โควิดวันนี้ มีผู้เสียชีวิตทะลุหลักร้อยศพอีกแล้ว มีผู้ป่วยอาการหนักเกือบ 2 พันคน และใส่ท่อช่วยหายใจกว่า 8 ร้อยคน นี่คือสัญญาณที่กำลังบอกว่า หลังสงกรานต์ 2565 เรายังต้องสู้กับโควิดอย่างหนัก โดยเฉพาะโอมิครอนที่กลายพันธุ์ไม่หยุด

จากสถานการณ์โควิดวันนี้ล่าสุด (13 เม.ย. 2565) ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.รายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 106 ศพ ทะลุหลักร้อยเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันนับตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. ในส่วนผู้ป่วยอาการหนักมี 1,971 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 834 คน ขณะเดียวกัน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ก็แถลงว่า พบแนวโน้มผู้ป่วยอาการหนักและเสียชีวิตเพิ่มขึ้น แต่อยู่ในการคาดการณ์

ผู้ติดเชื้อโควิดที่เสียชีวิต 106 ศพวันนี้ ไม่ต่างจากที่ผ่านมามากนัก คือ ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ไม่ฉีดวัคซีน มีโรคประจำตัวเรื้อรัง โดยวันนี้ผู้เสียชีวิต มีตั้งแต่ อายุ 4-107 ปี เฉลี่ยเสียชีวิตหลังพบเชื้อ 6 วัน และพบเชื้อวันเสียชีวิตถึง 14 ศพ แน่นอนว่าแม้อาการโควิดโอมิครอนไม่รุนแรง แต่ติดง่าย และกลุ่มเสี่ยงมีโอกาสป่วยหนักและเสียชีวิตได้เสมอ

ลุ้นโควิดหลังสงกรานต์ตายไม่เกิน 150 ศพ

จากตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิดวันนี้ 106 ศพ ผู้ป่วยอาการหนัก ปอดอักเสบ 1,971 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 834 คนดังกล่าว เมื่อย้อนกลับไปดูการประเมินฉากทัศน์การคาดการณ์จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 หลังสงกรานต์ โดยศบค.เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่าสถานการณ์ของไทยขณะนี้อยู่ในระดับการคาดการณ์ความรุนแรงปานกลาง คืออยู่ในระดับเส้นสีเหลือง ที่มีการคงมาตรการต่างๆ และประชาชนร่วมมือในระดับปัจจุบัน ที่ประเมินว่า ช่วงตั้งแต่วันที่ 3-5 พ.ค. จนถึงเดือน มิ.ย. ผู้เสียชีวิตจะไม่เกิน 150 ศพ ใส่ท่อช่วยหายใจ ไม่เกิน 1,000 คน และปอดอักเสบประมาณ 3,000 คน

...

ขณะที่ในระดับที่ดี หรือระดับเส้นสีเขียวนั้น ประเทศไทยได้ผ่านเลยมาแล้ว ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. ที่มีผู้เสียชีวิต 108 ศพ นับเป็นวันแรกที่ตัวเลขทะลุหลักร้อยในระลอกการระบาดของโควิดโอมิครอนเป็นหลัก เพราะโดยระดับดีนั้น ต้องมีผู้เสียชีวิตต่ำกว่า 100 ศพ ใส่ท่อช่วยหายใจต่ำกว่า 500 คน และปอดอักเสบ ไม่ถึงอยู่ในระดับ 1,100-1,300 คน

การที่จะให้อยู่ในระดับดีเหมือนช่วง ม.ค.-ก.พ. นั้น ต้องมีความร่วมมือ ตั้งแต่ งดการรวมกลุ่ม คนทำงานสามารถทำงานที่บ้าน มีการชะลอเดินทาง และเร่งฉีดวัคซีนทุกเข็ม คือทั้งเข็มแรก เข็มกระตุ้น เกิน 400,000 โดสต่อวัน ป้องกันตนเองสูงสุด เว้นระยะห่าง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงกิจกรรมเสี่ยง ตรวจหาเชื้อ ATK เมื่อมีความเสี่ยงรับเชื้อ มีเงื่อนไขที่ยังทำไม่ถึงเป้าหมาย เช่น เริ่มมีการรวมกลุ่ม และการเดินทาง โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ และจำนวนการฉีดวัคซีนทุกเข็มในวันที่ 12 เม.ย. ทำได้แค่ 122,962 โดส

ถึงเวลาขึ้นรถกลับบ้าน จากสถานีขนส่งหมอชิต 2 เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2565 (ภาพ : เอกลักษณ์ ไม่น้อย)
ถึงเวลาขึ้นรถกลับบ้าน จากสถานีขนส่งหมอชิต 2 เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2565 (ภาพ : เอกลักษณ์ ไม่น้อย)

ฉากทัศน์โควิดหากรุนแรง คือระดับไหน

ความแรงในระดับเส้นสีแดงที่ ศบค.ระบุไว้ นั้น เป็นฉากทัศน์ที่มีการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรค ลดแยกกักตัว ฉีดวัคซีนทุกเข็มน้อยกว่า 200,000 โดสต่อวัน ประชาชนส่วนใหญ่ย่อหย่อนต่อมาตรการป้องกันตนเองตั้งแต่เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ หรือที่เรียกว่า การป้องกันการติดเชื้อ แบบครอบจักรวาลขั้นสูงสุด Universal Prevention หรือ UP ซึ่งจากข้อมูลต้องขอย้ำอีกครั้งว่า จำนวนการฉีดวัคซีนทุกเข็มในวันที่ 12 เม.ย. ทำได้แค่ 122,962 โดส

ระดับสีแดงนี้ จะทำให้มีผู้เสียชีวิตเกิน 250 ศพต่อวัน ในช่วง 3-5 พ.ค. จากนั้นจะค่อยๆ ลดลง แต่ยังคงอยู่ระดับเกิน 100 ไปจนถึงประมาณกลางเดือน มิ.ย.

ส่วนผู้ป่วยปอดอักเสบ ใส่ท่อช่วยหายในวันที่ 5-6 พ.ค. จะเกิน 1,600 ราย แล้วค่อยๆ ลดลง จนต่ำกว่า 200 ราย ต้นเดือน ก.ค. ส่วนผู่ป่วยปอดอักเสบ จะแตะเกือบ 6,000 รายในช่วง 3-5 พ.ค. จากนั้นค่อยๆ ลดลงในต้นเดือน ก.ค.เช่นกัน

บรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์ ที่ถนนข้าวสาร 13 เม.ย. 2565 (ภาพ : วัชรชัย คล้ายพงษ์)
บรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์ ที่ถนนข้าวสาร 13 เม.ย. 2565 (ภาพ : วัชรชัย คล้ายพงษ์)

...

ย้ำว่าฉากทัศน์รุนแรงระดับสีแดงนี้ยังไม่เกิดขึ้น เพราะขณะนี้อย่างที่ ศบค.เปิดเผยตัวเลขนั้น เทียบเคียงกับฉากทัศน์แล้ว คือยังอยู่ระดับเส้นสีเหลืองเท่านั้น จากนี้จึงต้องมาลุ้นว่า โควิดโอมิครอนหลังสงกรานต์จะเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้ที่ไม่ต้องลุ้นคือเที่ยวสงกรานต์อย่างระมัดระวัง ไม่เป็นทั้งผู้แพร่เชื้อและรับเชื้อกลับมา.