• ตับอักเสบปริศนาในเด็ก อาจกำลังเข้าไทยในเร็วๆนี้ ล่าสุดมาถึงอินโดนีเซีย คร่าชีวิตเด็กไปแล้ว 3 ศพ พบการระบาดส่วนใหญ่ในเด็กอายุ 3-6 ปี อาการรุนแรงถึงขั้นตาย 10 เปอร์เซ็นต์ และต้องเปลี่ยนตับใหม่

  • แพทย์ทั่วโลกวิตกกังวล กำลังเร่งหาสาเหตุ คาดกันว่า “อะดีโนไวรัส” กลายพันธ์ุ แพร่กระจายผสมเชื้อโควิด ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น ต้องตรวจหาเชื้อด้วยการใช้วิธีการพิเศษผ่านเลือดเท่านั้น

  • เริ่มแรกอาการเหมือนติดเชื้อธรรมดา ก่อนพัฒนาโรคจนตัวเหลือง ตับวาย ผู้ปกครองต้องเฝ้าระวังลูกหลานเป็นอย่างมาก คาดว่าอีกไม่นานจะระบาดในไทย แพร่กระจายรับเปิดเทอมใหม่

ปริศนาโรคที่ทวีความรุนแรง ไม่มียารักษา

มีรายงานทางการแพทย์จากหลายประเทศทั่วโลก ถึงการแพร่ระบาดของไวรัสตับอักเสบในเด็ก และยังหาต้นตอการเกิดโรคไม่ได้ชัดเจน ทำให้ขณะนี้มีเด็กที่เป็นโรคนี้ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะยังไม่มียาที่มาช่วยในการรักษา จนวงการแพทย์ต่างหวาดวิตกว่าอาจเป็นมฤตยูร้ายครั้งใหม่ที่มาซ้ำเติมปัญหา หลังมีการแพร่ระบาดของโควิด ล่าสุดมีรายงานจากอินโดนีเซีย มีผู้ติดเชื้อแล้ว ซึ่งไม่แน่ว่าอาจแพร่ระบาดเข้ามาในไทยในอีกไม่ช้าไม่นานนี้

...

“ผศ.นพ.โอภาส พุทธเจริญ” หัวหน้าศูนย์โรคอุบัติใหม่ทางคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า อาการตับอักเสบในเด็ก ที่มีการแพร่ระบาด แพทย์ทั่วโลกยังหาสาเหตุการเกิดขึ้นไม่ได้ ทำให้ยังไม่มียาที่มารักษา โดยพบเด็กที่มีอาการในอังกฤษ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก่อนมีการแพร่ระบาดในสหรัฐอเมริกา สเปน ญี่ปุ่น และล่าสุดอินโดนีเซีย มีเด็กติดแล้ว 15 ราย เสียชีวิตแล้ว 3 คน แม้ไทยยังไม่มีการระบาด แต่ต้องเฝ้าระวัง เพราะติดง่าย มีโอกาสแพร่กระจายได้รวดเร็ว


ปกติโรคตับอักเสบจะเกิดจากการติดเชื้อไวรัส เช่น A, B, C หรือเกิดจากการใช้ยาและดื่มสุรา แต่การแพร่ระบาดในเด็กรอบนี้กลับค้นไม่พบต้นตอของโรคที่จะมีการติดเชื้อในเด็กอายุ 3-6 ปี ความรุนแรงของโรคส่งผลทำให้เกิดภาวะตับวายจนเสียชีวิต ที่ผ่านมาเด็กที่เป็นโรคนี้ 10 เปอร์เซ็นต์ ต้องได้รับการปลูกถ่ายตับใหม่

จากการตรวจสอบในเด็กที่ติดเชื้อ เบื้องต้นสันนิษฐานว่า เกิดจากการติดเชื้อ “อะดีโนไวรัส” 70 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเด็กที่ติดเชื้ออีก 10 เปอร์เซ็นต์ ติดเชื้อจาก “อะดีโนไวรัส” ร่วมกับ “โควิด” ในทางการแพทย์ยังไม่มีการยืนยัน แต่คาดการณ์ว่าอาจเป็นภาวะจากลองโควิด

