ใครกล้าล้วงคองูเห่าเข้ามาเขตทหาร อาศัยช่วงวันหยุดยาวย่องมาขโมยพญาคชสีห์ราชเสนีย์พิทักษ์ เนื้อโลหะสีดำ ความสูงประมาณ 10 นิ้ว ยาว 8 นิ้ว ประดับอยู่ในซุ้มด้านหน้าฝั่งซ้ายบริเวณทางเข้าอาคารสำนักงานสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ กระทรวงกลาโหม ภายในเมืองทองธานี ถนนแจ้งวัฒนะ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ส่วนพญาคชสีห์สยามปฐพีพิทักษ์ ประดับอยู่ฝั่งขวาคู่กัน ไม่ถูกขโมยไป

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความน่าสงสัยว่าเหตุใด จึงเลือกขโมยเฉพาะองค์พญาคชสีห์ราชเสนีพิทักษ์ ซึ่งเพิ่งอัญเชิญมาประดับเมื่อปี 2564 แทนองค์เดิม พร้อมกับองค์พญาคชสีห์สยามปฐพีพิทักษ์ ซึ่งทั้งสององค์จำลองจากองค์จริงตั้งอยู่บริเวณทางเข้าออกกระทรวงกลาโหม หรือจะเกี่ยวกับความเชื่ออะไรบางอย่าง จนมีใบสั่งเจาะจงให้ขโมยมาให้ได้ หรือนักสะสมบางคนต้องการครอบครองเป็นเจ้าของเท่านั้น ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม แต่ไม่น่าพ้นมือตำรวจในการไล่ล่าติดตามจับกุม จากการแกะรอยจากกล้องวงจรปิด

...

“พญาคชสีห์” สัญลักษณ์กระทรวงกลาโหม และสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์การทหารไทย แสดงออกถึงความจงรักภักดี ในการถวายปกป้องพระราชวงศ์จักรี และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของเหล่าทหารหาญ เนื่องจาก “พญาคชสีห์” เป็นสัตว์ในเทพนิยาย ผสมระหว่างราชสีห์กับช้าง หรือคช และสมัยโบราณถือว่าคชสีห์ เป็นเครื่องหมายแทนทหาร รวมทั้งตราประจำตำแหน่งของสมุหกลาโหม และคติไทยถือว่าช้างเป็นสัตว์ประจำชาติ ใช้ในราชการสงคราม ดังนั้นคชสีห์ จึง หมายถึงทหารออกศึกสงคราม ซึ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยา ทั้งพลเรือนและทหาร ต้องถูกเกณฑ์ไปราชการสงคราม

ในปี 2549 มีการริเริ่มจัดสร้าง “พญาคชสีห์” เพื่อเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ในวันที่ 9 มิ.ย. 2549 และในโอกาสครบรอบ 120 ปี กระทรวงกลาโหม จากแนวคิดของพล.อ.สิริชัย ธัญญสิริ ปลัดกระทรวงกลาโหมในขณะนั้น นำมาประดับบริเวณทางเข้าออกกระทรวงกลาโหม โดยพระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา ซึ่งดูแลในเรื่องพิธีกรรมทางศาสนา เป็นผู้ตั้งชื่อพญาคชสีห์ ทั้งสององค์

องค์ที่ตั้งทางประตูด้านทิศเหนือ ชื่อ พญาคชสีห์ราชเสนีพิทักษ์ หมายความว่าเป็นทหารพิทักษ์พระราชา ซึ่งความหมายรวมคือเราจะพิทักษ์ประเทศชาติและราชบัลลังก์ และองค์ที่ตั้งทางประตูด้านทิศใต้ ชื่อพญาคชสีห์สยามปฐพีพิทักษ์ หมายความว่าพิทักษ์แผ่นดินไทย ทั้ง 2 องค์ทำด้วย เนื้อโลหะบรอนซ์ (สัมฤทธิ์) สูง 120 เซนติเมตร ลักษณะยืน 4 เท้ามั่นคง และเท้าหลังย่างไปข้างหน้า เปรียบเสมือนการก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ซึ่งมีพิธีพุทธาภิเษกเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2549 และวันที่ 4 มิ.ย. 2549 เวลา 10.30 น. มีพิธีเปิดแพรคลุมป้ายอย่างเป็นทางการ

...

ตามตำรากล่าวว่า คชสีห์ เป็นหนึ่งในสัตว์มหัศจรรย์ของป่าหิมพานต์ มีกายเป็นสิงห์ มีหัวเป็นช้าง มีพลังเทียบเท่าช้างและสิงห์รวมกัน จึงเป็นสัตว์ที่น่าเกรงขาม และยังเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจ ตบะ และเดชะ เป็นที่น่าเกรงขาม มีการใช้รูปของคชสีห์และราชสีห์ เป็นพระราชลัญจกรของพระมหากษัตริย์ในอดีตของไทยมาอย่างยาวนาน นอกจากนั้นในกองทัพไทยตั้งแต่โบราณ มีการใช้ตราคชสีห์และราชสีห์เป็นเครื่องหมาย บ่งบอกถึงความมีอำนาจและน่าเกรงขาม จนถึงปัจจุบัน.