สถานการณ์เดือน ต.ค.ในปี 2565 ยังไม่น่าไว้วางใจ ทั้งฝนตกหนัก ปริมาณน้ำเหนือ ภาวะน้ำทะเลหนุน และพายุลูกใหม่ ทำให้กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมหนัก อาจไม่สาหัสเท่ากับน้ำท่วมปี 2554 แต่จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน

หนทางรอดขึ้นอยู่กับการเตรียมพร้อมรับมือเท่านั้น จะสามารถบรรเทาสถานการณ์ให้ทุเลาลงได้ ในการพร่องน้ำลดระดับน้ำในคลองสายหลักของเมืองกรุง และเตรียมกระสอบทรายในจุดฟันหลอ เพราะปีนี้จะประมาทไม่ได้จากปริมาณน้ำฝนสะสมที่สูงกว่าปีที่ผ่านมา และหย่อมความกดอากาศต่ำ อาจพัฒนามาเป็นพายุก็ได้ ใครจะไปรู้ได้

น้ำท่วมชุมชนท่าอิฐ จ.นนทบุรี
น้ำท่วมชุมชนท่าอิฐ จ.นนทบุรี

อีกทั้งให้ระวังน้ำท่วมไปจนถึงช่วงก่อนลอยกระทง จากคำเตือนของ "รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์" ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต ระบุว่า เคยออกมาบอกปลายปีนี้จะเกิดน้ำท่วมช่วงก่อนลอยกระทง และสิ่งที่เตือนไปอยากชี้แจงว่าเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อม จนในที่สุดเกิดขึ้นจริงๆ แต่ก่อนหน้าโดนด่าฟรีว่าเป็นต้นเหตุทำให้คนตื่นตระหนก ทั้งๆ ที่เป็นข้อมูลตามหลักวิทยาศาสตร์ และสัญญาณที่เกิดขึ้นในเดือนต.ค.ไม่สามารถไว้ใจได้ จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ภาคเหนือ อีสาน ตะวันออก และกลาง รวมถึงกรุงเทพฯ ส่วนภาคใต้จะได้รับผลกระทบหนักในเดือน พ.ย.

...

“เกือบทุกภาคโดนหมด จากร่องมรสุมมีกำลังแรงมากในหลายพื้นที่ จนเกิดหย่อมความกดอากาศต่ำ ทำให้เกิดฝนตกหนัก อาจพัฒนาเป็นพายุก็ได้ในช่วงระหว่างวันที่ 18-19 ต.ค. จะต้องติดตามรอดูช่วงวันที่ 12-13 ต.ค. อีกครั้ง ว่าจะก่อเป็นพายุหรือไม่ และจะเคลื่อนไปทิศทางใด เป็นห่วงภาคใต้จะหนักมากในเดือนหน้า เพราะเจอลานีญาจะยิ่งหนัก แต่ขณะนี้ไม่สามารถบอกได้จะเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ตอนกลาง หรือตอนบน”

จากนี้ต่อไปฝนจะยังคงตกหนัก เพราะร่องมรสุมยังพาดอยู่ทำให้สถานการณ์จะยืดเยื้อ อีกทั้งขณะนี้มีการระบายน้ำเพิ่มมากขึ้น ในอัตราที่มากกว่าปี 2554 แม้ปริมาณน้ำจะน้อยกว่าก็ตาม แต่ได้ทำลายคันกั้นน้ำจนพังเสียหาย จนน้ำไหลทะลักเข้าท่วมหลายพื้นที่ และหากไม่เพิ่มการระบายน้ำก็จะกระทบหนักเช่นกัน เนื่องจากน้ำเหนือจะมีปริมาณมากทำให้เขื่อนเจ้าพระยาจะมีปริมาณน้ำสูงสุดในช่วงวันที่ 7-8 ต.ค. อีกทั้งน้ำทะเลจะหนุนในกลางเดือน ต.ค. และปลายเดือน ต.ค.นี้ จะต้องเตรียมพร้อมรองรับไม่ให้เกิดผลกระทบหนัก

สิ่งที่น่าจับตาในขณะนี้ เมื่อกรมชลประทานปรับเพิ่มการระบายน้ำในเขื่อนเจ้าพระยา อัตรา 2,700-2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อรับมือน้ำเหนือ และควบคุมน้ำในเขื่อนป่าสัก โดยปรับเพิ่มจากอัตรา 600 เป็น 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้น้ำในแม่น้ำป่าสักไหลผ่านเขื่อนพระราม 6 ใน อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นสูงและไหลรวมลงแม่น้ำเจ้าพระยา จนน้ำหน่วงเข้าพื้นที่อ.บางระกำ และผ่านเข้า อ.บางบาล

เตรียมกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วม
เตรียมกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วม

“คิดว่าน้ำที่ไหลมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำป่าสัก จะเริ่มถึงระดับวิกฤติมากขึ้น มีปริมาณน้ำไหลประมาณ 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรืออาจจะมากกว่า ทำให้พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จะประมาทไม่ได้ให้ระวังช่วงกลางเดือนและปลายเดือน ต.ค.นี้ โดยเฉพาะนนทบุรี บริเวณพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ และจุดฟันหลอ ซึ่งสิ่งที่ออกมาพูด เพื่อให้เตรียมพร้อม ไม่ได้ให้คนตกใจ อย่างที่ก่อนหน้านั้นเคยออกมาเตือนนานแล้ว จนถูกต่อว่า และพอตอนนี้เกิดน้ำท่วมใหญ่มาก ก็ไม่มีใครพูดถึงผมเลย ทำให้เกิดความรู้สึกไม่อยากออกมาเปิดเผยข้อมูลอีกต่อไป”.

ปริมาณน้ำในเขื่อนเจ้าพระยา
ปริมาณน้ำในเขื่อนเจ้าพระยา

...