• เรื่องราวความโหดของลุงคนหนึ่ง วัย 68 ปี อาศัยอยู่ในย่านดอนเมือง จับแมวฟาดไปมาจนตาย สร้างความสะเทือนใจให้กับทาสแมว ตามมาด้วยคำด่า เสียงประณามต่างๆ นานา เพราะลุงอ้างว่าแมวบุกรุกเข้ามาในบ้าน “เข้ามาทำไมบ้านกู กูเกลียดแมว” จึงไม่รู้สึกผิดกับสิ่งที่กระทำไป และเหตุที่แมวตายเพราะใจเสาะไปเอง ส่วนค่าเสียหายไม่ขอจ่ายแม้แต่สลึงเดียว ขอสู้คดีในชั้นศาลจนถึงที่สุด

  • คำพูดของลุงที่ออกมาในแต่ละประโยค ไม่สำนึกผิดใดๆ จากการทารุณกรรมสัตว์ โดยเฉพาะแมวไม่ใช่สัตว์ดุร้ายเหมือนสัตว์ป่า แต่เมื่อถูกแจ้งความดำเนินคดี ได้ยอมรับสารภาพเป็นผู้ก่อเหตุจริง ถูกตำรวจตั้งข้อกล่าวหา 2 ข้อหา ทารุณกรรมสัตว์ โทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่น และทำให้เสียทรัพย์ จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่น ซึ่งในวันที่ 14 ธ.ค. 2565 จะถูกนำตัวส่งฟ้องศาลแขวงดอนเมือง

จากพฤติกรรมของลุงรายนี้ ในแง่ของจิตวิทยา “ศ.ดร.วัลลภ ปิยะมโนธรรม” ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา ระบุว่า ในสังคมมีคนประเภทหนึ่งไม่ชอบสัตว์เลยทีเดียว และอีกประเภทหนึ่งรักสัตว์มากกว่าคน หากคนไม่ชอบสัตว์อาศัยอยู่คนเดียว ท่ามกลางคนเลี้ยงแมวเลี้ยงสุนัข จะดูเหมือนว่าถูกรบกวนตลอดเวลา จากกลุ่มคนที่นิยมสิ่งเดียวกัน หรือเพื่อนบ้านที่มีความคิดคล้อยตามกัน เมื่อมีแมวซุกซน หรือมีสุนัขเห่า ก็จะมีความโกรธสะสม เมื่อสัตว์เหล่านั้นเข้าบ้านของตัวเอง จึงมีโอกาสทำลาย และสามารถแก้ตัวได้หมด

...

“ยิ่งคนรักแมวทำใจไม่ได้ เมื่อเห็นภาพลุงทำร้ายแมว ก็เลยโกรธ กลายเป็นเรื่องใหญ่ ถือเป็นอุทาหรณ์ของคนที่อยู่ชาติเดียวกัน แล้วมีการแบ่งพรรคแบ่งพวก จนเกิดการต่อสู้กันตลอด ในกรณีของลุงรายนี้ไม่ใช่โรคจิต แต่เป็นเรื่องของจิตใจที่เก็บกดมากๆ จากความโกรธและเกลียด บางคนอาจแค่เตะต่อย ไม่ถึงกับฆ่าให้ตาย”

อย่างกรณีฆ่ายกครัว 5 ศพในสงขลา เมื่อปี 2540 เกิดจากความเก็บกดมากๆ ของฆาตกรตั้งแต่วัยเด็ก ถูกโจรจับมัดด้วยมุ้งขังไว้ในบ้านทั้งวัน และเมื่อเป็นวัยรุ่นทะเลาะกับคนข้างบ้านเรื่องวัวมากินผัก จึงใช้เชือกผูกคอวัวแล้วจับแขวนคอบนต้นไม้จนตาย ทำให้มีความเป็นฆาตกรอยู่ในใจ สามารถหักคอฆ่าจิ้งจกได้ทีละตัวอย่างเยือกเย็นไม่สะทกสะท้านใดๆ

เมื่อมาดูกรณีของลุงฆ่าแมว หากมีเจตนาฆ่าถือว่ามีปัญหาด้านจิต เป็นพวกรังเกียจสังคม หรืออาฆาตสังคม จนสามารถทำลายได้ทุกอย่างแม้กระทั่งมนุษย์ บางคนมีพฤติกรรมหักโค่นต้นไม้หรือกิ่งต้นไม้ บางคนทำร้ายสัตว์ที่มาขวาง หรือเขียนป้ายใช้สีละเลงหวังระบายความเก็บกด และเมื่อไปฆ่าสัตว์ที่มนุษย์รัก ซึ่งไม่ใช่เสือ สิงโตหรือสัตว์ป่าที่ดุร้ายทำร้ายคนได้ ยิ่งทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ยกเว้นไปฆ่าตัวเงินตัวทอง กลับถูกมองว่าไม่ผิด

การฆ่าและทำร้ายสัตว์จากการกระทำของบางคน อาจเกิดจากความกลัว หรือบางคนเมื่อมีอายุมากขึ้น จะรักชีวิตมากขึ้นจึงรีบทำร้ายสัตว์เหล่านี้ก่อน เพราะกลัวจะมาทำร้ายตัวเองก็มี ซึ่งการกระทำของลุงที่ฆ่าแมว จะเจตนาหรือไม่ขึ้นอยู่กับหลักฐาน แต่อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ต้องอยู่ร่วมกันด้วยความเมตตา และการที่บอกว่าจับตัวแมวจากใต้ท้องรถ ก็แสดงว่าแมวไม่ได้มารบกวนโดยตรง แต่ไม่เข้าใจว่าจิตใจข้างในเป็นอย่างไร

“ลุงอาจป้องกันตัวเองด้วยคำพูด อ้างว่าแมวเข้ามาในบ้าน เพราะไม่เช่นนั้นจะถูกประณามไปมากกว่านี้ และคนพวกนี้ จะมีความอิจฉาริษยาอยู่ในใจอยู่แล้ว เพราะขาดความรักความอบอุ่น จะไม่รู้จักทะนุถนอมแมวหรือสุนัข แต่ถ้ารู้จักเมตตาซึ่งกันและกัน ก็ไม่มีปัญหา และปัจจุบันนี้จะเห็นคนในสังคมอารมณ์ร้อนมาก เพราะเกรงใจคนอื่นที่อยู่นอกบ้าน แต่มาระบายความเก็บกดกับคนในบ้านแทน ยิ่งอาศัยอยู่คนเดียวก็อันตราย อยู่แบบคิดเองเออเอง โกรธเองก็มี”.

...