กลายเป็นเรื่องราวสยองขวัญ เมื่อหญิงที่พักอาศัยอยู่ในห้องพักชั้น 3 พบคราบน้ำเหลืองไหลซึมลงมาจากเพดานชั้นบน เหตุเกิดในพื้นที่ ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ ห้องเกิดเหตุพบร่างชายวัย 37 ปี คาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ส่วนหญิงห้องชั้นล่างยังผวานอนไม่หลับ แม้ต้องเปิดคลิปวิดีโอฟังธรรมะ แต่ยืนยันไม่ย้ายหนี ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำสิ่งผิดปกติ หากเกิดเหตุลักษณะเดียวกันในตึกที่พักอาศัย โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ

เหตุการณ์นี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบห้องพักที่เกิดเหตุ เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2565 ช่วงเวลากลางดึก ได้รับแจ้งจากผู้ดูแลตึกว่ามีผู้เสียชีวิตในห้องพักเพียงลำพัง โดยผู้พักอาศัยอยู่ชั้นล่างของห้องเกิดเหตุคือ หญิงอายุ 49 ปี แจ้งว่า มีคราบน้ำไหลลงมาจากห้องชั้นบน เบื้องต้นสันนิษฐานว่า ผู้อาศัยชั้นบนอาจทำน้ำปลาร้าหกลงพื้น เพราะมีกลิ่นเหม็นปนมากับน้ำที่ไหลลงมาจากเพดาน

แต่เมื่อตรวจสอบห้องพักชั้นบน พบประตูล็อกจากด้านใน เจ้าหน้าที่จึงงัดเพื่อเปิดประตู จนพบร่างชายผู้เสียชีวิตนอนขึ้นอืดมาแล้วกว่า 3 วัน ภายในห้องไม่มีร่องรอยการต่อสู้ แต่ข้างศพพบยาเสพติดและอุปกรณ์ คาดว่าเป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิต และจากการสอบถามผู้พักอาศัยห้องข้างเคียง ไม่พบว่ามีความผิดปกติ

สำหรับหญิงในห้องพักชั้นล่างที่เกิดเหตุ เชื่อว่าผู้ตายต้องการจะสื่อสารกับตนเพื่อให้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ เพราะก่อนหน้านี้กลางดึกมีเสียงของหล่นจากห้องชั้นบน ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อมีคราบเลือดและน้ำหนองไหลหยดย้อยมาจากเพดานห้อง จึงถ่ายคลิปวิดีโอขณะน้ำค่อยๆ หยดลงมาให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยดู จนลงความเห็นว่าอาจมีผู้เสียชีวิตในห้องชั้นบน เพราะเคยเกิดเหตุลักษณะนี้มาแล้ว

...

นักนิติเวชศาสตร์ แนะนำความผิดปกติหากมีผู้เสียชีวิตในตึก

“รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี” อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ อธิบายเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวให้กับ “ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์” ว่า การเสียชีวิตเพียงลำพังในห้องพัก และมีคราบน้ำเหลืองไหลลงมาชั้นล่างผ่านรอยแยกของพื้นห้อง ไม่ใช่รายแรกที่เกิดขึ้น แต่เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายเหตุการณ์ โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่หลายคนใช้ชีวิตลำพัง

ปกติการเน่าของศพเกิดขึ้นหลังการเสียชีวิต 48 ชั่วโมง โดยระบบการไหลเวียนของเลือดภายในร่างกายจะหยุดลง จนทำให้ผิวหนังและอวัยวะในร่างกายเกิดการบวมอืด และเมื่อผ่านไป 4 วัน จะเกิดการเน่าของศพในระยะแรก ที่มีตุ่มหนองลักษณะคล้ายแผลพุพองเกิดขึ้นบริเวณผิวหนัง และหลังจากนั้นจะแตกออก ทำให้น้ำที่อยู่ในตุ่มไหลออกมาภายนอก ช่วงเวลานี้ส่งกลิ่นเหม็นไปรอบบริเวณ เลยทำให้พบศพผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ในช่วงเวลานี้

“ลักษณะการเน่าของศพ มีด้วยกัน 2 ลักษณะ คือ แบบแรกเป็นลักษณะปกติ มีการอืดบวมเหมือนเหตุการณ์ในข่าว กับอีกแบบเรียกว่า แบบเน่าแห้ง โดยสภาพศพจะไม่มีลักษณะบวมอืด แต่จะแห้งเหมือนกับสภาพศพของพระเกจิหลายท่าน ซึ่งมีปัจจัยมาจากสภาพอากาศที่เหมาะสมทางวิทยาศาสตร์”

การสังเกตหากเกิดเหตุไม่คาดฝันลักษณะดังกล่าว ผู้พักอาศัยควรตรวจสอบหากลิ่นเหม็นภายในอาคาร หรือแจ้งผู้ดูแลอาคารให้ตรวจสอบทันที ขณะที่ผู้อาศัยในอาคารจะต้องแจ้งผู้ดูแลตึก หากมีน้ำไหลลงมาจากชั้นบน โดยเฉพาะน้ำที่มีคราบและส่งกลิ่นเหม็น

สำหรับการทำความสะอาดคราบดังกล่าว ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดทั่วไป และเปิดห้องให้มีอากาศถ่ายเท เพียงเท่านี้ก็สามารถฆ่าเชื้อโรคที่มากับน้ำเหลืองของศพได้ แต่สิ่งที่น่าห่วงกว่านั้นคือ สภาพจิตใจของผู้ที่อยู่ในห้องชั้นล่าง เพราะหลายคนอาจเกิดความวิตกกังวล ซึ่งกรณีดังกล่าวหญิงผู้อาศัยอยู่ชั้นล่าง ยังถือว่ามีจิตใจที่เข้มแข็งมาก

อีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยไม่ให้เกิดเหตุร้ายลักษณะนี้ ผู้ที่อาศัยอยู่ภายในตึกเดียวกันควรช่วยกันสอดส่อง หากพบสิ่งผิดปกติ ควรแจ้งผู้ดูแลตึกทันที เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ประสบเหตุได้ทันเวลา และเป็นการสร้างชุมชนให้มีความเข้มแข็งมากขึ้นด้วย.