ลำแสงประหลาดคล้ายดาวหางขนาดใหญ่ ปรากฏเหนือน่านฟ้าประเทศเมียนมา เมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 ธ.ค. 2565 ที่ผ่านมา สามารถมองเห็นในพื้นที่จ.เชียงใหม่ของไทย ได้สร้างความตื่นตกใจให้กับชาวบ้าน เพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นลำแสง หรือลูกไฟขนาดใหญ่แบบนี้มาก่อน
ในเวลาต่อมาสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ หรือ สดร. ได้ออกมาชี้แจงข้อสงสัยให้หายคาใจ ที่แท้เป็นจรวดขีปนาวุธข้ามทวีป อัคนี 5 (Agni-V) ของอินเดีย มีการทดสอบยิงมาจากบนเกาะเอพีเจ อับดุล คาลาม ในรัฐโอริสสา ทางชายฝั่งตะวันออกของอินเดีย มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกไปยังอ่าวเบงกอล ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อประเทศไทย เนื่องจากอยู่ห่างประมาณ 2 พันกิโลเมตร

แล้วอานุภาพของจรวดขีปนาวุธ อัคนี 5 เป็นอย่างไร? จากข้อมูลกระทรวงกลาโหมของอินเดียระบุว่า เป็นขีปนาวุธทิ้งตัวแบบติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ ความสูง 17.50 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 2 เมตร น้ำหนัก 50 ตัน ใช้เชื้อเพลิงแข็ง 3 ท่อน สามารถทนต่ออุณหภูมิความร้อน 5 พันองศาเซลเซียส สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ที่มีน้ำหนักเกิน 1 ตัน และมีพิสัยยิงไกล 5 พันกว่ากิโลเมตร หรืออาจมากถึง 8 พันกิโลเมตร
...
นั่นหมายความว่า สามารถยิงไปยังเมืองสำคัญๆ ของจีนได้อย่างครอบคลุมไม่ว่ากรุงปักกิ่ง หรือมหานครเซี่ยงไฮ้ ท่ามกลางความตึงเครียดรอบใหม่ที่เกิดขึ้นระหว่างจีนและอินเดีย มีการปะทะกันอีกครั้งเพื่อแย่งกรรมสิทธิ์บนเทือกเขาหิมาลัย เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2565 บริเวณรัฐอรุณาจัลประเทศ ซึ่งเป็นพรมแดนติดกับจีน ทำให้ทหารทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บ กระทั่งอินเดียมีการทดสอบยิงจรวดขีปนาวุธ อัคนี 5 เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2565

ที่ผ่านมาอินเดีย ออกมาปฏิเสธการทดสอบยิงจรวดขีปนาวุธหลายครั้ง ไม่เกี่ยวข้องกับการข่มขู่จีน แต่สื่อท้องถิ่นของอินเดีย มีการระบุเป็นการส่งสัญญาณอันแข็งกร้าวไปยังจีน จากปมพิพาทแย่งกรรมสิทธิ์บนเทือกเขาหิมาลัย สร้างความสั่นคลอนมาอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกับข่าวเล็ดลอดออกมาว่าจีน ซุ่มทดสอบขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกแบบติดหัวรบนิวเคลียร์ ความเร็วเหนือเสียง 5 เท่าขึ้นไป เมื่อเดือนส.ค. 2564 ขณะที่จีนอ้างว่าเป็นการทดสอบอวกาศยานที่นำกลับมาใช้ใหม่เท่านั้น และมีรายงานว่าอินเดีย กำลังพัฒนาเทคโนโลยีขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก เช่นกัน

จรวดขีปนาวุธ อัคนี 5 อยู่ระหว่างการทดสอบ มีการยิงทดสอบครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2555 ก่อนทดสอบครั้งที่ 2 วันที่ 15 ก.ย. 2556 ครั้งที่ 3 วันที่ 31 ม.ค. 2558 ครั้งที่ 4 วันที่ 28 ต.ค. 2564 และมาครั้งล่าสุดวันที่ 15 ธ.ค. 2565 และก่อนหน้านั้นอินเดีย มีจรวดขีปนาวุธ อัคนี 1 อัคนี 2 อัคนี 3 และอัคนี 4 ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง

อีกไม่นานอินเดียจะมีจรวดขีปนาวุธ อัคนี 6 อยู่ระหว่างการพัฒนา มีพิสัยยิงไกลมากถึง 1.2 หมื่นกิโลเมตร อย่างน้อยได้เป็นการประกาศไปยังฝ่ายตรงกันข้ามให้รู้ว่าอินเดีย ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์เช่นเดียวกับหลายประเทศในโลก และพร้อมจะตอบโต้ในทันที หากเข้ามารุกรานแทรกแซง โดยเฉพาะการคานอำนาจจีน.