- สภาพอากาศแปรปรวน เกิดฝนตกหนักน้ำท่วมหลายพื้นที่ของไทย รวมทั้งกรุงเทพฯ ประสบปัญหาน้ำท่วมขัง เพราะน้ำระบายไม่ทัน จนจราจรติดขัดไปทั่ว สร้างความโกลาหลให้กับผู้สัญจรไปมาในช่วงที่ผ่านมา
- ฝนตกหนักก่อนฤดู ยิ่งทำให้คนกังวลว่าปี 2565 จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ซ้ำรอยมหาอุทกภัยปี 2554 หรือไม่ ครั้งนั้นเกิดน้ำท่วมตั้งแต่ต้นปีถึงปลายปี ไปทั่วทุกภูมิภาค โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคกลาง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล หนักสุดๆ ในรอบ 70 ปี นับตั้งแต่ปี 2485
- คณะกรรมการขององค์การสหประชาชาติ ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก หรือ IPCC ได้ออกรายงาน Code Red ว่าด้วยวิกฤติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังเดินไปสู่ความเสี่ยงที่รุนแรงหนักกว่าเดิม จากผลของโลกร้อนที่เคยเกิด 100 ปี จะเกิดใน 30 ปีข้างหน้า แต่ทุกวันนี้ได้ขยับเร็วขึ้นทุกๆ 10 ปี
จากสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น “รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์” ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต ย้ำว่า ไม่ต่างจากแนวโน้มระดับน้ำทะเลที่จะสูงขึ้นในอีก 30 ปีข้างหน้า 20-30 เซนติเมตร เป็นสิ่งที่กรุงเทพฯ ต้องรับมือ ทั้ง 3 น้ำ จากผลกระทบน้ำเหนือ น้ำฝน และน้ำทะเลหนุน หากกรุงเทพฯ ยังแก้ปัญหาน้ำท่วมเฉพาะหน้า ระหว่างเกิดเหตุแบบไร้แผนอนาคต จะมีความเสี่ยงและเปราะบางกับปัญหาน้ำท่วมสูงขึ้นอย่างแน่นอน
...
พร้อมกับประเมินปริมาณฝนตั้งแต่นี้ไปจนถึงสิ้นเดือน พ.ค. จะมีฝนตกหนักมากกว่าปกติ 5-20% จึงต้องติดตามบริเวณพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำนาข้าวต้องเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิต
นอกจากนี้มีความเป็นไปได้ว่าสภาพอากาศหลังจากไทยเข้าสู่ฤดูฝน อาจมีทั้งแล้ง และน้ำท่วม คาดว่าจะมีฝนทิ้งช่วงเดือน มิ.ย. ถึงเดือน ก.ค. อยากให้เกษตรกรคอยติดตาม และบริหารความเสี่ยงข้าวนาปี และปลายปีนี้ปริมาณฝนอาจจะไม่ดีมากนัก ส่งผลกระทบปริมาณน้ำต้นทุนปี 2566 หรือหากปรากฏการณ์ลานีญายังคงมีพลังและทอดยาวไปยังปลายปี ความเสี่ยงน้ำท่วมใหญ่ยังคงมีอยู่ประมาณ 30-40% จึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
เพราะปัจจัยสำคัญที่บ่งชี้จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ในปี 2565 หรือไม่ ขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัย คือ 1.จากธรรมชาติ มีฝนตกหนักก่อนฤดูฝน ซึ่งที่ผ่านมาฝนได้ตกหนักมากตั้งแต่เดือน ม.ค.มาจนถึง พ.ค. 2.ปรากฏการณ์ลานีญายังส่งอิทธิพลไปจนถึงสิ้นปี ทำให้ช่วงนี้ลานีญายังอยู่ โดยอีก 6 เดือนข้างหน้ามีแนวโน้ม 60% จะแผ่วลง และอีก 40% ยังคงมีความแรง และ 3.น้ำทะเลในมหาสมุทรอินเดียมีปริมาณสูงในฝั่งเอเชีย
“ประมาทไม่ได้เลย แม้ 60% ชี้ว่าลานีญาจะแผ่ว แต่ถ้าแรงขึ้นมา มีโอกาสจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ได้ เพราะฉะนั้นจึงขึ้นอยู่กับการจัดการ และขณะนี้เขื่อนขนาดใหญ่ในภาคเหนือยังรับน้ำได้ ถ้าฝนตกเหนือเขื่อนก็ยังรับได้ ยกเว้นฝนตกใต้เขื่อนก็จะมีความเสี่ยงมาก เห็นได้จากปีที่แล้วแม้ปริมาณฝนไม่เท่ากับปี 54 แต่น้ำท่วมอ่วมหนักมากกว่าในพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะอยุธยา”
ประเด็นสุดท้ายขึ้นอยู่กับการจัดการ ต้องประเมินจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ว่าจะเอาน้ำไปไว้ที่ใด และขณะนี้ยังไม่เข้าสู่ฤดูฝน แต่ฝนตกหนักมาก จนชาวบ้านประสบเหตุได้รับความเดือดร้อน เพราะไม่มีการเตือนภัย ทำให้เกิดความเสียหายหนัก และเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก จะต้องมีเจ้าภาพในส่วนกลางทำหน้าที่บริหารจัดการ และถ้าไม่มีก็ควรกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น ในการประเมินสถานการณ์เพื่อหาทางออก
...
