หมดหน้าฝนไปแล้ว เข้าสู่หน้าหนาวในเดือนพ.ย. แต่หลายคนคงสงสัยว่าเหตุใดช่วงนี้ฝนตกหนักมาก และตกต่อเนื่องเกือบทั้งสัปดาห์ โดยเฉพาะในช่วงค่ำ จนหลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ มีน้ำท่วมขังไม่ต่างจากฤดูฝน ส่วนใครรอคอยสัมผัสอากาศหนาว คงต้องรอเก้อเพราะมีแต่อากาศร้อนอบอ้าว สลับฝนตก

หรือว่าสภาพอากาศของเมืองไทยผิดปกติไปเสียแล้ว? มาดูคำตอบจาก "ดร.สุทัศน์ วีสกุล" ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน. ออกมายอมรับว่า ฝนที่ตกในช่วงนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น จากความกดอากาศจากประเทศจีน ได้แผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน แต่เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำจากทะเลฝั่งอันดามัน และร่องมรสุม รวมกันเป็น 2 แรง ทำให้ลมตะวันออกเฉียงใต้แรงขึ้น มีการพัดผ่านทะเลอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามา จนเกิดความชื้นในไทยมากกว่าปกติ ทำให้เริ่มมีฝนตกมากขึ้นในทุกภาค

“เมื่อ 2-3 วันก่อน ฝนอาจตกไม่ทั่วทุกภาค เพราะปัจจัย 2 อย่าง คือหย่อมความกดอากาศต่ำจากทะเลฝั่งอันดามัน และร่องมรสุม ยังไม่แรงพอ ทำให้ฝนตกเฉพาะภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เท่านั้น แต่เมื่อแรงขึ้นก็ตกในภาคใต้มากขึ้น เพราะได้เหนี่ยวนำลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันออก ทำให้แรงขึ้น”

...

เพราะฉะนั้นในช่วงนี้ฝนจะยังคงตก ยาวไปจนถึงอาทิตย์หน้าในวันที่ 28-29 พ.ย. และหลังจากนั้นตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. จนถึงวันที่ 2 ธ.ค. ฝนจะเริ่มอ่อนลง ส่วนสาเหตุที่ฝนตกหนักในช่วงหัวค่ำติดต่อกันในเวลาใกล้เคียงกัน หรือตกประมาณช่วงเวลา 19.30-20.00 น. เป็นเพราะความชื้นไม่สามารถทะลุไปได้ในช่วงกลางวัน จากแนวความร้อนที่กั้นเอาไว้

แม้ฝนจะเริ่มอ่อนลงในทุกภาค แต่ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. ฝนจะตกมากขึ้นในพื้นที่ภาคใต้เพียงภาคเดียว ซึ่งน่าเป็นห่วงจะเกิดน้ำท่วม โดยเฉพาะแม่น้ำตาปี จะล้นตลิ่ง ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี และขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ สสน. ลงพื้นที่ เพื่อประเมินสถานการณ์และประชุมทุกวันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการประสานกับปภ.ว่า ฝนจะตกในพื้นที่ใด

“เมื่อเช้านี้ 26 พ.ย. น้ำเริ่มล้นตลิ่งจากแม่น้ำตาปี เพราะฝนตกหนักในสุราษฎร์ธานี ประมาณ 90-120 มม. รวมถึงนครศรีธรรมราช มีฝนตก 70 มม.ขึ้นไป และเนื่องจากร่องมรสุมจะมากขึ้นตั้งแต่ 30 พ.ย. จะอยู่ยาวไปอีก 1 เดือน ทำให้มีฝนสะสมมากในภาคใต้ ตั้งแต่ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ลงไป”

แม่น้ำตาปี
แม่น้ำตาปี

สิ่งที่เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมในภาคใต้ จะต้องเตรียมการให้มากขึ้นในการทำงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ พยายามเชื่อมระดับน้ำท่วมกับถนนให้เป็นระดับเดียวกัน เนื่องจากระดับอ้างอิงมาตรฐานถนนในภาคใต้ ยังไม่สอดคล้องกับระดับน้ำที่ท่วม ก็ต้องมีการเตือนภัย โดยเฉพาะปีนี้ต้องยอมรับว่าฝนตกต่อเนื่องและยาวนาน มีโอกาสตกไปถึงปลายปีเน้นไปที่พื้นที่ภาคใต้

...

อีกคำถามคาใจของหลายคนว่าทำไมปีนี้อากาศหนาวมาช้า หรือไม่รู้สึกถึงความหนาว ก็เพราะลมสวนทางกับความเย็น ซึ่งเคลื่อนจากภาคเหนือมาภาคใต้ อีกทั้งหย่อมความกดอากาศมีการเคลื่อนที่ขึ้น-ลง แต่จะแรงขึ้นในช่วงวันที่ 29 พ.ย.ไปจนถึงวันที่ 2 ธ.ค. ทำให้อากาศเย็นลงในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน จากความกดอากาศสูงหลังวันที่ 30 พ.ย. และความกดอากาศก็จะแรงขึ้นอีก จนฝนตกน้อยลง

“อุณหภูมิจะลดลงไม่มากนักประมาณ 1-2 องศาฯ ทำให้ปีนี้หนาวไม่ต่อเนื่อง แต่ไม่ถือว่าผิดปกติแต่อย่างใด รวมถึงฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในขณะนี้ ก็ไม่ผิดปกติ”.