ไขปริศนา อาการเฉียดตาย ”นายกโบว์ลิ่ง” ลูกบิ๊กแจ๊ส ถูกวางยาพิษหรือไม่

เหตุเฉียดความตายที่เกิดขึ้นกับ "นายกโบว์ลิ่ง" ร.ต.อ.ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิต ผู้เป็นลูกชาย "บิ๊กแจ๊ส" พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี มีอาการแขนขาไม่มีเรี่ยวแรง มือทั้งสองข้างเขียวคล้ำไม่มีเลือดไปเลี้ยง จนวูบหมดสติต้องหามส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน หลังดื่มน้ำ 1 แก้ว ยังคงเป็นปริศนาว่าเกิดจากสาเหตุใด เพราะผลการตรวจท่างการแพทย์โดยละเอียด ไม่พบความผิดปกติ ในร่างกาย

ยิ่งทำให้ "บิ๊กแจ๊ส" ผู้เป็นพ่อเชื่อว่าอาจถูกวางยาพิษ จากความรู้ด้านศาสตร์สมุนไพร ได้นำใบไม้ชนิดหนึ่งให้ลูกชายเคี้ยว จำนวน 10 ใบ จนพบว่าลิ้นเปลี่ยนเป็นสีดำ น่าจะมีสารบางอย่างเข้าสู่ร่างกาย จนขาดเลือดกะทันหันอย่างเฉียบพลัน หากนำตัวส่งโรงพยาบาลช้ากว่านี้อาจเสียชีวิตได้

แม้ผ่านมากว่า 1 สัปดาห์ อาการของนายกโบว์ลิ่ง ยังเบลอๆ ไม่ปกติดี ได้สร้างความกังวลใจให้กับ "บิ๊กแจ๊ส" เป็นอย่างมาก และขอให้ลูกชายระวังตัวมากขึ้น เพราะลูกใครใครก็รัก และยังฝากไปถึงคนที่กระทำแบบนี้เป็นเรื่องสกปรก หากเป็นลูกตัวเองถูกกระทำบ้างจะรู้สึกอย่างไร

ขณะที่ยังรอผลตรวจเลือดจากห้องแล็บ ออกมาชี้ชัดว่าเกิดจากสารพิษปนเปื้อนในร่างกายนายกโบว์ลิ่งหรือไม่ หรือเกิดจากสาเหตุอื่น ทางด้าน "ประเดิม ส่างเสน" หมอพื้นบ้านไทใหญ่ ซึ่งคลุกคลีกับสมุนไพรมาเกือบทั้งชีวิต ได้ไขปริศนาอาการที่เกิดขึ้นกับลูกชายบิ๊กแจ๊ส โดยฟันธงอย่างชัดเจนเกิดจากพิษของพืชสมุนไพร ซึ่งผ่านการสกัดมาเป็นยาพิษไม่มีรส ไม่มีกลิ่นใดๆ ใส่ลงไปในน้ำหรืออาหาร เมื่อพิษเข้าสู่ร่างกายจะซึมลงไปในเส้นเลือด จนเริ่มมีอาการชาครึ่งตัว และหน้ามืด ภายในเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง หรือขึ้นอยู่กับปริมาณยาพิษที่ใส่เข้ามา อาจมีอาการภายใน 4 ชั่วโมงก็ได้

พืชสมุนไพรใช้ทำยาพิษ อาจเป็นกลุ่มยางต้นน่อง ซึ่งมีพิษมาก นิยมนำมาทาลูกหน้าไม้ยิงสัตว์ หรือฆ้องสามย่าน นำไปผสมกับสมุนไพรต่างๆ นำมาสกัด และหากใครสงสัยว่าถูกวางยาพิษหรือไม่ เบื้องต้นจะมีอาการมึนๆ เมาๆ เหมือนหมดแรง หรือบางคนก็เอิกเหิมขึ้นมา ทำอะไรแบบไวๆ จนหัวใจน็อกในที่สุด และยังมีรากฟักทอง ถือเป็นยาเบื่อ หากนำไปผสมกับเหล้าแล้วดื่ม ทำให้ตายได้ หรือกินแตงโมกับเหล้า ก็ตายได้ เป็นข้อห้ามอย่าได้ทำเป็นอันขาด เช่นเดียวกับการกินทุเรียน

"ลูกบิ๊กแจ๊สโดนวางยาพิษแน่นอน เพราะลิ้นดำเป็นจุดๆ เพราะพิษร้อน ยิ่งถ้าลิ้นดำมากยิ่งอันตราย และถ้าตรงเอ็นบริเวณลิ้นดำมากก็รุนแรงหนัก หลังเคี้ยวใบพืชสมุนไพรที่ใช้ระงับพิษหลายๆ ใบ ซึ่งมีหลายชนิดทั้งใบรางจืด ใบกลุ่มทองพันชั่ง หรือใบธรณีสาร"

อีกวิธีในการทำให้พิษระบายออกจากร่างกาย สามารถใช้ผ้าหม้อห้อมของทางเหนือ ซึ่งทำมาจากใบห้อม นำมาแช่ในน้ำและบีบมะนาวใส่เข้าไป นำมาพอกที่มือ หรือใช้เข็มเงินจิ้มลงไปในร่างกาย เมื่อดึงเข็มขึ้นมาจะมีสีดำทันที รวมถึงใช้ไม้ทองระอา ล้างพิษได้เช่นกัน ด้วยการเคี้ยวสดๆ เพียงใบเดียวก็ได้ผล ใช้เวลาประมาณ 10-15 วัน ในการใช้ยาสมุนไพรเท่านั้น ในการรักษาให้หาย เพราะยาแพทย์แผนปัจจุบัน ใช้ไม่ได้ผล

"ถ้าพักผ่อนไม่เพียงพอ เมื่อโดนยาพิษก็ยิ่งไปกันใหญ่ จะไปทำลายก้านสมอง ทำให้เกิดอาการชักได้ เพราะพิษจากพืชสมุนไพร เป็นอากาศธาตุนำพิษเข้าสู่ร่างกาย แตกต่างจากพิษงู ถูกกัดเป็นแผลแล้วเข้าสู่เลือด และถ้ารู้ว่าโดนงูพิษกัด สามารถใช้เสลดพังพอน นำมาต้มกินได้ หรือฉีดเซรุ่มตามชนิดของงู"

แต่พิษจากพืชสมุนไพรบางชนิดแก้ยาก หากไม่รู้ว่าเป็นสมุนไพรตัวใด จะต้องใช้วิธีครอบแก้ว เพื่อให้เลือดเสียไหลออกมา หรือฝังเข็ม ใช้กัวซาขูดบนผิวหนัง และใช้ยาธรณีสัณฑะฆาต ซึ่งเป็นตำรับยาระบาย นอกจากนี้สามารถใช้วิธีฝังยา โดยการฝังดิน ฝังทราย ใช้ยาสมุนไพรผสมเข้าไป นำไปพอกตัวแล้วนอนในดิน หรือทราย ประมาณชั่วโมงกว่าๆ เพื่อระบายพิษออกมา

หรือถ้ารู้ว่าโดนพิษ และไม่มีพืชสมุนไพรใช้ในการระบายพิษออก โดยวิธีที่ดีที่สุดให้กินเกลือเค็มๆ นำเกลือ 3 ช้อนโต๊ะ มาชงกับน้ำอุ่น หากเป็นเกลือสินเธาว์ยิ่งดี แต่ถ้าไม่มีสามารถใช้เกลือแกงได้ และวิธีนี้สามารถแก้อาการเมาค้างได้ เมื่อตื่นขึ้นมาได้เช่นกัน.