ส่วนปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในกรุงเทพฯ ต้องยอมรับว่าไม่มีทางที่กรุงเทพฯ จะไม่ท่วม เพราะถนนมี 70% ของพื้นที่ เมื่อเกิดฝนตกหนักก็จะท่วม แล้วค่อยๆ ไหลลงระบบระบายน้ำ เพราะไม่มีระบบเก็บน้ำใต้ดิน หรือบ่อหน่วงน้ำใต้ดิน และไม่ว่าผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่จะเป็นใคร จะทำอย่างไรน้ำก็ท่วมกรุงเทพฯ ไม่สามารถแก้ได้อยู่แล้ว ยกเว้นทำให้บรรเทาลง ไม่ให้รถติดนาน 2-3 ชั่วโมง ควรทำให้น้ำระบายเร็วที่สุด แต่ถ้าออกแบบในเชิงวิศวกรรมต้องใช้เงินมหาศาลมากในการทำระบบระบายน้ำ
หนึ่งในการแก้ปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ควรปรับปรุงระบบให้สามารถรับฝน 10 ปีให้ได้ เพราะปัจจุบันรับฝนได้ 2 ปี ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงฝนตกปีหนึ่งหลายๆ ครั้ง ทำให้ไม่สามารถรับมือได้ ต้องปรับเป็น 10 ปี รับมือกับฝนในปริมาณมาก เพื่อเปิดทางให้น้ำไหลเร็วขึ้น โดยต้องขยายท่อระบายข้างล่างให้ใหญ่ขึ้น ให้น้ำไหลลงสู่ปลายทางคืออุโมงค์ แต่ที่ผ่านมาต้นทางกับกลางทางไม่เคยทำ จนน้ำส่งไปไม่ถึงอุโมงค์
สถานการณ์ในปีนี้มีโอกาส 30-40% ให้ระวังน้ำท่วมใหญ่เหมือนปี 2554 ซึ่งอาจหนักกว่า หรือน้อยกว่าก็ได้ ยกตัวอย่างปีที่แล้วเกิดน้ำท่วมหนักในภาคกลาง ทั้งที่ปริมาณน้ำน้อยกว่าปี 2554 ถึง 3 เท่า แต่หากปีนี้น้ำเท่ากับปี 2554 จะรับมือไม่ไหว คือตายอย่างเดียว และหากปรากฏการณ์ลานีญายังแรง ทำให้ยิ่งมีความเสี่ยง
...
นับจากนี้ให้ติดตามดูสถานการณ์ โดยเดือน ก.ค.นี้จะเริ่มเห็นชัดขึ้นว่าเกิดน้ำท่วมใหญ่หรือไม่ และจะหนักจริงๆ ในเดือน ส.ค. หรือหากฝนมีน้อยในช่วงนั้นก็จะแล้ง ทำให้สถานการณ์น้ำในปี 2565 จะมีทั้งแล้ง และน้ำท่วม จากหลายๆ ปัจจัย.
ผู้เขียน : ปูรณิมา