“ตั้งแต่เกิดมา เห็นที่บ้านทำฟาร์มไก่ไข่มา 60 ปี ยังไม่เคยเห็นราคาไข่ไก่แพงวิกฤติเท่าตอนนี้เลย” เสียงบอกเล่าชัดๆ จากนายมาโนช ชูทับทิม นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ ในยุคที่ไข่ไก่ขึ้นราคา ที่ราคาคละหน้าฟาร์มใบละประมาณ 3 บาท พอมาถึงตลาดราคาขายเพิ่มขึ้นไปเกือบ 4 บาท อย่างไข่ไก่ขนาดเบอร์ 1 ราคาที่ตลาดไปถึง 3.83 บาทแล้ว ยังไม่ต้องนึกไปถึงว่า เวลาแม่ค้าทำเมนูไข่ ไม่ว่าจะเป็นไข่เจียว ไข่ดาว ไข่พะโล้จะบวกไปอีกแค่ไหน
ไม่ไหวก็ต้องบอกว่าไหว เพราะไม่มีทางเลือก โดยนายมาโนชบอกว่า ทั้งคนเลี้ยงไก่ไข่ และผู้บริโภคก็ต้องอดทน และรอเวลา เพราะเชื่อว่าราคาไข่ไก่เมื่อมีวันแพง ก็ต้องมีวันถูก ส่วนตอนนี้ไข่ไก่ขึ้นราคาจนแพงขึ้น ก็อย่าโทษสงครามรัสเซียถล่มยูเครนเลย เพราะจริงๆ ราคาไข่ไก่ค่อยๆ แพงมาหลายเดือนแล้ว โดยเฉพาะปี 2564 เพราะต้นทุนอาหารสัตว์แพงขึ้น และไก่ไข่ที่ซื้อก็แพงขึ้น
สาเหตุราคาไข่ไก่แพง
ในวงจรของการขายไข่ไก่นั้น นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ ไล่เรียงเห็นภาพถึงสาเหตุที่ทำให้ไข่ไก่แพงดังนี้
1. เริ่มจากลงทุนซื้อไก่ไข่มาเลี้ยง ซึ่งเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไขส่วนใหญ่จะลงทุนซื้อไก่สาว หรือไก่ที่อายุประมาณ 4 เดือนมาเลี้ยง หรือที่เรียกกันว่าไก่ยืนกรงให้ออกไข่ ส่วนใหญ่ไม่ซื้อลูกเจี๊ยบมาเลี้ยง เพราะอาหารสัตว์แพง และต้องเสียค่ายา ค่าวัคซีนอีกประมาณ 15 ครั้ง รอเวลานานเพราะต้องเลี้ยง 4 เดือนกว่าจะโตเป็นไก่สาวออกไข่ได้ โดยราคาไก่สาวตัวละประมาณ 160-170 บาท จากต้นปี 2564 ตัวละประมาณ 150 บาท
2. ค่าอาหารสัตว์ ที่มีวัตถุดิบหลักคือข้าวโพด ตอนนี้กิโลกรัมละ 14 บาท แพงกว่าต้นปีที่ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 10 บาท ไก่ตัวหนึ่งต้องกินวันละ 120 กรัม เท่ากับหนึ่งกิโลกรัมเลี้ยงไก่ได้ประมาณ 8-9 ตัว ต่อวัน ซึ่งในส่วนของอาหารสัตว์นี้ คิดเป็นต้นทุนประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ของการทำฟาร์มไก่ไข่ในแต่ละวัน โดยตัวหนึ่งจะออกไข่ได้ประมาณปีครึ่ง
...
3. ต้นทุนอีกประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ คือค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเสื่อมราคาโรงเรือน กรงไก่ และพันธุ์สัตว์ ซึ่งพันธุ์สัตว์นี้ ต้องคิดค่าเสื่อม เพราะไก่ที่เลี้ยงทุกตัวไม่ได้ออกไข่ได้ทุกวัน โดยเฉลี่ยสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 8 ใน 10 ตัวที่ออกไข่ประจำ
จากต้นทุนเริ่มจากการซื้อไก่ไข่สาวมาเลี้ยง ค่าอาหารสัตว์ และค่าเสื่อมต่างๆ ทำให้เกษตรกรฟาร์มไก่ไข่หลายที่คำนวณแล้วมีต้นทุนประมาณฟองละ 3 บาท จึงต้องขายไข่ไก่คละหน้าฟาร์มช่วงกลางเดือนมี.ค.แบบนี้ประมาณ 3.10 บาทต่อฟอง
นายมาโนช เล่าด้วยว่าปัจจุบันตัวเขาเองมีฟาร์มไก่ไข่ เลี้ยงอยู่ประมาณ 3 แสนตัว เก็บไข่ได้ประมาณวันละกว่า 2.4 แสนฟอง ตอนนี้ต้องดูแลตัวเองและแนะนำผู้เลี้ยงไก่ไข่ด้วยกันในช่วงนี้คือ การบริหารจัดการไก่ยืนกรง ที่หากไก่อายุเกิน 80 สัปดาห์ จะกินเยอะ ต้นทุนอาหารสัตว์ก็จะสูง และออกไข่น้อย ดังนั้นอาจยอมตัดใจปลดแม่ไก่ไข่หรือที่เรียกว่าไก่ปลด ออกขายแปรรูปเป็นเนื้อไก่ ซึ่งขณะนี้ถือว่าได้ราคาดีอยู่ที่กิโลกรัมละ 30 บาท ตัวละเฉลี่ย 2 กิโลกรัม โดยต้องบริหารการจัดการเปลี่ยนไก่ไข่รุ่นใหม่เข้าทดแทน เพื่อไม่ให้ไข่ขาดตลาด ซึ่งขณะนี้จำนวนไก่ไข่ไม่ได้ขาดตลาด เพียงแต่ต้นทุนการเลี้ยงสูงจากอาหารสัตว์แพง
สิ้นปี 2564 กรมปศุสัตว์รายงานว่า มีไก่ไข่ 58,291,524 ตัว มากกว่าปี 2563 จำนวน 919,879 ตัว หรือเกือบ 1 ล้านตัว โดยผลิตไข่ออกสู่ตลาดวันละประมาณ 42 ล้านฟอง หรือปีละกว่า 15,000 ล้านฟอง ขณะที่คนไทยบริโภคไข่ไก่คนละ 223 ฟองต่อปี โดยกรมอนามัยมีเป้าหมายอยากให้คนไทยกินไข่เพิ่มเป็นคนละ 300 ฟองต่อปี
สิ่งที่นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ อยากวอนถึงการบริหารจัดการของภาครัฐคือ ช่วยตรวจสอบสต๊อกของอาหารสัตว์โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ว่ามีการกักตุน จนทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์เดือดร้อน จนไปถึงปากท้องของผู้บริโภคหรือไม่