• อีกคดีจากการกระทำของหนุ่มบาร์โฮสต์ ฆ่าโหดแฟนสาวชาวอำนาจเจริญ วัย 26 ปี ด้วยการทำร้ายทารุณกรรม ภายในบ้านเช่าย่านบางกอกน้อยเมื่อเดือน ก.ค. 2565 และหนีการจับกุม 4 เดือนไปกบดานในพื้นที่ จ.พัทลุง กระทั่งถูกตำรวจกองบังคับการปราบปรามจับกุมตัวไว้ได้เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2565 ตามหมายจับข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายโดยทรมานหรือกระทำทารุณโหดร้าย

  • ขณะเข้าจับกุมตัวได้พบเหยื่อสาวอีกราย อายุ 31 ปี ถูกล่อลวงผ่านทางแอปพลิเคชันหาคู่มีการพูดคุยกันเพียง 1 เดือน จึงหลงเชื่อนั่งรถไฟมาจาก จ.ลำพูน ไปหาที่ จ.พัทลุง จนมาพบกับความโหดร้ายถูกทำร้ายร่างกายอย่างทารุณและกักขังไว้ในห้องพัก ในสภาพปางตายกระดูกสันหลังหัก ดั้งจมูกหัก และซี่โครงหักหลายซี่ โชคดีที่ช่วยเหลือได้ทันก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล

  • ความโหดร้ายป่าเถื่อนที่เกิดขึ้นมาจากการกระทำของนายธนเดช หรือรุจ อายุ 27 ปี หนุ่มบาร์โฮสต์ มีประวัติเพิ่งพ้นโทษคดีฆ่าคนตายเมื่อปี 2564 จนมาก่อเหตุฆ่าแฟนสาว และกักขังทำร้ายสาวชาวลำพูน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งหญิงสาวทั้ง 2 รายรู้จักหนุ่มบาร์โฮสต์ผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ และได้รับสารภาพเป็นผู้ก่อเหตุฆ่าแฟนสาวจริง เพราะความหึงหวง แต่อ้างว่าไม่ได้ตั้งใจ

  • ผู้ต้องหารายนี้อาจจะเป็นฆาตกรต่อเนื่อง เพราะตำรวจเชื่อว่ายังมีเหยื่อสาวอีกหลายรายถูกทำร้าย และยังพบสารเสพติดสะสมในร่างกาย ซึ่งเสพยาบ้ามานานวันละ 10 เม็ด ถือเป็นบุคคลอันตรายเป็นภัยต่อสังคม จากพฤติกรรมชอบใช้ความรุนแรง โดยตำรวจยื่นคัดค้านการประกันตัว ขณะควบคุมตัวไปขออำนาจศาลฝากขังต่อศาลอาญาตลิ่งชัน เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2565

  • แม้ขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหายที่เคยตกเป็นเหยื่อของหนุ่มบาร์โฮสต์ เข้าแจ้งความเพิ่มเติมอาจเพราะไม่กล้า แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้หยุดนิ่งได้เร่งตรวจสอบขยายผล หลังพบว่ามีพฤติกรรมชอบพูดคุยผ่านแอปพลิเคชันหาคู่กับหญิงสาวอีกหลายราย มีการบอกรักจนเหยื่อหลงเชื่อยอมมาพบ ทำให้ตำรวจเชื่อว่าอาจมีเหยื่อรายอื่นถูกกระทำในลักษณะนี้อีกหลายราย

  • หนุ่มบาร์โฮสต์รายนี้ ออกจากบ้าน จ.ยะลา ตั้งแต่อายุ 14 ปี เพราะครอบครัวแตกแยก เมื่อแม่ดื่มเหล้าเมาหนักมักถูกทำร้าย ทำให้ต้องหนีมาอยู่กรุงเทพฯ เป็นเด็กเร่ร่อน กระทั่งทำงานบาร์โฮสต์ ย่านประดิพัทธ์ คลุกคลีอยู่กับยาเสพติด จนปี 2557 และ 2558 ถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติด และปี 2559 ถูกดำเนินคดีข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยใช้ปืน ถูกจำคุก 10 ปี 16 เดือน ต่อมาได้รับการลดหย่อนโทษ ก่อนพ้นโทษออกมาเมื่อเดือน ม.ค. 2564 กลับมาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟและบาร์โฮสต์ ขอเงินจากหญิงสาว นำเงินมาเล่นการพนัน

...