ผลตรวจในต่างประเทศ ยืนยันว่า จะพบเชื้อความผิดปกติในอุจจาระ, เลือด และระบบทางเดินหายใจ และที่น่าสนใจ “อะดีโนไวรัส” ที่ผ่านมาเมื่อมีการติดเชื้อจะไม่ส่งผลรุนแรงต่อเด็กที่มีภูมิคุ้มกันปกติ แต่การแพร่ระบาดคราวนี้คาดว่าจะมีการกลายพันธุ์ของ “อะดีโนไวรัส” ทำให้เชื้อมีความรุนแรง ในทางการแพทย์ต้องเร่งหาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อผลิตยาที่มาช่วยในการรักษา

ต้องตรวจหาโรคแบบพิเศษ คล้ายกับ RT-PCR

สำหรับอาการของโรคตับอักเสบปริศนา ช่วงเริ่มต้นเหมือนการติดเชื้อทั่วไป เช่น ปวดท้อง มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ก่อนมีอาการรุนแรง จนตัวเหลือง และตับวายในที่สุด ระยะเวลาการพัฒนาของโรค จากอาการเบื้องต้นไปถึงรุนแรง ยังไม่สามารถบอกได้ เนื่องจากเด็กแต่ละคนมีการพัฒนาของโรคไม่เท่ากัน จึงจำเป็นที่ผู้ปกครองจะต้องสังเกตอาการของลูกหลาน เพราะการระบาดยังไม่เข้ามาในไทย เลยทำให้หลายคนยังไม่ตระหนัก และเข้าใจอาการเบื้องต้นของโรคนี้ ซึ่งไม่แน่ว่าสุดท้ายจะเข้ามาแพร่ระบาดในไทย

...

ลักษณะการติดเชื้อจะคล้ายกับโควิด มีการแพร่ระบาดผ่านระบบทางเดินหายใจ การสัมผัสสารคัดหลั่งต่างๆ การตรวจหาเชื้อจะต้องใช้วิธีการพิเศษ คล้ายกับการตรวจ RT-PCR ที่ต้องหาเชื้อภายในร่างกายด้วยการตรวจเลือด, ระบบทางเดินหายใจ และอุจจาระ โดยในต่างประเทศมีการยืนยันว่าการตรวจหาเชื้อในเลือดได้ผลดีมากที่สุด

ในเด็กที่มีอาการรุนแรง 10 เปอร์เซ็นต์ ต้องทำการปลูกถ่ายตับใหม่ ทำให้ต้องกินยากดภูมิคุ้มกันไปตลอดชีวิต และด้วยภาวะภูมิคุ้มกันที่ต่ำ ทำให้เด็กติดเชื้อง่าย เสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคอื่นๆ ที่แทรกซ้อนเข้ามา

สำหรับประเทศไทย รัฐบาลควรมีมาตรการเฝ้าระวัง และสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน ขณะที่ผู้ปกครองจะต้องคอยสังเกตบุตรหลาน หากมีอาการผิดปกติควรรีบนำบุตรหลานไปพบแพทย์ และยิ่งตอนนี้โรงเรียนเริ่มเปิดเรียน จะต้องมีมาตรการป้องกัน เช่นเดียวกับโควิด ที่จะช่วยป้องกันโรคตับอักเสบในเด็กได้เช่นกัน

เบื้องต้น ศูนย์โรคอุบัติใหม่ทางคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้เตรียมความพร้อมหากมีการติดเชื้อดังกล่าว โดยได้เตรียมชุดตรวจหาเชื้อชนิดพิเศษ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดภายในประเทศ ถ้าผู้ปกครองสงสัยว่าบุตรหลานอาจเป็นโรคนี้ สามารถส่งมาตรวจได้ที่ศูนย์ฯ ทันที

...

การกลายพันธุ์ของไวรัส ที่ผ่านมาสร้างความสั่นสะเทือนให้เกิดขึ้นทั้งโลก “โรคตับอักเสบ” ในเด็กคราวนี้ หากไม่มีระบบป้องกันที่ดี ประเทศไทยอาจต้องเผชิญความสูญเสีย และต้องเสียเวลามาไขปริศนาของโรคนี้กันอีกพักใหญ่.

ผู้เขียน : ศราวุธ ดีหมื่นไวย์