วงการเสริมความงาม คงต้องจดจำชื่อ "หมอแนน" สาวแสบในบัญชีแบล็กลิสต์ "หมอเถื่อน" หลังก่อเหตุซ้ำๆ รวม 13 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2556 และเพิ่งออกจากคุกเป็นครั้งที่ 2 เมื่อเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว ไม่เข็ดหลาบหรือสำนึกผิด ยังกระทำผิดข้อหาเดิมๆ จนถูกตำรวจจับกุมอีกครั้งเมื่อ 26 พ.ค.2565 และอ้างว่าต้องการเงิน ไปทำคลินิกเสริมความงาม

พฤติกรรมแสบไม่เคยเปลี่ยน มีการสวมชื่อแพทย์จริง และปลอมแปลงเอกสาร นำไปยื่นสมัครงานในคลินิกเสริมความงามต่างๆ เหมือนกับคดีที่เคยถูกจับเมื่อปี 2556 และปี 2559 และเมื่อพ้นโทษออกมา ก็สร้างเรื่องทำทีเปิดคลินิกเสริมความงาม ประกาศทางออนไลน์รับสมัครแพทย์เสริมความงาม ก่อนนำข้อมูลของแพทย์ที่มาสมัครไปสวมรอยสมัครทำงานในคลินิกอื่น

ถูกตั้งข้อหาประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ใช้คำหรือข้อความที่แสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมสาขาต่างๆ และฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ส่งตัวสาวแสบรายนี้ ขออำนาจศาลฝากขัง พร้อมแนบท้ายคำร้องขอคัดค้านการประกันตัว

...

"หมอเถื่อนแนน" เคยมีพฤติกรรมหลอกลวงเปิดคลินิก และประกาศรับสมัครแพทย์ เพื่อนำใบประกอบวิชาชีพของผู้สมัครมาปลอมแปลง สวมรอยเป็นแพทย์เสริมความงามเข้าไปทำงานในคลินิกต่างๆ และเมื่อต้นปี 2565 มีแพทย์รายหนึ่ง เอะใจสงสัยน่าจะถูกแอบอ้างใบประกอบวิชาชีพ จึงเข้าแจ้งความ จนตำรวจจับกุมตัว และระหว่างที่ประกันตัว ยังกระทำผิดสวมรอยเป็นแพทย์ทํางานในคลินิกอีก

เบื้องหลังกลโกงการสวมรอยของ "หมอเถื่อนแนน" มีการนำสำเนาเอกสารใบประกอบวิชาชีพของแพทย์ที่มาสมัครงาน หรือที่ตกเป็นเหยื่อ นำมาตัดต่อตกแต่งภาพสวมรอยเป็นแพทย์ และใช้บัญชีธนาคารของญาติในการรับโอนเงินเดือน เมื่อทำงานได้ระยะหนึ่ง จะย้ายไปทำคลินิกอื่นรวมแล้วหลายแห่งใน กทม.และปริมณฑล เพื่อไม่ให้เจ้าของคลินิกจับได้ และเมื่อถูกจับจะอ้างว่าทำอาชีพอื่นไม่เป็น จึงต้องกระทำผิดซ้ำแบบนี้ จนคนในครอบครัวเอือมระอากับพฤติกรรม

กรณีของหมอเถื่อนแนน ถือเป็นภัยสังคมกระทบต่อการบริการและสุขภาพของผู้ใช้บริการ "นพ.ภาณุวัฒน์ ปานเกตุ" รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ได้เตือนแพทย์เสริมความงามที่ยื่นใบสมัคร เพื่อทำงาน ขอให้ตรวจสอบสถานพยาบาล สถานบริการความงามให้รอบคอบ ว่ามีใบอนุญาตเปิดสถานบริการความงามถูกต้องหรือไม่ เพื่อไม่ให้ตกเป็นผู้เสียหาย หรือถูกนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย

ขณะที่ ตำรวจสอบสวนกลาง ได้แนะวิธีการเช็กข้อมูลเบื้องต้น "ใครเป็นหมอจริง หมอปลอม" ผ่านเว็บ https://www.tmc.or.th/check_md/ โดยกรอกชื่อ-นามสกุล ภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษ ของบุคคลที่ต้องการจะตรวจสอบข้อมูล หากเป็นหมอจริง จะมีการแจ้งสถานภาพของแพทย์ หรือผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม รวมไปถึงการแจ้งปีที่จบการศึกษา และสถานะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านใดอีกด้วย.

เครดิตภาพ : เพจตำรวจสอบสวนกลาง