- คณะกรรมาธิการฯ เตรียมเสนอที่ประชุม ครม.พิจารณาเปิดกาสิโน 5 แห่ง กระจายทุกภูมิภาค พร้อมออกกฎหมายควบคุมห้ามผู้ใช้บริการต่ำกว่า 20 ปี ป้องกันนักพนันรุ่นใหม่
- เปิดผลศึกษาโมเดลกาสิโนสิงคโปร์เหมาะกับไทย หวังดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ สร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่เพิ่มรายได้เข้าประเทศ
- หวั่นบทบาทรัฐไม่โปร่งใส เสนอให้บริษัทมืออาชีพต่างชาติเข้ามาลงทุนบริหารระยะยาว พร้อมเสนอแนวทางปันผลกำไรเยียวยาคนที่ได้รับผลกระทบ
เมื่อ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) ที่เตรียมจะสรุปผลการศึกษาให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามแนวทางเปิดบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย เพื่อสร้างรายได้จากการจัดเก็บภาษี และเตรียมเสนอให้มีการตั้งกาสิโน กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาค รวม 5 แห่ง แม้จะมีการต่อต้านจากกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย หากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้เปิดบ่อนกาสิโนขึ้นในไทย
โมเดลกาสิโนสิงคโปร์ต้นแบบที่ควรศึกษา
“จากการวิจัยเรื่องรูปแบบการบริหารจัดการกาสิโน ที่เหมาะสมกับสังคมไทย มีการนำข้อมูลเปรียบเทียบจากกาสิโนทั่วโลก พบว่าโมเดลกาสิโนของสิงคโปร์ มีความเหมาะสมมากที่สุด ทั้งรูปแบบการจัดการพื้นที่ภายในให้เป็นห้างสรรพสินค้า แหล่งท่องเที่ยว โรงแรม พิพิธภัณฑ์ และร้านอาหาร โดยผลตอบแทนที่จ่ายคืนให้กับภาครัฐมีรูปแบบที่ชัดเจนมากที่สุด” ผศ.ดร.รัตพงษ์ สอนสุภาพ รองคณบดีฝ่ายวิชาการ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดประเด็นถึงผลการศึกษาทางวิชาการถึงโมเดลกาสิโนของสิงคโปร์
ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวที่เป็นอุตสาหกรรมหลัก และหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ลดลง คาดว่าจะมีการแข่งขันเพิ่มสูงขึ้น การมีกาสิโน จะเป็นอีกแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น ตัวอย่างเช่น สิงคโปร์ ภาครัฐเปิดให้บริษัทต่างชาติที่มีความชำนาญเข้ามาจัดการบ่อนกาสิโน จนทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวในปี ค.ศ.2009 – 2010 เพิ่มขึ้นกว่า 40 – 50 เปอร์เซ็นต์
...
