กรณีแม่พาลูกสาววัย 9 ขวบ ไปขายบริการจนมีคลิปฉาวว่อนโซเชียล เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตามจับกุมแม่และชายที่ซื้อบริการทางเพศ โดยทำการสอบสวนพบว่า แม่เป็นผู้ถ่ายคลิปฉาว ขณะลูกถูกกระทำชำเรา จากนั้นมีการนำคลิปไปขายต่อให้กับคนที่สนใจบนโลกโซเชียล ก่อนจะมีการจับกุมตัว และเตรียมขยายผลลงโทษคนที่ซื้อคลิปโป๊
หลังการจับกุมแม่คนดังกล่าวได้ให้ข้อมูลว่า คลิปอนาจารถ่ายไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว หลังฝ่ายชายนัดให้ไปหาที่โรงแรม ก่อนจะมีการกระทำชำเราลูกวัย 9 ปี โดยแม่ไม่สามารถขัดขืนได้ และหลังจากถ่ายคลิปแล้ว ได้นำไปปล่อยขายบนโลกโซเชียลให้กับผู้ที่สนใจ ทางตำรวจได้ตรวจสอบพบว่าแม่มีการขายคลิปของตนเองและลูก จึงยังไม่ปักใจเชื่อว่ามีการกระทำเพียงครั้งแรก
การค้าประเวณีเด็กโดยมีบุคคลในครอบครัวเป็นผู้จัดหา ยังมีอีกหลายกรณีจากการบอกของ “ชลีรัตน์ แสงสุวรรณ” ผู้ประสานงานมูลนิธิพิทักษ์สตรี ซึ่งลงพื้นที่พร้อมกับทีมงานเข้าไปช่วยเหลือ เพราะมีเด็กบางคนถูกทิ้งให้อยู่กับญาติ และถูกคนใกล้ชิดในครอบครัวพาเด็กไปขายตัว เหยื่อส่วนใหญ่มีอายุ 12 ปี ขึ้นไป ตัวอย่างเช่นรายล่าสุด เด็กมีภาวะพิการซ้ำซ้อนถูกญาติพาไปขายตัวให้กับคนแปลกหน้า
“การพาเด็กไปขายตัวโดยคนในครอบครัวยังมีให้เห็น เพราะบางคนมองว่าเป็นการหาเงินง่าย ยิ่งปัจจุบันมีการติดต่อซื้อขายกันผ่านโลกออนไลน์ทำให้สะดวก ซึ่งเด็กผู้ชายก็ถูกล่วงละเมิดทางเพศมากขึ้นด้วย”
เด็กที่เป็นเหยื่อมักมีปัญหาครอบครัว จนสุดท้ายต้องหลุดออกจากระบบการศึกษาและเข้าสู่เส้นทางค้าประเวณี ซึ่งจะมีกลุ่มคนที่คอยแสวงหาผลประโยชน์กับเด็กเหล่านี้ เช่น เด็กสาววัย 15 ปี ออกมาค้าบริการจะมีคนที่คอยหักค่าหัวคิวถึง 3 คน ทำให้เด็กได้รับเงินจากการค้าบริการน้อย และต้องเร่งทำรอบเพื่อให้ได้เงินมากขึ้น ขณะที่เด็กหลายรายจะรวมกลุ่มกัน เพื่อรับงานเองมากขึ้น
...
