สมุนไพรแก้หนาวรับอากาศเปลี่ยนแปลงรวดเร็วช่วงปลายฝนต้นหนาว ทำให้หลายคนป่วยด้วยโรคไข้หวัด หรือปัญหาระบบทางเดินหายใจส่วนต้นเป็นจำนวนมาก สำหรับทางการแพทย์แผนไทย อากาศหนาวมีผลกระทบต่อธาตุไฟและธาตุน้ำ ทำให้ต้องเร่งสร้างความอบอุ่น เพื่อให้เกิดความสมดุลด้วยตำรับยาสมุนไพรไทย ขณะเดียวกันการใช้สมุนไพรไทยที่มีอยู่ในครัวเรือนก็ช่วยให้ร่างกายเกิดความอบอุ่นได้

ข้อมูลจาก โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ระบุถึง สมุนไพร ที่นำมาใช้สร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ใบกะเพรา กระชาย เป็นสมุนไพรที่มีรสร้อน ช่วยไล่ธาตุน้ำที่กำเริบ ไล่หวัด เพิ่มความอบอุ่นร่างกาย สามารถกินเป็นรูปแบบของอาหารในชีวิตประจำวัน

เปิดตำรับยาสมุนไพรแก้หนาว

นอกจากสมุนไพรที่เป็นพืชผักสวนครัว ที่หาซื้อหรือปลูกเองได้ง่ายแล้ว ยังมีตำรับยาสมุนไพรแก้หนาว สูตรสำคัญที่ชื่อว่า ตำรับยาปราบชมพูทวีป

ตำรับยาปราบชมพูทวีป เป็นตำรับยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ ประกอบด้วยตัวยา 23 ชนิด ส่วนใหญ่มีรสร้อน ช่วยกระจายลม ลดการกำเริบของธาตุน้ำ กระตุ้นการทำงานของไฟธาตุ เหมาะกับผู้ป่วยที่เป็นหวัดในระยะแรก อาการคัดจมูก น้ำมูกไหล แต่ไม่มีไข้ และอาการที่เกิดจากการแพ้ภูมิแพ้อากาศ ยกเว้นภูมิแพ้ที่แสดงออกทางผิวหนัง หากมีไข้อาจต้องมีการจ่ายยาสมุนไพรแก้ไข้ร่วมด้วย

มีงานวิจัยศึกษาผลการใช้ยาปราบชมพูทวีป ในการรักษาผู้ป่วยโรคหวัดภูมิแพ้ โดยให้ผู้ป่วยรับประทานยาปราบชมพูทวีปแคปซูล บรรจุแคปซูลละ 500 มิลลิกรัม รับประทานครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง ก่อนอาหารและก่อนนอน เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ติดตามผลการรักษาจากแบบบันทึกอาการของผู้ป่วยในแต่ละวัน เปรียบเทียบผลก่อนและหลังรับประทานยา พบว่าการรับประทานยาปราบชมพูทวีปวันละ 4,000 มิลลิกรัม เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ สามารถลดอาการหวัดภูมิแพ้ได้

...

สำหรับข้อห้ามการใช้ยาประกอบด้วย ผู้ที่มีอาการไข้ตัวร้อนสูง มีอาการเจ็บบริเวณไซนัส ไข้สูง น้ำมูก และเสมหะเขียว หญิงตั้งครรภ์ และเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 12 ปี ควรระวังการใช้กับผู้ป่วยโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ กระเพาะ กรดไหลย้อน เนื่องจากเป็นตำรับยารสร้อน ผู้ที่มีความผิดปกติของตับและไต

สมุนไพรไทยในครัวเรือนช่วยแก้หนาว

สูตรสมุนไพรไทยช่วยบำรุงสุขภาพช่วงเปลี่ยนผ่านฤดูฝนเข้าสู่ฤดูหนาว ที่สามารถหาซื้อได้ง่าย และปลูกกินได้เองตามครัวเรือน มีดังนี้

  • สูตรสมุนไพรที่มีขิงเป็นส่วนประกอบสำคัญ มีรสเผ็ดอุ่น ฤทธิ์แก้หวัดเย็น ขับเหงื่อ บำรุงกระเพาะ แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน ลดระดับไขมันในเลือด ขิงสด ช่วยทำให้ร่างกายปรับสภาพในภาวะที่ร่างกายมีอาการเย็นได้ เช่นเดียวกับขิงแห้ง ที่ช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียน

    มีการทดลองพบว่า น้ำขิงที่ได้จากการต้ม 30 นาที ช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวชนิดแมคโครฟาจ มีหน้าที่ในการจับกินเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ดี โดยช่วยลดอาการคัดจมูก ทางแผนไทยเป็นยาฤทธิ์ร้อน ช่วยลดน้ำมูกให้แห้งลงได้ ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงคุณค่าภูมิปัญญาเก่าแก่ในการใช้ประโยชน์จากขิง หากมีอาการของหวัดภูมิแพ้อากาศ แนะนำให้ดื่มน้ำขิงวันละแก้ว แต่ต้องระวังการดื่มน้ำขิงในปริมาณมากๆ เพราะอาจทำให้ร้อนในได้

  • สูตรสมุนไพรที่มีกะเพราเป็นส่วนประกอบสำคัญ ใบมีกลิ่นหอมฉุน เผ็ดร้อน มีฤทธิ์ต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ โดยมีผลยับยั้งเอนไซม์ของไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ ทั้งยังช่วยแก้จุกเสียด แก้ปวดท้อง แก้อาการคลื่นไส้ ช่วยย่อยอาหาร บำรุงธาตุ ขับลม แนะนำให้กินแบบชา วันละ 4-6 ใบ แช่น้ำร้อน 5-10 นาที ดื่มเพิ่มความอุ่นของร่างกาย

  • สูตรสมุนไพรที่มีตะไคร้เป็นส่วนประกอบสำคัญ มีกลิ่นหอม ใช้ทั้งต้น เป็นยาแก้โรคในท้อง ใช้รักษาไข้หวัดใหญ่ แก้ปวดหัว ปวดท้อง เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกันได้ดี ช่วยต้านอนุมูลอิสระ แก้อักเสบ และต้านไวรัสไข้หวัดได้ สามารถกินในรูปแบบน้ำตะไคร้ หรือชาตะไคร้ ประมาณ 3-4 ต้น โดยทุบให้แตก ต้มกับน้ำเปล่า 1 ลิตร ให้เดือด ประมาณ 15 นาที จากนั้นรินน้ำดื่ม จิบบ่อยๆ หรืออาจใส่ใบเตยเพิ่มความหอม ช่วยเพิ่มความอบอุ่น และยังช่วยแก้อาการน้ำมูกไหลจากหวัดได้ด้วย

    การดูแลสุขภาพในช่วงเปลี่ยนผ่านฤดู ควรดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เลี่ยงความเครียด และพยายามดูแลร่างกายให้อบอุ่น จะช่วยให้ห่างไกลจากการป่วยและพร้อมรับมือกับอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้.