ถ้าไทยมีบ่อนกาสิโน สิ่งสำคัญคือการจัดการเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับสังคม โดยต้องให้บริษัทข้ามชาติที่มีประสบการณ์เข้ามาจัดการ เพราะต้องมีการลงทุนมหาศาล และแหล่งท่องเที่ยวไทยมีศักยภาพเพียงพอที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม แต่สิ่งสำคัญคือบทบาทของภาครัฐ จะต้องออกกฎหมายควบคุมอายุของผู้ที่เข้าไปใช้บริการไม่ควรต่ำกว่า 21 ปี และตรวจสอบสถานะทางการเงินของผู้เข้ามาใช้บริการก่อนทุกครั้ง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง
รัฐต้องสร้างความโปร่งใสประชาชนตรวจสอบได้
การเปิดกาสิโน สิ่งสำคัญที่ภาครัฐต้องคำนึงคือ ความชัดเจนสามารถตรวจสอบทางการเงินได้ “ผศ.ดร.รัตพงษ์” ย้ำถึงประเด็นนี้ว่า ปัญหาของบ่อนเถื่อนที่มีอยู่ในประเทศไทยเกิดจากการคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่บางส่วน ดังนั้นถ้าเปิดกาสิโน ประชาชนต้องสามารถตรวจสอบเส้นทางการเงินได้ เพื่อป้องกันการคอร์รัปชันที่อาจเกิดขึ้น
“ที่ผ่านมาสังคมไทยมีปัญหาเกี่ยวกับระบบอุปถัมภ์ มีการแอบให้เงินใต้โต๊ะในระบบราชการและนักการเมือง ทำให้ประชาชนไม่เชื่อใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ ยิ่งถ้าเปิดบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย เส้นทางการเงินและค่าสัมปทานของกาสิโน ต้องเปิดเผยชัดเจน ไม่ให้เกิดการเรียกรับผลประโยชน์ และส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อเจ้าหน้าที่”
นอกจากผลกำไรที่ผู้ประกอบการกาสิโนจะต้องจ่ายให้ภาครัฐแล้ว จะต้องมีระบบการแบ่งปันผลกำไรคืนให้กับสังคมผ่านกิจกรรมการพัฒนาเยาวชน ตลอดจนสนับสนุนองค์กรที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดบ่อนกาสิโน ตัวอย่างเช่น สิงคโปร์ มีการแบ่งผลกำไร 1.5 เปอร์เซ็นต์ ให้กับหน่วยงานที่เข้าไปดูแลผลกระทบที่เกิดขึ้นจากกาสิโน และเป็นการเยียวยาให้กับครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ
แนวทางเสนอพิจารณาสร้างกาสิโนในไทย
จากการประชุมล่าสุด เมื่อ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) ซึ่งศึกษาผลกระทบความเป็นไปของการเปิดกาสิโนในไทย โดยมี “พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” รองประธาน กรรมาธิการคนที่ 2 ให้ข้อมูลว่า เตรียมส่งผลการศึกษาให้รัฐบาลพิจารณาในการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร ที่จะเปิดให้เล่นการพนันทุกรูปแบบ ทั้งการพนันพื้นบ้าน แบบสากลและออนไลน์ โดยทำการคัดเลือกสถานที่ก่อสร้างกาสิโน 5 แห่ง ได้แก่ 1. เชียงรายหรือเชียงใหม่ 2. พัทยา ชลบุรี 3. ภูเก็ต พังงาหรือกระบี่ 4. อุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น 5. กรุงเทพฯ หรือปริมณฑล
...
ด้านกรอบการกำหนดอายุของผู้ที่เข้าไปใช้บริการ จะต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป ส่วนบุคคลทั่วไปต้องแสดงสถานะทางการเงินก่อนเข้าไปใช้บริการ และห้ามไม่ให้ข้าราชการเข้าไปใช้บริการ เว้นแต่มีใบอนุญาต หากเปิดสถานบันเทิงลักษณะนี้ได้ เชื่อว่าจะสามารถลดปัญหาการลักลอบเล่นการพนัน และรัฐสามารถจัดเก็บภาษีได้จำนวนมาก
การตั้งคณะกรรมาธิการฯ เพื่อศึกษาการเปิดบ่อนกาสิโนครั้งนี้ เป้าหมายเพื่อการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยหลังจากนี้ประมาณ 1 เดือน จะส่งรายงานข้อสรุปให้กับรัฐบาลพิจารณา และเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ และเชื่อว่าจะมีการพิจารณาให้แล้วเสร็จในรัฐบาลชุดนี้
สำหรับกระบวนการพิจารณาเปิดกาสิโนในไทย ยังต้องผ่านการศึกษาอีกหลายขั้นตอน หากมีการพิจารณาแล้วพบว่ามีผลเสียมากกว่าผลดี อาจจะต้องยกเลิกโครงการ และหาแนวทางอื่นที่มีผลกระทบในวงกว้างน้อยกว่า
ผู้เขียน : ปักหมุด