กลายเป็นประเด็นหลังจากพลอย หอวัง ดาราสาวออกมาพูดถึงการเลิกรากับแฟนหนุ่ม เพราะมีมือที่ 3 4 5 ที่เข้ามาทำให้ทั้งคู่ต้องแยกทาง ซึ่งการจัดการความสัมพันธ์ในสถานะปวดร้าว อาจยากที่จะตัดสินใจ ดังนั้นจิตแพทย์จึงมีวิธีแนะนำเพื่อรักษาร่างกายและจิตใจของตัวเอง

“ผศ.นพ.ภุชงค์ เหล่ารุจิสวัสดิ์” กรรมการสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในงานของจิตแพทย์ไม่ได้ตัดสินใครว่าถูกผิด ทั้งในเชิงวัฒนธรรม หรือกฎหมาย แต่ถ้ามีความเครียดทุกข์ใจที่เกิดจากความผิดหวัง และซึมเศร้าจากปัญหาที่เกิดขึ้น ก็มาปรึกษาได้ 

ความสัมพันธ์ของคนในปัจจุบันมีวิธีคิดแตกต่างไปจากอดีต เพราะรูปแบบการใช้ชีวิตและการติดต่อสื่อสารต่างไป ปัจจุบันมีโอกาสพบเจอคู่ได้หลากหลายช่องทาง และเพศหญิงมีทางเลือกมากขึ้น สามารถทำงานเลี้ยงตัวเองได้ ไม่ต้องทน หากมีปัญหาครอบครัว หรือการแต่งงานมีบุตร อาจจะไม่สอดคล้องกับไลฟสไตล์ อีกทั้งในบางกรณี บางคู่ก็ยอมรับความสัมพันธ์ที่มากกว่าหนึ่ง โดยไม่ได้ขัดแย้งเป็นปัญหา

สำหรับชีวิตคู่ หรือจะเป็นมือที่สาม ก็เป็นการเลือกในการใช้ชีวิต บุคคลนั้นจะต้องคำนึงถึงผลกระทบ และรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นในทางเลือกความสัมพันธ์นั้นเอง ถ้าเป็นอะไรที่เดือดร้อนตัวเองและสังคม ทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง เสียทรัพย์ ทำลายสิ่งของ ทำร้ายร่างกาย ถือเป็นทางเลือกที่ไม่สร้างสรรค์

แต่ถ้าตกลงกันได้ทั้งสองฝ่าย สื่อสารกันชัดเจน เช่น เมื่อไม่อยากอยู่ด้วยกันก็หย่า มีการตกลงเรื่องทรัพย์สิน การดูแลบุตร แต่ถ้าคิดแล้วไม่อยากหย่า จะให้ค้างๆ คาๆ ไว้ ก็ต้องรับผลของทางเลือกอยู่ดี ซึ่งขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของทั้งคู่

...

“ผู้ที่คบหาหลายคน มีหลายบ้าน ถ้าเขารับผิดชอบได้ ตกลงความขัดแย้งต่อความสัมพันธ์แต่ละเส้นได้ ก็เรื่องของเขา การจะถูกจะผิดสำหรับจิตแพทย์คงไม่สำคัญเท่าความสัมพันธ์เหล่านั้นจะส่งผลกระทบทางด้านจิตใจเป็นหลัก เพราะโจทย์ในด้านการดำเนินชีวิตของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน บางคู่ไม่ได้มีมือที่สามก็ทะเลาะเบาะแว้งได้อยู่ดี”

ถ้าหากคนเข้าไปเป็นมือที่ 3 ในช่วงแรก โดยหากไม่รู้ ก็ไม่น่าถือว่าผิด แต่เมื่อรู้ว่ามีคู่ครองอยู่แล้ว ก็คงต้องเลือกเองว่าจะอยู่หรือไป ถ้าเลือกจะอยู่ ก็จะต้องยอมรับกับผลกระทบที่เกิดขึ้น เช่น ถูกมองในแง่ลบ และอาจจะมีความลำบากในการใช้ชีวิตเพิ่มขึ้น ถ้าช่างน้ำหนักในใจว่าคุ้ม ก็ทนกันไป

หากมีผลกระทบที่เกินกว่าจะรับไหว ก็อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง เพราะอาจจะเป็นเส้นทางที่ดีกว่าเดิม เพราะความถูกต้องเชิงวัฒนธรรมประเพณีมีไว้เป็นตัวอย่างที่ดีงาม จะรู้ว่าควรประพฤติอย่างไรเพื่อไม่ขัดแย้ง ไม่ใช่ไว้เพื่อวิพากษ์วิจารณ์ตัดสินบุคคลอื่นๆ สิ่งที่ห่วงคือ อยากให้สังคมลดการตัดสินคนอื่นโดยที่ไม่ได้เข้าใจหัวอกและเรื่องราวอย่างแท้จริง ลดการนำเสนอประเด็นดราม่าลง เพราะส่งผลต่อสุขภาพจิต.