การค้นพบตุ๊กตาหินโบราณ ภายในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง หรือ วัดพระแก้ว ที่มีการบูรณะ และบางส่วนนำมาตั้งไว้ในตำแหน่งเดิมตามภาพถ่ายที่มีบันทึกไว้เป็นหลักฐานเชิงประวัติศาสตร์ ได้สร้างความสนใจให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาชื่นชมความสมบูรณ์ของประติมากรรมที่ถูกฝังไว้ใต้ดินมายาวนาน
นอกจากนี้จากการสืบค้นข้อมูลประวัติศาสตร์ โดยนักวิชาการหลายคน ยังพบหลักฐานภาพถ่ายเก่า สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ปรากฏประติมากรรมตุ๊กตาหินโบราณชุดดังกล่าว ตั้งอยู่ภายในวัดพระแก้ว ก่อนมีการโยกย้ายในเวลาต่อมา
สำหรับประติมากรรมตุ๊กตาหินโบราณ ที่นำมาจัดแสดงภายในวัดพระแก้ว รวมกว่าร้อยตัว มีการระบุไว้ในเว็บไซต์ สำนักพระราชวังว่า มีการค้นพบระหว่างปรับปรุงเส้นทางเข้าชมบริเวณประตูมณีนพรัตน์ ไปยังประตูสวัสดิโสภา ช่วงเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2564 โดยค้นพบประติมากรรมรูปบุคคลหลากหลายเชื้อชาติ และสัตว์ในเทพนิยาย ขณะเดียวกันยังพบจารึกบนประติมากรรมหินสลักบางตัว ระบุเป็นภาษาจีน ว่าทำที่มณฑลกวางตุ้ง มณฑลกวางโจว
...
ปัจจัยสภาพอากาศใต้ดินรักษาตุ๊กตาหินโบราณ
ความสมบูรณ์ของตุ๊กตาหินโบราณ ที่ขุดค้นพบส่วนหนึ่งเกิดจากการถูกฝังไว้ใต้ดิน “ดร.ทนงศักดิ์ หาญวงษ์” นักวิชาการอิสระผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดี ให้ความเห็นว่า โบราณวัตถุที่ขุดค้นพบเป็นของเดิม 100 เปอร์เซ็นต์ จากการสอบถามหน่วยงานที่ร่วมบูรณะพบหุ่นหรือตุ๊กตาหินโบราณส่วนใหญ่มีความสมบูรณ์ เพราะถูกรบกวนจากสภาพอากาศน้อย ประกอบกับพื้นที่ภายในวัดพระแก้ว ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงของสิ่งปลูกสร้าง ทำให้โบราณวัตถุที่ฝังไว้ใต้ดินมีความสมบูรณ์
“ที่ผ่านมาจะเห็นโบราณวัตถุที่มีความสมบูรณ์ หากพื้นที่นั้นมีการรบกวนจากสภาพอากาศน้อย เช่น แดด ลม ฝน ประกอบกับหินอ่อนมีความคงทนไม่แตกหักง่าย แต่ก็น่าจะมีหุ่นบางตัวที่ต้องได้รับการบูรณะเพิ่มเติมหลังจากนี้”
จากการประเมินพบว่า ตุ๊กตาหินโบราณเป็นฝีมือช่างชาวจีนแกะสลัก ซึ่งมีการร่างแบบจากไทยส่งไปให้ เพื่อประดับตกแต่งในวัดพระแก้ว เห็นได้จากใบหน้าของหุ่นส่วนใหญ่มีลักษณะเหมือนชาวจีน เนื่องจากช่างจีนโบราณมีความชำนาญการแกะหินรูปเทพต่างๆ พอต้องมาแกะสลักหุ่นที่มีใบหน้าฝรั่ง ผลงานที่ออกมาเลยไม่ค่อยสมส่วน แต่ยังคงทิ้งลวดลายเอกลักษณ์ไว้เช่น ชายผ้าที่มีความพลิ้วไหวแบบเทพเจ้าจีน
