• กระแสบริโภค ”กัญชาฟีเวอร์” เป็นที่สนใจอย่างต่อเนื่อง หลังปลดล็อกกัญชาและกัญชง ออกจากยาเสพติดให้โทษ จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 มิ.ย.2565 นี้ เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ในด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ และสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ ได้อย่างเต็มที่

  • โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในฐานะหน่วยงานนำร่องการพัฒนางานด้านกัญชา อย่างครบวงจรมากว่า 3 ปี ได้ให้ความรู้กับประชาชน ในการใช้กัญชาอย่างถูกต้องและปลอดภัย ในรูปแบบอาหาร เครื่องดื่ม การสกัดทำผลิตภัณฑ์ แปรรูป และสอนสูตรครัวตำรับยิ้ม นำกัญชาใส่ในอาหาร

  • การใส่กัญชาในอาหาร เป็นภูมิปัญญาของคนไทยดั้งเดิมช่วยชูรสในอาหาร ให้อร่อยกลมกล่อม เพราะใบกัญชา มีกรดกลูตามิ ทำให้อาหารมีรสอูมามิ และสาร THC ช่วยเพิ่มความอยากอาหาร และนอนหลับ นิยมใส่ในแกง ก๋วยเตี๋ยว หรือผัด ใช้ประมาณ 3 ยอด หรือ 5-8 ใบ หรือกินสดๆ เป็นเครื่องเคียงจิ้มกับน้ำพริก ซึ่งดีที่สุด

ใบกัญชาที่มาทำอาหาร ต้องใช้ใบกัญชาที่ปลูกในประเทศไทย จากแหล่งผลิตที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายแล้วเท่านั้น และใบกัญชา มีสาร (THC) หรือสารเมาน้อย สามารถนำใบอ่อนกัญชา ทำเมนูแกงส้ม แกงกะทิ แกงมัสมั่น และเมนูผัด ซึ่งไม่ควรปรุงนาน จะยิ่งทำให้ปริมาณสารเมาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะใบแห้ง

...

หากนำไปทอด สารเมาจะละลายไปกับน้ำมัน ทำให้ปริมาณสารเมาเหลือน้อยมาก ส่วนเมนูต้มและตุ๋น ควรใช้กัญชาเพียงเล็กน้อย ไม่ควรกินใบไปด้วย และไม่ควรบริโภคเกินวันละ 5 ใบ เพราะอาจเกิดอาการใจสั่น ปากแห้ง คอแห้ง ง่วงนอน มึนงง วิงเวียน และปวดหัว

ในกรณีผู้มีอาการตับและไตบกพร่อง หรือผู้ที่ใช้ยาวาร์ฟารินละลายลิ่มเลือด ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ผู้ที่ใช้ยามีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง และผู้มีอายุต่ำกว่า 25 ปี ไม่แนะนำให้บริโภคอาหารกัญชา

ก่อนหน้ามีการเผยแพร่สูตรอาหารคาวหวานและเครื่องดื่มสูตรครัวตำรับยิ้มไปแล้ว ทั้งสูตรก๋วยเตี๋ยว เกาเหลาหมูตุ๋นอารมณ์ดี เล้งแซ่บซดเพลิน รื่นเริงบันเทิงยำ ข้าวกะเพราสุขใจ น้ำคั้นใบกัญชาสดผสมชา ขนมปังกรอบ คุกกี้ ชอร์ตเบรด และอีกหลายๆ เมนู ให้กับชาวสายเขียว

สูตรขนมอารมณ์ดี แสนอร่อย เพื่อชาวสายเขียว

เมนูล่าสุดที่จะนำเสนอเอาใจคอขนมหวาน เป็นสูตรขนมอารมณ์ดีแสนอร่อย ”ทาร์ตบลูเบอร์รี” สูตรกัญชา สามารถทำได้ไม่ยาก มีส่วนประกอบแป้งทาร์ต 20 ชิ้น แยมบลูเบอร์รี 200 กรัม ไซรัปกัญชา 1 ช้อนโต๊ะ วิปปิ้งครีม 1 ถ้วยตวง นมข้นหวาน 3 ช้อนโต๊ะ โยเกิร์ต 1 ถ้วย และน้ำมะนาว 3 ช้อนชา