จังหวัดที่มีการค้าประเวณีเด็กเป็นจำนวนมากจะกระจายอยู่ในพื้นที่ปริมณฑล โดยการค้าบริการแต่ละครั้งอยู่ที่ 500-3,500 บาท ตัวอย่างเช่นเด็กผู้หญิงอายุ 12 ปี ขายบริการครั้งละ 500 บาท จะแอบมีเพศสัมพันธ์กับลูกค้าภายในวัด เพื่อประหยัดค่าเช่าห้อง
สำหรับการแก้ปัญหาต้องเริ่มจากการให้สวัสดิการครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยว 3,000-5,000 บาทต่อเดือน เพื่อให้ดูแลบุตรได้อย่างสบาย และป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์จากเด็ก ซึ่งยุโรปมีการจ่ายสวัสดิการประเภทนี้เพื่อลดปัญหาครอบครัวที่จะเกิดขึ้น
กฎหมายลงโทษหนัก แม่พาลูก 9 ขวบ ค้ากาม
สำหรับโทษทางกฎหมายล่วงละเมิดทางเพศกับเด็กที่อายุต่ำกว่า 13 ปี จะมีโทษความผิดรุนแรง ซึ่ง “ดร.ปราโมทย์ เสริมศีลธรรม” อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายให้ “ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์” ว่า กรณีการล่วงละเมิดทางเพศเด็กอายุ 9 ขวบ แม่มีความผิดหนักที่สุด เพราะเป็นธุระจัดหาเพื่อการค้าประเวณี และยังมีการกระทำความผิดตามกฎหมายการค้ามนุษย์
แม้แม่จะอ้างถึงความยากจนในการนำลูกไปค้าประเวณี แต่ไม่ใช่เหตุผลที่จะเป็นการลดโทษในเชิงกฎหมาย โดยแม่ต้องได้รับโทษตามกฎหมายค้ามนุษย์จำคุกตั้งแต่ 4-12 ปี ส่วนโทษฐานความผิดในการจัดหาเพื่อค้าประเวณี ถ้าเหยื่อมีอายุมากกว่า 15 ปี จะต้องได้รับโทษ 1-10 ปี แต่กรณีนี้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี มีโทษจำคุก 5-20 ปี
“การกระทำผิดของแม่รายนี้จะต้องได้รับโทษจำคุกขั้นต่ำ 5 ปี เพราะตามกฎหมายกำหนดว่า ถ้ามีการจัดหาเพื่อค้าประเวณีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จะต้องได้รับโทษขั้นต่ำ ส่วนผู้ที่ซื้อบริการจะผิดฐานกระทำชำเราเด็ก และรายนี้เด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี ต้องได้รับโทษจำคุก 7-20 ปี แต่ถ้าเด็กอายุไม่ถึง 15 ปี จะต้องรับโทษจำคุก 5-20 ปี”
ขณะที่คนถ่ายคลิปมีโทษฐานเผยแพร่สื่ออนาจาร จำคุกไม่เกิน 5 ปี แต่ที่หนักกว่านั้น คนที่ส่งหรือเผยแพร่คลิปต่อมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ถือเป็นโทษที่หนักเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการส่งเสริมการผลิตคลิปอนาจารเด็ก ซึ่งถ้าค้นเจอในเครื่องคอมพิวเตอร์หรือมือถือจะมีความผิด ดังนั้นผู้ที่ชอบสะสมมีคลิปอนาจารเด็กเก็บไว้จำนวนมากจะต้องระวังโทษดังกล่าว
นอกจากแม่จะได้รับโทษจำคุกตามกฎหมายแล้ว ต้องถูกเพิกถอนสิทธิการปกครองดูแลบุตร โดยเฉพาะรายนี้ที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปี ซึ่งกฎหมายจะมีการคุ้มครองและลงโทษผู้กระทำความผิดต่อเด็กอย่างหนัก เพราะรายนี้เด็กอายุแค่ 9 ปี ยังไม่มีความสามารถในการปกป้องตัวเองจากอันตราย
การล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก ไม่ว่าจะด้วยทางร่างกาย การถ่ายคลิป ซื้อคลิปวิดีโอ หากเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี จะมีความผิดที่รุนแรง จึงอยากเตือนคนที่มีพฤติกรรมดังกล่าวให้หยุดการกระทำ เพราะกฎหมายใหม่มีการบังคับใช้รุนแรง โดยผู้ต้องหาจะอ้างว่าไม่รู้ว่าเด็กอายุต่ำกว่าข้อกำหนดไม่ได้.
...