ภาพคลิปวิดีโอ ‘แม็ค อนุสาวรีย์’ บุกปล้นบ่อนในซอยประชาสงเคราะห์ 8 กลางเมืองกรุงเทพฯ เย้ยอำนาจรัฐ แม้ก่อนหน้านี้มีการกวาดล้างบ่อนทั่วกรุง แต่พอเรื่องเงียบกลับมาเปิดต้อนรับนักพนันใหม่อีกครั้ง ซึ่งเหตุความรุนแรงจากความขัดแย้งภายในบ่อนไม่ใช่ครั้งแรก เพราะเมื่อปี 2563 เคยเกิดเหตุยิงนายตำรวจในบ่อนพระราม 3 เหตุการณ์ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 4 ศพ

แต่เหตุการณ์บุกปล้นภายในบ่อนย่านดินแดงล่าสุดของ ‘แม็ค อนุสาวรีย์’ มีการให้ข้อมูลว่า บ่อนดังกล่าวเปิดให้เล่นพนันมาแล้ว 2-3 ปี ผู้ก่อเหตุเป็นนักพนันขาประจำ แรงจูงใจก่อเหตุเกิดจากการเข้าไปเล่นพนันกำถั่ว เล่นเสียจนต้องนำรถมอเตอร์ไซค์ไปจำนำกับทางบ่อน โดยก่อนวันเกิดเหตุ เจ้าตัวพยายามไปขอกุญแจรถมอเตอร์ไซค์คืน แต่คนคุมบ่อนไม่ยอมให้ สุดท้ายเกิดความโมโหเลยนำปืนบุกเข้าไปภายในบ่อน เพื่อเอากุญแจรถมอเตอร์ไซค์คืนมาให้ได้

“แม็ค อนุสาวรีย์” อ้างว่า ปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนบีบีกัน ตอนแรกจะบุกไปเอาแค่กุญแจรถคืน แต่พอเห็นเงินอยู่บนโต๊ะพนันเลยหยิบมาด้วยราวสองแสนบาท การบุกปล้นครั้งนี้ไม่มีการขัดขืนจากคนคุมบ่อนและนักพนัน หลังมีคลิปเผยแพร่บนโลกโซเชียล มีคำสั่งจากผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ย้ายนายตำรวจ 5 นาย ในพื้นที่ สน.ดินแดง และมีการตั้งคณะกรรมสอบสวนต่อไป

“ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” อดีตนักการเมืองและนักธุรกิจชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “บ่อนไม่มี ก็ปล้นบ่อนเย้ยโชว์ แทนปล้นร้านทอง พื้นที่ สน.ดินแดง มีม็อบมาก วุ่นวาย ค่าใช้จ่ายสูง ผู้ใหญ่เลยไฟเขียว มัวแต่ห่วงนายกฯ จะตกกระป๋องไหม เลยทำหลับหูหลับตา บ่อนของ “นายเปี๊ยก ตองแปด” เจ้าเก่า มีทั้งถั่ว ไฮโล โปปั่น ซึ่งชาวแฟลตดินแดงครื้นเครง หนวกหูม็อบ เลยเปิดให้เล่นสบายใจเฉิบ พวกเล่นเสียเยอะ หงุดหงิด เลยปล้น ส่วนบ่อนจีนแถวห้วยขวาง บ่อนไทยแถวดินแดง แบ่งเขตหากินกันไม่เกรงใจใคร”

...

“ส่วย” ต้นตอบ่อนกลางกรุง ปราบไม่มีหมด

“ส่วย” เป็นต้นตอสำคัญของบ่อนกลางกรุง ที่ยังไม่สามารถแก้ได้ โดย “พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร” เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เปิดเผยกับ “ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์” ว่า เหตุปล้นบ่อนย่านดินแดง มีลักษณะคล้ายการเกิดความรุนแรงในบ่อนย่านพระราม 3 แต่เหตุการณ์ล่าสุดโชคดีที่ไม่มีการต่อสู้จากคนที่คุมบ่อน ซึ่งต้นเหตุของความรุนแรงเกิดจากความไม่พอใจของนักพนัน

“ถ้าไม่เกิดความรุนแรงจนมีคลิปออกมา ก็ไม่มีใครรู้ว่ามีการแอบเปิดบ่อนกลางใจเมือง ซึ่งส่วยเป็นปัจจัยสำคัญทำให้ยังมีบ่อนอยู่หลายพื้นที่ ยิ่งช่วงนี้โควิดเริ่มซา บ่อนหลายแห่งกลับมาเปิดกันมากขึ้น และมีแนวโน้มว่าส่วยจากบ่อนจะมีรายได้ดีกว่าส่วยจากสถานบันเทิง”

บ่อนย่านดินแดงที่เกิดเรื่อง แม้ไม่ใช่บ่อนใหญ่ แต่เป็นบ่อนที่เปิดให้นักพนันเข้าไปเล่นเป็นประจำ ถึงจะมีกระแสข่าวว่าเป็นบ่อนวิ่ง แต่ปกติการเปิดบ่อนได้เจ้าหน้าที่ในท้องที่ต้องรับเงิน กรณีนี้น่าจะมีการรับเงินมานาน และเจ้าของบ่อนมีความคุ้นเคยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ปกติเจ้าของบ่อนส่วนใหญ่ไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล แต่เป็นคนที่มีเงินและรู้จักกับนายตำรวจใหญ่ สามารถเคลียร์กับตำรวจได้ทุกหน่วย และถ้าเป็นบ่อนขนาดใหญ่มีการจ่ายส่วยให้กับเจ้าหน้าที่เดือนละหลายล้านบาท

การทำงานของขบวนการเก็บส่วยของบ่อน เจ้าหน้าที่จะได้ไม่ไปเก็บเงินเอง แต่มีตัวแทนเก็บเงินมาส่งให้ เพื่อป้องกันการถูกจับกุม ซึ่งการจับกุมบ่อนหลายครั้งที่ผ่านมาจะเห็นว่า ผู้ต้องหาและนักพนันถูกจับกุมไม่นานก็ถูกปล่อยตัว เพราะมีกระบวนการช่วยเหลือกัน เลยทำให้ผู้ที่กระทำผิดไม่เกรงกลัวกฎหมาย

กรณีการบุกปล้นบ่อนย่านดินแดง แม้ไม่มีการแจ้งความ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถดำเนินคดีได้ทันที ในฐานความผิดชิงทรัพย์ และเปิดให้เล่นบ่อนการพนัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องลงไปตรวจสอบกับเจ้าของสถานที่ เพื่อสืบหาความจริง

“การปราบปรามบ่อนการพนัน ถ้าตำรวจทำงานอย่างจริงจัง ไม่รับส่วยก็จะไม่มีบ่อนในพื้นที่ แต่ที่ผ่านมาพอมีเงินมาให้ก็เปิดบ่อนในพื้นที่ได้ และสุดท้ายทำให้เกิดปัญหาอาชญากรรมตามมา อย่างที่เห็นในบ่อนย่านดินแดง และเหตุการณ์ทำร้ายกันจนมีผู้เสียชีวิตในบ่อนพระราม 3”