ประเด็นราคาชุดลูกเสือ เนตรนารี ที่มีการวิจารณ์สนั่นโซเชียล หลังแฟนเพจเฟซบุ๊ก Drama-addict โพสต์ภาพใบเสร็จชุดลูกเสือของผู้ปกครองรายหนึ่ง ต้องจ่ายค่าชุดกว่าสองพันบาท จนมีคำถามถึงความเหมาะสม และอาจเป็นการซ้ำเติมผู้ปกครอง ในภาวะ “เศรษฐกิจฝืดเคือง” ว่าควรมีการปรับเปลี่ยนชุดลูกเสือ เนตรนารี ให้เหมาะสมกับยุคสมัยหรือไม่ ขณะที่เลขาธิการสำนักลูกเสือแห่งชาติ ได้เปิดเผยถึงการปรับเปลี่ยนชุดว่ามีหลายขั้นตอน และต้องใช้เวลาศึกษาถึงความเหมาะสม จึงไม่ใช่เรื่องง่าย  

ส่องราคาชุดลูกเสือ รอบเอวกว้าง จ่ายเพิ่ม 

เจ้าของร้านขายชุดลูกเสือ เนตรนารี ย่านวงเวียนใหญ่ กรุงเทพฯ ที่เปิดมากว่า 20 ปี เล่าว่า เปิดเทอมครั้งนี้ ผู้ปกครองตื่นตัวมาซื้อชุดลูกเสือ เนตรนารี ให้กับบุตรหลาน มากกว่าทุกครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมาต้องเรียนออนไลน์ ทำให้ชุดเดิมที่เคยใส่คับ ไม่สามารถใส่ได้ ซึ่งบางร้านใช้โอกาสนี้ขึ้นราคาสินค้า เป็นการซ้ำเติมผู้ปกครอง 


เจ้าของร้านยังเปิดเผยด้วยว่า ต้นทุนปีนี้เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะเสื้อ กางเกง และกระโปรง ที่ปรับราคาขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ ทางร้านพยายามไม่เพิ่มราคา แต่จะเปลี่ยนวิธีการขาย โดยเฉลี่ยกำไรจากอุปกรณ์อื่นๆ เพื่อให้ผู้ปกครองไม่เดือดร้อน โดยราคาขายมีดังนี้ ชุดลูกเสือสามัญ ประกอบด้วย

...

  • เสื้อ กระโปรง ตัวละ 500 บาท ถ้ารอบเอวเกิน 40 อยู่ที่ตัวละ 600 บาท
  • เครื่องหมายและหมวก ทั้งหมด 200 บาท
  • ป้ายชื่อแบบเหล็กชิ้นละ 100 บาท ถ้าป้ายแบบผ้า 50 บาท
  • รองเท้าคู่ละ 180 บาท
  • เข็มขัดแบบหนังเส้นละ 300 บาท ถ้าเป็นหนังเทียมเส้นละ 95 บาท

ทั้งนี้ราคาของชุดลูกเสือ เนตรนารี แต่ละร้านมีราคาแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ปกครอง เช่น เข็มขัด ถ้าแบบหนังแท้ มีราคาสูงกว่าหนังเทียม ส่วนปัญหาที่พบบ่อยคือ เด็กหลายคนมีรอบเอวกว้างเกินไซส์ 40 ทำให้ราคาชุดสูงขึ้นกว่าปกติ


อีกสิ่งสำคัญที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครอง ทางร้านจะสอบถามถึงความต้องการของผู้ปกครอง ในการเพิ่มไซส์ให้กับเด็กไว้เผื่อโต โดยชุดสามารถสวมใส่ได้ 3 ปี เป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครอง ซึ่งหลายคนพอใจและกลับมาซื้อชุดที่ร้านอีก


“ประเด็นที่มีการวิจารณ์ให้ปรับเปลี่ยนชุดลูกเสือให้เหลือแค่ผ้าพันคอ อยากให้คิดถึงแง่ดีของชุดลูกเสือ ที่ช่วยให้เด็กๆ ทำกิจกรรมได้ง่ายขึ้น และเป็นการสร้างระเบียบวินัยให้กับเด็ก ส่วนร้านค้าที่ฉวยโอกาสขึ้นราคา อยากให้คิดถึงความเดือดร้อนของผู้ปกครอง หลายคนต้องกู้หนี้ยืมสินมาซื้อชุดให้กับลูกๆ” เจ้าของร้านขายชุดลูกเสือ เนตรนารี ย่านวงเวียนใหญ่ กล่าวทิ้งท้าย

อนาคตมีแผนปรับเปลี่ยนชุด แต่รอก่อน
“สุทิน แก้วพนา” เลขาธิการสำนักลูกเสือแห่งชาติ กล่าวว่า ด้วยภาวะเศรษฐกิจ และการแพร่ระบาดของโควิด-19 กระทรวงศึกษาธิการ ได้มีมาตรการผ่อนผันให้โรงเรียนพิจารณาให้เด็กแต่งกายด้วยชุดลำลองที่มีแค่ผ้าพันคอได้ตามเหมาะสม ขณะที่ราคาของเครื่องหมายบนชุด ไม่ได้คิดค่าลิขสิทธิ์ ทำให้เอกชนที่ผลิตสามารถทำได้โดยไม่มีต้นทุนค่าลิขสิทธิ์

“จากปัญหาราคาชุดที่แพง ได้มีการประสานไปทางคุรุสภา และกระทรวงพาณิชย์ ในการควบคุมราคาชุด เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับผู้ปกครอง แต่การจะปรับเปลี่ยนชุดใหม่ทั้งหมด มีขั้นตอนค่อนข้างมาก เพราะต้องไปแก้พระราชบัญญัติลูกเสือ พ.ศ.2551 และต้องมีการนำเสนอเข้าไปยังคณะรัฐมนตรี ซึ่งอนาคตเตรียมจะปรับเปลี่ยนชุดให้เข้ากับยุคสมัย เพราะการสวมเครื่องแบบก็เพื่อจะฝึกระเบียบวินัยให้กับเยาวชน”

ส่วนหลักสูตรลูกเสือ เนตรนารี ทางกระทรวงศึกษาธิการ มีการปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัย ที่เปลี่ยนแปลงทุก 5 ปี อนาคตเตรียมจะปรับหลักสูตรให้เข้ากับผู้เรียนมากขึ้น เพราะเป้าหมายต้องการให้เด็กที่เรียนได้นำความรู้ ไปใช้ในชีวิตประจำวัน และช่วยเหลือตัวเอง หากเกิดเหตุฉุกเฉิน

วิชาลูกเสือ เนตรนารี ยังมีความสำคัญในการช่วยฝึกให้เยาวชนมีภาวะผู้นำ และทำงานร่วมกับผู้อื่น ซึ่งจากกระแสวิจารณ์ที่เกิดขึ้น ทางหน่วยงานได้ตระหนัก เตรียมที่จะปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมมากขึ้น แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลา และต้องศึกษาให้รอบด้าน เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เหมาะสมกับทุกคน.