลอกลวงประชาชนให้ร่วมลงทุนในธุรกิจหลายรูปแบบ อ้างให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาคดีในชั้นศาลจำนวน 2 คดี
- ประสิทธิ์ เจียวก๊ก เจ้าของเครือข่ายธุรกิจ “M Group” เกิดที่จังหวัดกระบี่ เป็นที่รู้จักของคนในสังคม ในฐานะประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน กับประโยคเด็ด "เราไม่จำเป็นต้องเป็นคนรวย แต่เราต้องเป็นคนดี" กลับกลายมาเป็นนักต้มตุ๋นหลอกเหยื่อจำนวนมาก และเมื่อเดือนธ.ค. ปี 2563 พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เคยออกมาระบุว่าประสิทธิ์ อยู่ในเครือข่ายปฏิบัติการด้านข่าวสาร หรือไอโอของกองทัพ ในการปั่นแท็ก และตั้งข้อสังเกตเครือข่ายธุรกิจของประสิทธิ์ มีความไม่ชอบมาพากล
- แต่กลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จากกองทัพ และประสิทธิ์ ยังแจ้งความเอาผิดต่อพรรณิการ์ และคณะก้าวหน้า ว่ากล่าวพาดพิง ไม่มีข้อเท็จจริง เป็นการหมิ่นประมาทกล่าวหาว่าทำธุรกิจไม่ชอบมาพากล นอกจากนี้ในเว็บไซต์ prasitjeawkok.com ของประสิทธิ์ ได้เรียกตัวเองว่าเป็น "แจ็ค หม่า 2 เมืองไทย" เน้นย้ำถึงการให้ การช่วยเหลือ และยึดมั่นความดี ผ่านกิจกรรมต่างๆ ในโครงการคืนคุณแผ่นดิน โดยใช้เงินรายได้จากการทำธุรกิจ
- ประสิทธิ์ อ้างว่าเคยคลุกคลีอยู่กับธุรกิจบ่อนการพนัน และอยากทำธุรกิจสีขาว จนในที่สุดได้ประกาศตัวเป็นคนดี ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน สร้างภาพลักษณ์ต่อเนื่อง ทั้งการจัดกิจกรรมการกุศล และบริจาคเงินให้กับภาครัฐ จนได้รางวัล "คนทำดีต้นแบบสังคมแห่งปี 2558 คนดีเพื่อพ่อ" จากสถาบันปกเกล้า และรางวัลผู้สนับสนุนการทำดี จากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
- การเน้นย้ำการทำความดี ทำให้ประสิทธิ์ ได้เป็นวิทยากรพิเศษ ให้กับสถาบันการศึกษา และหน่วยงานต่างๆ พร้อมกับอ้างในหนังสือชีวประวัติของตัวเองว่า เคยได้รับเกียรติจากพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ให้ร่วมทำงานสานใจไทยสู่ใจใต้ และมีรูปถ่ายร่วมกันในบ้านสี่เสาเทเวศร์ แต่คนใกล้ชิดพล.อ.เปรม ชี้แจงว่าเป็นการอวยพรตามปกติของประชาชนทั่วไป และพยายามจะเข้าพบพล.อ.เปรม เป็นการส่วนตัว เพราะอยากทำโครงการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน แต่พบว่าเป็นบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ จึงไม่อนุญาตให้เข้าพบ
- หนึ่งในแผนการชุบตัวของประสิทธิ์ คือการซื้อสื่อในช่องทางต่างๆ เพื่อป่าวประกาศความเป็นคนดี สร้างความน่าเชื่อถือ จนรายการคนค้นฅน ของทีวีบูรพา ถูกใช้เป็นเครื่องมือนำเรื่องราวของประสิทธิ์ มาเป็นต้นแบบให้กับผู้คนในสังคม ออกอากาศเมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2563 กระทั่งประสิทธิ์ ถูกตำรวจจับกุมคดีฉ้อโกง เมื่อกลางปี 2564 ทำให้ผู้บริหารทีวีบูรพา ต้องระงับการเผยแพร่คลิปรายการทั้งหมด
- ไม่แปลกที่มีการติดต่อแอ๊ด คาราบาว แต่งเพลง "ประสิทธิ์ ผู้ให้" และไปออกรายการดังๆ ทั้งเจาะใจ โหนกระแส และตีสิบ ล้วนถูกใช้ให้เป็นเครื่องมือ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับตัวเองจนโด่งดังขึ้นมาในทันที และเอื้อต่อการปูทางเครือข่ายธุรกิจ อ้างเป็นประชาชนคนหนึ่งที่รักในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์อย่างที่สุด เพื่อหลอกฟันเงินจากเหยื่อในหลายรูปแบบ แต่สุดท้ายก็โดนตำรวจปิดเกม กระชากหน้ากากนักต้มตุ๋นพันล้าน ไม่ใช่คนดีจริง อย่างที่เคยปั้นแต่ง.
...