เมื่อเตรียมส่วนประกอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มาเข้าสู่วิธีการทำเริ่มจากนำแป้งทาร์ตไปอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ใช้เวลา 15 นาที แล้วอบอีกรอบให้เหลืองกรอบ จากนั้นนำแยมบลูเบอร์รีไปผสมกับไซรัปกัญชา ซึ่งมีกัญชาเพียง 2% เท่านั้น

ขั้นตอนต่อไปให้ตีวิปปิ้งครีมด้วยการหล่อเย็น โดยใส่โยเกิร์ต ตามด้วยนมข้นหวาน และน้ำมะนาว แล้วใส่ถุงบีบครีม ส่วนแป้งทาร์ตที่อบเสร็จ ให้พักไว้พออุ่น และบีบวิปครีมลงบนแป้งทาร์ต จากนั้นตกแต่งด้วยแยมบลูเบอร์รีผสมกัญชาและใบสะระแหน่ ให้สวยงามน่ารับประทาน แต่ไม่ควรรับประทานเกินครั้งละ 3 ชิ้นต่อวัน และผู้ที่ควบคุมระดับน้ำตาลและไขมัน ควรจำกัดการบริโภค

...

เคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ทำส่วนผสมให้ลงตัว น่ากิน

เคล็ดลับในการทำนั้น “สุธิดา พลอยแดง” ตัวแทนจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ ได้สาธิตการทำ “ทาร์ตบลูเบอร์รี” สูตรกัญชา ภายในงานกัญชาทางการแพทย์ เขตสุขภาพที่ 6 จัดขึ้นที่จ.จันทบุรี ได้แนะนำวิธีการทำไซรัปผสมกัญชา ซึ่งใช้ใบกัญชาแห้ง 100 กรัม นำไปต้มกับน้ำครึ่งลิตร จนน้ำงวดเหลือเพียง 1 ใน 3 ก่อนนำไปผสมกับน้ำเชื่อมสำเร็จรูป 300 มล. แล้วต้มให้เดือด

...

“ไซรัปผสมกัญชา ยังใช้ได้กับขนมอื่นๆ และใส่เครื่องดื่มต่างๆ ให้มีรสชาติ สามารถเก็บได้นานหากแช่ตู้เย็นได้อย่างน้อย 3 เดือน และสูตรขนมอารมณ์ดีนี้ ยังใช้แยมสตรอว์เบอร์รี หรือแยมรสชาติอื่นแทนก็ได้ แล้วแต่ชอบ”

ส่วนเคล็ดลับในการอบแป้งทาร์ต ซึ่งใช้เวลา 15 นาทีในการอบรอบแรก แล้วอบต่ออีกให้กรอบ แต่ต้องระวังอย่าให้ไหม้เป็นอันขาด รอจนเมื่อแป้งทาร์ตกรอบมีสีเหลืองทอง ให้นำออกเตาอบแล้วพักไว้ให้อุ่น

ในการตีวิปครีมแบบหล่อเย็น ต้องใช้กะละมังสเตนเลสขนาดเล็กและใหญ่ โดยใส่วิปครีมในกะละมังเล็ก ส่วนกะละมังใหญ่หากแช่ตู้เย็นไว้ก่อนจะดี แล้วใส่น้ำแข็งลงไป ก่อนนำวิปครีมในกะละมังเล็กลงไปตีในกะละมังใหญ่ที่เตรียมไว้จนขึ้นฟู จากนั้นใส่นมข้นหวาน และน้ำมะนาว แล้วใส่ถุงบีบครีม หยอดลงบนแป้งทาร์ตที่อบเสร็จเรียบร้อย และทำตามขั้นตอนในสูตร เป็นอันเสร็จสิ้น.

...

ผู้เขียน : ปูรณิมา