เหตุสะเทือนขวัญศพปริศนาถูกซุกไว้ในแท็งก์น้ำ ตึกแห่งหนึ่ง ย่านหัวหมาก กรุงเทพฯ โดยคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วกว่า 5-6 เดือน เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุเพศผู้ตายได้ เนื่องจากร่างมีสภาพเน่าเปื่อย จนต้องใช้แนวทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อหาอัตลักษณ์ส่วนบุคคล และแกะรอยหาตัวฆาตกรมาลงโทษ
19 ธ.ค. 65 กลิ่นเน่าคละคลุ้งกระตุ้นต่อมสงสัยของผู้รับเหมาซ่อมแซมบ้าน ด้วยสภาพอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ปิดตายมาหลายเดือน หลังเจ้าของใหม่ซื้อไว้ โดยนายช่างไล่ตามกลิ่นเหม็นเน่า จนแน่ใจว่าต้นตอมาจากในแท็งก์น้ำสเตนเลส ขนาด 1,250 ลิตร แต่ด้วยความสูงของแท็งก์น้ำ ทำให้มองเห็นซากด้านในไม่ถนัด จึงได้นำไฟมาส่อง... ถึงกับผงะ เมื่อเห็นเส้นผม เสื้อผ้า แห้งกรังติดก้นแท็งก์
ร่างไร้วิญญาณปริศนาถูกซุกไว้ในแท็งก์น้ำ ทำเอาคนที่พบเห็นขนหัวลุก ทีมกู้ภัยใช้เครื่องตัดแท็งก์น้ำสเตนเลส นำร่างไร้วิญญาณออกมา แม้ด้านบนแท็งก์น้ำจะไม่มีฝาปิด แต่ช่องด้านบนมีขนาดเล็กเกินกว่าจะนำร่างที่เริ่มเน่าออกมาได้
เหตุการณ์นี้เจ้าของบ้านให้ข้อมูลว่า บ้านหลังนี้ปิดมาตลอด โดยเมื่อ 6 เดือนก่อน ได้ให้ช่างเข้ามาซ่อมแซมตัวบ้าน คาดว่าคนร้ายอาจลักลอบเข้ามาทางดาดฟ้า ที่มีพื้นที่เชื่อมต่อกันหลายหลัง
สำหรับการแกะรอยหาคนร้ายจากศพ “รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี” อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ให้ความเห็นกับ “ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์” ว่า กรณีนี้มีจุดที่น่าสงสัยหลายแห่ง แต่สิ่งสำคัญต้องหาให้ได้ว่าผู้ตายคือใคร ด้วยการค้นหาบุคคลสูญหายในพื้นที่ หรือใช้เทคโนโลยีสเกตช์ภาพใบหน้าของผู้เสียชีวิตผ่านกะโหลก แม้ชิ้นเนื้อบริเวณใบหน้าจะย่อยสลายไปแล้วบางส่วน
“อีกหลักฐานสำคัญไขความลับคดีคือ ต้องตรวจสอบเครื่องประดับ เสื้อผ้า หารูปพรรณสัณฐานเบื้องต้นจากศพ เพื่อทำการหาญาติ จากนั้นจึงตรวจเปรียบเทียบหาดีเอ็นเอ”
...
ด้วยตึกที่พบศพเป็นตึกร้าง และผู้ตายอยู่ในแท็งก์น้ำที่มีความสูง จึงค่อนข้างเป็นไปไม่ได้ที่จะประสบอุบัติเหตุ ส่วนอีกข้อสันนิษฐานว่าผู้ตายอาจเข้าไปด้านในเอง ยังเป็นประเด็นที่ไม่ควรตัดทิ้ง เพราะที่ผ่านมามีคนที่เข้าไปตายในโอ่งมาแล้ว แต่กรณีเหล่านั้นผู้ตายมีสภาวะทางจิต
กรณีนี้ด้วยสภาพแวดล้อมที่เกิดเหตุ อาจสันนิษฐานได้ว่าการเสียชีวิตมีบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยมีลักษณะการอำพรางศพ ขณะเดียวกันยังต้องตรวจสอบหาลายนิ้วมือแฝง หรือดีเอ็นเอคนร้ายที่อยู่บนแท็งก์น้ำ เพราะแท็งก์น้ำเป็นวัสดุผิวเรียบสเตนเลส สามารถตรวจสอบหาหลักฐานได้
ปกติศพทั่วไปประมาณ 3 สัปดาห์ จะเริ่มเหลือเพียงโครงกระดูกปะปนกับเนื้อเยื่อ การเน่าเริ่มจากใบหน้า ลำตัวไล่ลงมาเรื่อยๆ แต่ถ้าร่างเหลือแค่โครงกระดูก จะเสียชีวิตเกินกว่า 1 เดือน กรณีนี้ต้องนำศพไปผ่าชันสูตร เพื่อหาร่องรอยการถูกทำร้ายผ่านโครงกระดูก ที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้ตายถูกทำร้ายด้วยของมีคม หรือถูกกระทำด้วยของแข็ง
“ถ้าตรวจพิสูจน์แล้วไม่พบร่องรอยถูกทำร้ายบนกระดูก จะไม่สามารถตัดประเด็นการเสียชีวิตโดยถูกทำร้ายไปได้ เพราะผู้ตายอาจถูกทำร้ายในลักษณะที่ไม่ส่งผลให้เกิดร่องรอยบนกระดูก ดังนั้นต้องเก็บหลักฐานในพื้นที่เพิ่มเติม เนื่องจากกรณีที่ศพเน่าแล้ว จะไม่เห็นเนื้อเยื่อที่ถูกทำร้าย แต่ต้องตรวจหาคราบเลือดในที่เกิดเหตุมาประกอบ”
ปัจจุบันการสืบทราบว่าผู้ตายคือใคร ทำให้คดีคลี่คลายได้เร็ว และตามจับผู้กระทำผิดได้แน่นอน เพราะขณะนี้ประเทศไทยมีเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยในการแกะรอยหาคนร้ายได้อย่างทันสมัย ซึ่งคดีนี้จำเป็นต้องตามจับคนร้ายมาให้ได้ เพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุกับบุคคลอื่น.