“อดีตที่ผ่านมาเคยมีการสั่งทำเครื่องเบญจรงค์จากจีน โดยช่างไทยออกแบบลวดลายไปให้ แต่เมื่อเสร็จแล้วส่งกลับมา ลวดลายบนเครื่องเบญจรงค์กลับผิดเพี้ยน เพราะช่างจีนยังติดกับเอกลักษณ์ของตนเอง ทำให้งานที่ออกมาไม่ตรงกับความต้องการของเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งหุ่นชุดนี้น่าจะมีการจัดสร้างในลักษณะเดียวกัน”
ถ้ามองย้อนไปในประวัติศาสตร์ ทำให้เห็นถึงลักษณะเครื่องแต่งกายของหุ่นแต่ละตัว ที่สะท้อนภาพวิถีชีวิตของชาวสยามและชาวต่างชาติที่มาติดต่อค้าขายในยุคนั้น ซึ่งที่ผ่านมามักจะเห็นงานแกะสลักรูปคนและเทพต่างๆ ด้วยหินแกรนิต เช่น ตุ๊กตาจีนภายในวัดโพธิ์ การค้นพบประติมากรรมหินอ่อนครั้งนี้ จึงสะท้อนถึงความรุ่งเรืองด้านศิลปะของสยามที่มีการติดต่อค้าขายกับจีนมาอย่างยาวนาน
การค้นพบจิ๊กซอว์ประวัติศาสตร์ไทย
“จุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา” ผู้ศึกษาด้านประวัติศาสตร์ให้ความเห็นสอดคล้องกันว่า จากข้อมูลประวัติศาสตร์และภาพถ่ายที่ปรากฏคาดว่า ตุ๊กตาหินโบราณมีการสั่งทำและนำเข้ามาจากประเทศจีน เพื่อนำมาประดับตกแต่งในวัดพระแก้ว อันแสดงถึงสถานะทางสังคมและให้ประชาชนในยุคนั้นได้เรียนรู้ถึงการแต่งกายของชาวต่างชาติที่มาติดต่อค้าขาย
จากข้อมูลคาดว่าตุ๊กตาหินโบราณชุดนี้สั่งเข้ามาราวปี พ.ศ.2425 ช่วงที่มีการสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 100 ปี เป็นงานใหญ่ที่ชาวสยามต้องการแสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งของประเทศ และเป็นความนิยมของชนชั้นสูงในยุคนั้น ซึ่งต่อมาในช่วงสมัยรัชกาลที่ 7 ตุ๊กตาหินโบราณดังกล่าวไม่ปรากฏให้เห็นในภาพถ่ายโบราณ โดยคาดว่าเมื่อสภาพสังคมเปลี่ยนแปลง ความนิยมรูปแบบเดิมก็ค่อยๆ ลดลง จนอาจเป็นที่มาทำให้หุ่นชุดนี้ถูกฝังดินไว้ และมีการขุดค้นพบอีกครั้งในปัจจุบัน
“ตุ๊กตาหินโบราณเป็นเหมือนจิ๊กซอว์ที่เชื่อมต่อโลกอดีต ทำให้คนที่สนใจประวัติศาสตร์ ได้เห็นถึงการแต่งกายของคนโบราณ ขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีการเชื่อมต่อกับสังคมโลก ทั้งทางด้านศิลปะและการค้าขาย โดยเฉพาะนักศึกษาด้านศิลปะจะได้เห็นฝีมือของช่างโบราณ ที่แตกต่างจากงานแกะสลักหินที่เคยเห็นตามวัดอื่นๆ”
...
สำหรับอนาคตคาดว่าจะมีตุ๊กตาหินโบราณที่นำมาจัดแสดงเพิ่มขึ้น จึงอยากให้มีการศึกษาข้อมูลเชิงลึกถึงการแต่งกายของหุ่นแต่ละตัว รวมถึงแนวทางการบูรณะที่ผ่านมา เพื่อให้คนรุ่นใหม่ที่สนใจได้ศึกษาและเก็บข้อมูลนำไปต่อยอดด้านอื่นต่อไป.