ระหว่างรอการพิจารณากฎหายลูกที่ใช้ในการควบคุมการใช้กัญชาทางการแพทย์ ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกประกาศฉบับใหม่ เรื่อง “สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2565 เพื่อควบคุมการใช้ช่อดอกของกัญชา ที่มีสารเสพติด รวมถึงการควบคุมผู้จำหน่าย มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตถึงช่องโหว่ของประกาศยังไม่ครอบคลุมผู้ที่ปลูกใช้ตามบ้านเรือน

“นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์” อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ชี้แจงว่า ประกาศฉบับใหม่มุ่งเน้นควบคุมส่วนช่อดอกของกัญชาในการค้า เพราะเป็นส่วนที่มีสารเสพติดและส่งผลอันตรายต่อผู้ใช้ หากใช้อย่างไม่เหมาะสม โดยเฉพาะร้านอาหารทั่วไป ห้ามนำส่วนช่อดอกของกัญชามาปรุงใส่ในอาหาร ถ้ามีการตรวจพบจะถูกดำเนินคดีความผิดอาญา

อีกข้อห้ามที่เพิ่มเข้ามาคือ ห้ามให้มีกลิ่นหรือควันของกัญชาในอาคารและสถานที่สาธารณะ ผู้ที่ได้รับผลกระทบสามารถร้องเรียนเอาผิดกับผู้ที่ใช้ได้ นอกจากนี้ทางกรมอนามัย มีการควบคุมร้านอาหารที่มีกัญชาเป็นส่วนผสม ต้องแจ้งให้ผู้บริโภครับทราบ และต้องแจ้งให้ชัดเจนว่าห้ามใช้ในเด็กและหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งถ้าหากร้านค้าไม่ปฏิบัติตามจะมีความผิด

“กรณีที่ผู้บริโภคทานอาหารที่มีส่วนผสมของช่อดอกกัญชาแล้วมีอาการแพ้ ผู้บริโภคสามารถฟ้องร้องเอาผิดโดยใช้กฎหมายเกี่ยวกับผู้บริโภคเอาผิดผู้ประกอบการได้ และถ้าพิสูจน์พบว่ามีการผสมช่อดอกไปในอาหาร ก็จะมีความผิดเพิ่มเกี่ยวกับ พ.ร.บ. อาหาร”

ตามประกาศจะควบคุมได้เฉพาะบุคคลที่มาขอใบอนุญาต ส่วนประชาชนทั่วไปประกาศนี้จะนำไปบังคับใช้ไม่ได้ เนื่องจากการควบคุมตามประกาศนี้ผู้ที่มาขออนุญาตจะต้องมีสถานประกอบการเป็นหลักแหล่ง โดยห้ามผู้ประกอบการที่ใช้รถเร่ในการขายกัญชา เพราะไม่ใช่สถานประกอบการที่แน่นอน หรือถ้ามีสถานประกอบการที่แน่นอน แต่ให้รถเร่รับต่อไปขายก็ไม่สามารถทำได้

...

“ผู้ประกอบการที่มาขออนุญาตต้องระบุแหล่งที่มาของกัญชาอย่างชัดเจน และนำไปจำหน่ายในสถานที่ใด รวมถึงจำหน่ายให้กลุ่มลูกค้าประเภทไหน กัญชาที่มีเก็บไว้ขณะนี้มีอยู่จำนวนเท่าไร โดยข้อมูลนี้จะมีการทำเป็นระบบออนไลน์ คาดว่าต้นปีหน้าระบบออนไลน์จะเริ่มนำมาทดลองใช้ โดยระบบนี้ทำให้สืบหาต้นตอของผู้ปลูก และปลายทางจำหน่ายได้แบบเรียลไทม์ ส่วนกรณีผู้ปลูกเพื่อส่งออกต้องแจ้งจำนวนการส่งออกเป็นรายครั้ง”

ด้านการจำหน่าย ห้ามขายให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี หญิงตั้งครรภ์ นักเรียน นิสิตนักศึกษา ตัวอย่างเช่น ถ้าอายุเกิน 20 ปีแล้ว แต่ยังเป็นนักศึกษา ไม่สามารถจำหน่ายให้ได้ เพราะถือว่าเป็นผู้ที่เข้าข่ายตามข้อห้ามที่ประกาศ

อีกข้อห้ามสำคัญตามประกาศคือ ห้ามจำหน่ายเพื่อให้สูบในสถานประกอบการ ตัวอย่างเช่น สถานที่จำหน่ายกัญชามีการจัดห้องไว้ให้สูบไม่ได้ หากสถานประกอบการไหนมีการดัดแปลงทำห้องไว้ก่อนแล้วจะต้องหยุดทันที ขณะนี้มีความกังวลของสังคมในร้านที่มีการจัดสถานที่สูบให้ แต่มีข้อยกเว้นในสถานประกอบการที่ใช้ในทางการแพทย์

ขณะเดียวกันมีข้อห้ามในการจำหน่ายช่อดอกกัญชาผ่านเครื่องอัตโนมัติและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ถ้าพิสูจน์ทราบจะมีการยึดใบอนุญาตของผู้ประกอบการ แต่ถ้ามีการกระทำผิดซ้ำต้องถูกลงโทษทางอาญา รวมถึงการห้ามโฆษณาในทุกช่องทางเพื่อการค้า ตัวอย่างเช่นการตกแต่งภายในร้านต้องมีเพียงป้ายบอกชื่อร้าน และป้ายบอกราคาสินค้า ส่วนการตกแต่งอื่นๆ อย่างป้ายลดแลกแจกแถมภายในร้านยังไม่อนุญาต

การลงโทษจะมีการยึดใบอนุญาตหรือแจ้งความเอาผิดทางอาญา ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตไปก่อนหน้านี้แล้ว ต้องปฏิบัติตามประกาศใหม่ล่าสุดนี้ โดยขณะนี้มีผู้ที่ได้รับใบอนุญาตไปแล้วกว่า 5 พันราย

“ประกาศฉบับนี้บังคับใช้เพื่อควบคุมได้เฉพาะผู้ประกอบการที่มาขอใบอนูญาต ส่วนการปลูกใช้เองที่บ้าน ต้องดูกฎระเบียบข้อบังคับอื่น เพื่อนำมาลงโทษในกรณีที่สร้างความเดือดร้อน ดังนั้นจึงต้องรอการพิจารณา พ.ร.บ.กัญชา ฉบับใหม่ที่กำลังพิจารณา เพื่อนำมาบังคับใช้อย่างครอบคลุม”.