สร้างความฮือฮาให้กับชาวบ้านและเกษตรกรในพื้นที่ จ.ตรัง เมื่อแตงกวาไข่เข้ ซึ่งเป็นแตงกวาพันธุ์เล็ก ปลูกไว้กินเอง แต่มีแตงกวาลูกหนึ่งกลับมีขนาดใหญ่กว่าปกติ 10 เท่า น้ำหนัก 1.752 กิโลกรัม หรือเกือบ 2 กิโลกรัม จากปกติน้ำหนัก 250 กรัมเท่านั้น กลายเป็นแตงกวายักษ์อวบอ้วนคล้ายแตงไทย รสชาติยังคงหวานกรอบ
เรื่องที่เกิดขึ้นภายหลัง ดร.วิกิจ ผินรับ รองผู้อำนวยการฝ่ายสารสนเทศการวิจัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ปลูกแตงกวาไข่เข้ ประมาณ 10 ต้น มีการเก็บแตงกวารุ่นแรกมากินตามปกติ ใช้เวลาปลูก 45 วัน มีน้ำหนักลูกละ 250 กรัม จนมาปลูกรุ่น 2 ทำการทดลองใส่ปุ๋ยเปลือกปูม้าลงไปในดิน เพื่อเพิ่มแร่ธาตุอาหาร ปรากฏว่าแตงกวาลูกใหญ่กว่าปกติ
อาจด้วยความบังเอิญ เพราะยังมีแตงกวาอีก 1 ลูกรอดสายตา ไม่ได้เก็บมีน้ำหนักเกือบ 1 กิโลกรัม จึงปล่อยทิ้งไว้ 10 วัน รวมเวลาปลูก 55 วัน พบว่าน้ำหนักเกือบ 2 กิโลกรัม สร้างความประหลาดใจเป็นอย่างมาก จนชาวบ้านในพื้นที่รู้ข่าวเดินทางมาดูเป็นจำนวนมาก และหากปล่อยแตงกวายักษ์ลูกนี้เติบโตไปอีก อาจมีขนาดใหญ่มากกว่านี้ จากการใส่ปุ๋ยเปลือกปูม้า มีแคลเซียมและแมกนีเซียมค่อนข้างมาก
...
ดร.วิกิจ ระบุ ได้เริ่มต้นใช้ปุ๋ยเปลือกปูม้ากับผักคะน้าและกวางตุ้ง ซึ่งปลูกในโรงเรือนแบบยกพื้น จนพบว่าผักเหล่านั้นเติบโตได้ดี ใบมีความหนา ผักมีความกรอบ และไม่มีโรคพืชเข้ามาทำลาย ก่อนทดลองนำมาใส่ต้นแตงกวาไข่เข้ เมื่อผ่านไป 45 วัน ผลแตงกวาอาจโตไม่เต็มที่แต่ได้เก็บมากิน และอาจเป็นความบังเอิญที่เก็บไม่หมด จนพบว่าแตงกวาลูกที่เหลือมีขนาดใหญ่ผิดปกติ จึงปล่อยทิ้งไว้กระทั่งมีขนาดใหญ่มากขึ้น ขณะที่ลำต้นของแตงกวามีความสมบรูณ์จากต้นทั่วๆ ไป
“เคสนี้อาจเป็นความบังเอิญ เลยลองเก็บไว้ดูประมาณ 10 วัน ก็พบว่าลูกใหญ่จริงๆ และไม่แก่จนสุก เหมือนแตงกวาทั่วไป หากปล่อยทิ้งไว้จะสุก หรือเป็นเพราะในช่วงที่เก็บแตงกวารุ่น 2 มากินเกือบหมด อาจยังโตไม่เต็มที่ทำให้มีขนาดไม่ใหญ่ และในครั้งหน้าจะลองปลูกอีกครั้ง จากเมล็ดพันธุ์ที่ซื้อมาจากร้านเดิม ดูว่าแตงกวามีขนาดใหญ่หรือไม่โดยใช้ปุ๋ยเปลือกปูม้า”
ปุ๋ยเปลือกปูม้ามีที่มาจากธนาคารปูม้า ต้องการลดมลพิษจากเปลือกปูม้าที่ส่งกลิ่นเหม็น จึงนำเปลือกปูม้ามาสร้างมูลค่าตามโครงการ BCG ในการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว จนทำให้เปลือกปูม้ามีราคาขายกิโลกรัมละ 5 บาท นำไปทำเป็นปุ๋ยโดยนำปุ๋ยคอกและเปลือกปูม้าตากแดดให้แห้ง แล้วนำมาบดผสมด้วยกันกับปูนขาว ก่อนนำไปอบแห้งอัดเป็นเม็ดขนาดเท่านิ้วก้อย และได้ส่งไปตรวจสอบธาตุอาหารที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ พบว่ามีแคลเซียมและแมกนีเซียม ซึ่งมีความเป็นไปได้ในการช่วยสร้างเนื้อเยื่อให้กับพืชผัก สู่จุดเริ่มในการปลูกผักในโรงเรือน
ขณะที่ รศ.ดร.สุรวิช วรรณไกรโรจน์ อาจารย์ข้าราชการบำนาญภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กลับมองว่า เป็นไปไม่ได้ที่แตงกวาขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว จะโตจนมีขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลาง 3 นิ้วได้ อาจมีเมล็ดพันธุ์แตงกวาชนิดอื่นปะปน และปุ๋ยเปลือกปูม้า ก็คือไคโตซาน ไม่ได้ทำให้แตงกวามีขนาดใหญ่ "บิ๊กเบิ้ม" ไม่น่าเป็นไปได้
แต่ถ้าเป็นไปได้อาจเป็นเมล็ดพันธุ์ลูกผสม (F1-Hybrid) ซึ่งเป็นลูกผสมเดี่ยวเกิดการกระจายพันธ์ุ หรือเรียกง่ายๆ ว่ากลายพันธุ์ จากสายพันธุ์พ่อหรือแม่ มีทั้งลูกเล็กและลูกใหญ่ อาจทำให้แตงกวามีขนาดใหญ่ ไม่ใช่เพราะปุ๋ยเปลือกปูม้า หรือต่อให้ซุปเปอร์ฮอร์โมน ก็ไม่ทำให้แตงกวามีขนาดใหญ่ได้.
...