พฤติกรรมและการกระทำความผิดของหนุ่มบาร์โฮสต์ จะเกี่ยวข้องหรือไม่? กับปมปัญหาในวัยเด็ก “รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล” ผู้ช่วยอธิการบดีและประธานกรรมการ คณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต ได้หยิบยกข้อมูลทางวิชาการโดยระบุว่า หากเด็กและเยาวชนเติบโตมาจากครอบครัวที่มีการกระทำโดยใช้ความรุนแรง มีการถูกทุบตี ทำร้ายร่างกาย พ่อแม่แยกทางกัน และคนในครอบครัวมีการเสพสารเสพติด หรือของมึนเมา ทำให้เด็กซึมซับพฤติกรรมความรุนแรง จะไปกระทำกับคนอื่น

“หากโดนกระทำถี่ๆ ซ้ำๆ เช่น ถูกเตารีดนาบ ถูกไม้ทุบตี และเมื่อเติบโตขึ้นมาไปคบเพื่อนที่เกี่ยวข้องกับการกระทำสิ่งผิดๆ จะทำให้เรียนรู้ในการกระทำความผิด จากข้อมูลงานวิจัยเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และผลวิจัยด้านสังคมศาสตร์ ได้ยืนยันชัด ซึ่งการแก้ปัญหาทางภาครัฐโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ต้องเข้าไปดูแล เหมือนกับประเทศอังกฤษ มีหน่วยงานเข้ามาดูแลไม่ให้เด็กซึมซับพฤติกรรมกระทำความรุนแรง ในการเรียนรู้พฤติกรรมไม่ถูกต้อง และต้องมาเป็นภาระภาครัฐในด้านอื่นๆ ต้องเยียวยาผู้เสียหาย ทำให้เสียทรัพยากร เสียบุคลากร แทนที่จะเอาเวลาไปทำอย่างอื่น และทำให้เสียค่าใช้จ่าย”

กรณีของหนุ่มบาร์โฮสต์จะเข้าข่ายเป็นฆาตกรต่อเนื่องหรือไม่นั้น ต้องมีพฤติกรรมในการฆ่าผู้อื่นตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป แต่ในกรณีนี้ยังไม่แน่ใจ เพราะเคสแรกฆ่าผู้ชาย และเคสสองฆ่าแฟนสาว ส่วนเคสสาม เป็นการทำร้ายร่างกายกักขังหญิงสาว แต่อาจมีเหยื่อเพิ่มเติมโดยขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน และหากพบมีเหยื่อเสียชีวิตเพิ่มอีกตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ถือว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่อง

...

จากปมในวัยเด็กไม่ได้ทำให้เป็นฆาตกรต่อเนื่องเสมอไป แต่ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม เพราะบางคนเป็นคนดีได้แม้อยู่ในครอบครัวที่แตกแยกหย่าร้าง แต่หากถูกทำร้ายร่างกาย ขาดความรักขาดความอบอุ่น อยู่ในครอบครัวที่เสพยาหรือดื่มเหล้า จะเรียนรู้พฤติกรรมจากคนรอบข้างอาจทำให้มีพฤติกรรมก้าวร้าว ซึ่งการจะมีพฤติกรรมเป็นฆาตกรต่อเนื่องต้องเริ่มจากการฆ่าคนรายแรกก่อน และอาจมีแนวโน้มในการฆ่าคนรายต่อไป อย่างคดีของสมคิด พุ่มพวง

“ปัจจุบันมีการแก้ไขกฎหมาย หลังเกิดเคสของ สมคิด พุ่มพวง ในการแก้หลักเกณฑ์การพิจารณาลดโทษกรณีฆ่าคนอย่างทารุณโหดเหี้ยม เพื่อไม่ให้กระทำผิดซ้ำซาก ว่าเข้าเกณฑ์หนึ่งในหกหรือไม่ จะไม่ได้รับการพิจารณาลดหย่อนโทษ หรือกรณีเหตุกราดยิงหนองบัวลำภู หากผู้ก่อเหตุไม่เสียชีวิตไปเสียก่อน จะไม่ได้รับการพิจารณาลดหย่อนโทษเช่นกัน”.